DSpace Community: สถาบันวิทยาการสารสนเทศ
สถาบันวิทยาการสารสนเทศ
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/3146
2024-03-29T14:47:40Z
2024-03-29T14:47:40Z
การฝังซ่อนข้อมูลในสื่อวิดีโอรอบทิศทางร่วมกับระบบภูมิสารสนเทศแบบสเตกาโนกราฟีโดยใช้หลายชุดข้อมูลและหลายกุญแจรหัส
กตัญญู กลับสุวรรณ์
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/3161
2016-09-24T12:12:36Z
2554-01-01T00:00:00Z
Title: การฝังซ่อนข้อมูลในสื่อวิดีโอรอบทิศทางร่วมกับระบบภูมิสารสนเทศแบบสเตกาโนกราฟีโดยใช้หลายชุดข้อมูลและหลายกุญแจรหัส
Authors: กตัญญู กลับสุวรรณ์
2554-01-01T00:00:00Z
การศึกษาแนวทางส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของบุคลากรสานักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์.
นิสากร เนตรเพ็ง, ผุสดี กลิ่นเกษร.
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/8383
2022-08-29T04:14:30Z
2564-10-18T00:00:00Z
Title: การศึกษาแนวทางส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของบุคลากรสานักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์.
Authors: นิสากร เนตรเพ็ง, ผุสดี กลิ่นเกษร.
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ จํานวน 2ข้อ คือ1) เพื่อศึกษาลักษณะการเรียนรู้ตลอดชีวิตของบุคลากร
สายสนับสนุน ระดับบังคับบัญชาและระดับปฏิบัติการ สํานักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ 2) เพื่อศึกษาแนวทาง
ส่งเสริ มการเรี ยนรู้ตลอดชีวิตของบุคลากรสายสนับสนุน ระดับบังคับบัญชาและระดับปฏิบัติการ สํานักงาน
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กลุ่มตัวอยาง่ คือ บุคลากรสายสนับสนุน ระดับบังคับบัญชาและระดับปฏิบัติการ สํานักงาน
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จํานวน 232คน โดยการสุ่มตัวอยางแบบแบ ่ ่งชั้นภูมิ เก็บรวบรวมข้อมูลเป็ นสองระยะ คือ
ระยะที่ 1 เก็บข้อมูลเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถามลักษณะเป็ นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ
การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพโดย
การสนทนากลุ่ม เครื่องมือที่ใช้คือคู่มือประกอบการสนทนากลุ่ม เพื่อศึกษาแนวทางส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ของบุคลากรสํานักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ วิเคราห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบวา ่ 1)ผลการศึกษาลักษณะการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของบุคลากรสายสนับสนุน ระดับบังคับ
บัญชาและระดับปฏิบัติการ สํานักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกอบไปด้วย 6 ด้าน คือ ด้านเจตคติ ด้านเป้าหมาย
ในการเรียนรู้ ด้านการควบคุมตัวเองในการเรียนรู้ ด้านการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ด้านการสื่อสาร และด้าน
การแก้ไขปัญหา โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ซึ่ งด้านเจตคติมีค่าเฉลี่ยสูงสุด และด้านเป้าหมายใน
การเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยตํ่าสุด 2)ผลการศึกษาแนวทางส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของบุคลากรสายสนับสนุน ระดับ
บังคับบัญชาและระดับปฏิบัติการ สํานักงานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ประกอบไปด้วย 6 ด้าน คือ ด้านเจตคติ
ควรจัดหาทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดที่เป็นฐานข้อมูลออนไลน์ และควรสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเรียนรู้
ตลอดชีวิตด้วยการสนับสนุนรางวัลหรือการให้ค่าตอบแทนเพิ่
มขึ้น เมื่อมีความสามารถพิเศษเพิ่
มขึ้น ด้านเป้าหมาย
ในการเรียนรู้ ควรกาหนดช ํ ่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในสัปดาห์ ให้มีการแข่งขันความรู้ที่ได้ค้นหา/อ่าน มานําเสนอหรือ
ระดมสมองแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกนและก ั น และควรประชาสัมพันธ์หนังสือใหม ั ่และหนังสือน่าอ่านลงบอร์ด
ประชาสัมพันธ์ต่างๆ และจัดมุมนั่
งอ่านหนังสือตามโซนต่างๆ เพื่อกระตุ้นความสนใจในการอ่านหนังสือในแต่ละวัน ด้านการควบคุมตนเองในการเรียนรู้ องค์กรควรสนับสนุนให้บุคลากรได้ฝึ กฝนการสร้างสมาธิ ผ่านโครงการ
สมาธิเพื่อสร้างปัญญา ด้านการเรียนรู้อยางสร้างสรรค์ ควรส ่ ่งเสริมให้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกนและก ั น ั
ไม่วาจะในระดับเดียวก ่ นหรือต ั ่างระดับ รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้นอกสายงาน เพื่อเกิดเป็ นองค์ความรู้ใหม่
ให้กบตนเอง ด้านการสื่อสาร ั ควรส่งเสริมให้บุคลากรได้ฝึ กภาษาที่หลากหลายกบเจ้าของภาษาโดยตรง อาจจัดซื ั ้อ
โปรแกรมหรือแอพลิเคชันที่ช ่ ่วยฝึ กทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อให้บุคลากรมีประสิทธิภาพในการสื่อสารที่ดี
มากยิ่
งขึ้น และด้านการแกไขปัญหา ควรส ้ ่งเสริมโดยการเชิญวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์
ในเรื่องการแกไขปัญหาในการทํางานมาบรรยายให้ก ้ บบุคลากรในองค์กร เพื่อเพิ ั ่
มศักยภาพและลดความผิดพลาด
ในการทํางาน
2564-10-18T00:00:00Z
การพัฒนาความฉลาดทางดิจิทัลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับการเรียนรู้แบบไมโครเลิร์นนิ่ง.
ปิยะพงษ์ ธรรมรักษ์, ผุสดี กลิ่นเกษร.
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/8382
2022-08-29T04:12:07Z
2565-10-18T00:00:00Z
Title: การพัฒนาความฉลาดทางดิจิทัลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล โดยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน ร่วมกับการเรียนรู้แบบไมโครเลิร์นนิ่ง.
Authors: ปิยะพงษ์ ธรรมรักษ์, ผุสดี กลิ่นเกษร.
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกบั
การเรี ยนรู้แบบไมโครเลิร์นนิ่ง (2) เพื่อเปรี ยบเทียบระดับความฉลาดทางดิจิทัลของนักเรี ยนก่อนเรียนและ
หลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกบการเรียนรู้แบบไมโครเลิร์นนิ ั ่
ง เครื่องมือที่ใช้ใน
การวิจัย ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการเรียนรู้แบบไมโครเลิร์นนิ่ง
จํานวน 5 แผน มีคุณภาพอยู่ในระดับ มากที่สุด แบบประเมินสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ท้ายคาบโดยนักเรียน
และแบบทดสอบวัดความฉลาดทางดิจิทัล มีค่าความเชื่อมันที่ ่ 0.79 กลุ่มตัวอยาง คือ นักเรียนชั ่ ้นมัธยมศึกษาปี ที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2564 โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล จังหวัดสกลนคร จํานวน 160 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วย
สถิติค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที แบบ dependent samples
ผลการศึกษาวิจัยพบวา ( ่ 1) การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกบการเรียนรู้ ั แบบไมโครเลิร์น
นิ่ง มี 6 องค์ประกอบ คือ การกาหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ การวางแผนลําดับเนื ํ ้อหาการสอน การทําวิดีโอ
การสอนหรื อแหล่งข้อมูลสืบค้น การสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง การทํากิจกรรมในห้องเรี ยน และการวัด
ประเมินผล (2) ระดับความฉลาดทางดิจิทัลของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกบั
การเรียนรู้แบบไมโครเลิร์นนิ่
ง สูงกวาก่ ่อนเรียน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ . ่ 05
2565-10-18T00:00:00Z
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน เรื่องวิธีการทางประวัติศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสังกัดสานักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร.
บุญลัดดา ปริสุทธ, ผุสดี กลิ่นเกษร.
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/8381
2022-08-29T04:09:38Z
2564-10-18T00:00:00Z
Title: การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน เรื่องวิธีการทางประวัติศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสังกัดสานักงานเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร.
Authors: บุญลัดดา ปริสุทธ, ผุสดี กลิ่นเกษร.
Abstract: บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็ นฐาน เรื่องวิธีการ
ทางประวัติศาสตร์ สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ เรื่องวิธีการทาง
ประวัติศาสตร์ สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6ก่อนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้
กิจกรรมเป็ นฐานเครื่องมือวิจัย ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้มีค่าประสิทธิภาพ และ แบบทดสอบ
วัดผลการเรี ยนรู้มีค่าความเชื่อมั่
นที่ .56กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรี ยนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรี ยนสังกัด
สํานักงานเขตบางเขนกรุงเทพมหานคร จํานวน 36คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย (x�) ส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน (S.D.) สถิติทดสอบ (t) ร้อยละหรือเปอร์เซ็น (Percentage) และ การใช้การหาประสิทธิภาพ (E1/E2)
ผลการศึกษาวิจัย พบวา่ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็ นฐาน เรื่องวิธีการทางประวัติศาสตร์
สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 พบวา ค่ ่าประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็ นฐาน
เรื่องวิธีการทางประวัติศาสตร์ สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 (E1/E2) ของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เท่ากบ ั
85.87/85.19 2)ผลการเปรียบเทียบคะแนนของการทดสอบก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้
กิจกรรมเป็ นฐาน เรื่องวิธีการทางประวัติศาสตร์ สําหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6 พบว่า คะแนนทดสอบ
หลังจากเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็ นฐาน เรื่องวิธีการทางประวัติศาสตร์ สําหรับนักเรียน
ชั้
นประถมศึกษาปี ที่ 6 สูงกวาคะแนนทดสอบก ่ ่อนเรียนอยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ. ่ 05 (t=16.37; p < .05)
2564-10-18T00:00:00Z