DSpace Community: วิทยาคารพญาไท มหาวิทยาลัยศรีปทุม
วิทยาคารพญาไท มหาวิทยาลัยศรีปทุม
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/416
2024-03-29T08:17:31Z
2024-03-29T08:17:31Z
ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของเทศบาลเมืองนครนายกอำเภอเมืองนครนายก จังหวดนครนายก : THE SATISFACTION OF RECIPIENTS SERVICES FROM NAKHON NAYOK MUNICIPALITY, NAKHON NAYOK DISTRICT, NAKHON NAYOK PROVINCE
จักรพันธ์ แจ้งเหตุผล
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/4602
2016-09-24T12:40:47Z
2559-08-24T07:33:52Z
Title: ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของเทศบาลเมืองนครนายกอำเภอเมืองนครนายก จังหวดนครนายก : THE SATISFACTION OF RECIPIENTS SERVICES FROM NAKHON NAYOK MUNICIPALITY, NAKHON NAYOK DISTRICT, NAKHON NAYOK PROVINCE
Authors: จักรพันธ์ แจ้งเหตุผล
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1) ศึกษาระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของเทศบาลเมืองนครนายก อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ในรอบปี 2558
2) เปรียบเทียบระดับความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของเทศบาลนครเมืองนครนายก ในรอบปี 2558 จำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา และอาชีพ โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนผู้มารับบริการจากเทศบาลเมืองนครนายก จำนวน 400 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบเป็นขั้นตอน ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลและนำมาวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป คำนวณหาความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติทดสอบสมมติฐานการวิจัย ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ใช้ค่าสถิติ t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way Analysis Of Variance) เครื่องมือเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า
ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนที่มาติดต่อขอรับบริการมีความพึงพอใจต่อการให้บริการของเทศบาลเมืองนครนายก อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ทางด้านการส่งเสริมอาชีพและรายได้ และด้านพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการสาธารณูปโภค ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านการสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม และสวัสดิการสังคม ด้านงานการจัดระเบียบชุมชน สังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย และด้านการจัดการศึกษา ศาสนา กีฬา และวัฒนธรรม ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง
ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของเทศบาลเมืองนครนายก อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก พบว่า ประชาชนที่มีเพศ ระดับการศึกษา และอาชีพต่างกันมีความพึงพอใจแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่ผลการเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มอายุทั้ง 4 กลุ่ม พบว่า ความพึงพอใจโดยภาพรวมและความพึงพอใจในด้านต่างๆทุกด้าน มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านการจัดระเบียบชุมชนสังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อย และ ด้านการจัดการศึกษา ศาสนา กีฬา และวัฒนธรรม ซึ่งประชาชนมีความพึงพอใจแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยที่ประชาชนกลุ่มอายุ มากกว่า 69 ปี มีความพึงพอใจต่อการจัดระเบียบชุมชนสังคม และการรักษาความสงบเรียบร้อยมากกว่ากลุ่มอายุ 36-50 ปี และประชาชนกลุ่มอายุ 18 – 35 ปี มีความพึงพอใจต่อการจัดการศึกษา ศาสนา กีฬา และวัฒนธรรม มากกว่า กลุ่มอายุ 36 – 50 ปี
Description: "หลักสูตรรัฐประศาสนสตร์
มหาวิทยาลัยศรีปทุม"
2559-08-24T07:33:52Z
การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลนาคำไฮ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู : PARENTS’PARTICIPATION IN PARTICIPATORY EDUCATIONAL MANAGEMENT CONDUCTED WITH CHILD DEVELOPMENT CENTER OF NAKHAMHAI SUB-DISTRICT ADMINISTRATION ORGANIZATION, MUANG DISTRICT, NONG BUALAMPHU PROVINCE
ณัฏฐพัชร์ อัครวสุวัฒน์
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/4574
2016-09-24T12:40:41Z
2559-08-22T08:54:19Z
Title: การมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลนาคำไฮ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู : PARENTS’PARTICIPATION IN PARTICIPATORY EDUCATIONAL MANAGEMENT CONDUCTED WITH CHILD DEVELOPMENT CENTER OF NAKHAMHAI SUB-DISTRICT ADMINISTRATION ORGANIZATION, MUANG DISTRICT, NONG BUALAMPHU PROVINCE
Authors: ณัฏฐพัชร์ อัครวสุวัฒน์
Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาร่วมกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์การบริหารส่วนตำบลนาคำไฮ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภูเพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาร่วมกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ของ องค์การบริหารส่วนตำบลนาคำไฮ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และเพื่อศึกษา ถึงปัญหาอุปสรรคการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาร่วมกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กของ องค์การบริหารส่วนตำบลนาคำไฮ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ปกครองนักเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลนาคำไฮ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ปีการศึกษา 2558 จำนวน 150 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมี จำนวน 150 คน ส่วนใหญ่มีจำนวนสมาชิกในครอบครัวน้อยกว่า 3 คน มีอายุระหว่าง 25-35 ปี ระดับการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี มีรายได้ของครอบครัวต่ำกว่า 15,000 /เดือน อาชีพที่สร้างรายได้หลักของครอบครัว มีอาชีพเกษตรกร ค่าใช้จ่ายในการศึกษา ส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายในการศึกษาน้อยกว่า 5,000 บาท/ภาคเรียน การมีส่วนร่วมของของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาร่วมกับศูนย์ พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลนาคำไฮ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู โดยภาพรวม อยู่ในระดับน้อยถึงระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการติดตามประเมินผลการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง อยู่ในระดับปานกลาง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการที่ศูนย์พัฒนาเด็ก การมีส่วนร่วมในการวางแผน และด้านการมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่บ้าน มีส่วนร่วมของปกครองอยู่ในระดับน้อย ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า ผู้ปกครองที่มีจำนวนบุตรต่างกัน อาชีพที่สร้างรายได้หลักของครอบครัวต่างกันมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาร่วมกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์การบริหารส่วนตำบลนาคำไฮ อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
คำสำคัญ: การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง, การจัดการศึกษา, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
Description: มหาวิทยาลัยศรีปทุม
2559-08-22T08:54:19Z
ประสิทธิผลระบบสารสนเทศ กรณีศึกษา : ระบบสารสนเทศฐานข้อมูล/เครือข่าย ด้านการป้องกันการทุจริต ของสำนักงาน ป.ป.ช.: INFORMATION SYSTEM EFFECTIVENESS CASE STUDY : DATABASE/NETWORK OF PREVENTING CORRUPTION INFORMATION SYSTEM OF THE OFFICE OF THE NATIONAL ANTI-CORRUPTION COMMISSION
ฐานิศร์ วิริยธนานนท์
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/4573
2016-09-24T12:40:40Z
2559-08-22T08:35:59Z
Title: ประสิทธิผลระบบสารสนเทศ กรณีศึกษา : ระบบสารสนเทศฐานข้อมูล/เครือข่าย ด้านการป้องกันการทุจริต ของสำนักงาน ป.ป.ช.: INFORMATION SYSTEM EFFECTIVENESS CASE STUDY : DATABASE/NETWORK OF PREVENTING CORRUPTION INFORMATION SYSTEM OF THE OFFICE OF THE NATIONAL ANTI-CORRUPTION COMMISSION
Authors: ฐานิศร์ วิริยธนานนท์
Abstract: การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงสำรวจ เพื่อให้ทราบถึงประเด็นปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลระบบสารสนเทศ กรณีศึกษา: ระบบสารสนเทศฐานข้อมูล/เครือข่าย ด้านการป้องกันการทุจริต ของสำนักงาน ป.ป.ช.โดยมุ่งเน้นศึกษากลุ่มประชากรที่ดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ในสำนักงาน ป.ป.ช. ที่มีเป็นผู้ใช้งานระบบดังกล่าวโดยตรง จำนวน 109 คน แยกเป็นขอบเขตด้านต่างๆ ได้แก่ ขอบเขตด้านตัวแปร ประกอบด้วย ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ การศึกษา ตำแหน่ง ระดับตำแหน่ง อายุการทำงาน การอบรมการใช้งานระบบ ปัจจัยด้านผู้ใช้ระบบ ได้แก่ ความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ การสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชา ปัจจัยด้านเครื่องมือ ได้แก่ ประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ ประสิทธิภาพของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต และปัจจัยด้านระบบ ได้แก่ ความซับซ้อนในการใช้งาน ความเสถียรของระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้สถิติเชิงพรรณนา เช่น ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าเฉลี่ย (Mean) เปรียบเทียบความแตกต่างของความเห็นต่อประสิทธิผลระบบฐานข้อมูล/เครือข่าย ด้านการป้องกันการทุจริต ของสำนักงาน ป.ป.ช. ได้แก่ เพศ การศึกษา ตำแหน่ง ระยะเวลาในการปฏิบัติราชการ สังกัด การอบรมการใช้ระบบ t-test และ One-Way Analysis of Variance (One-Way ANOVA) โดยกำหนดนัยสำคัญเท่ากับ 0.05 หรือระดับความเชื่อมั่นทาง สถิติ 95% และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านผู้ใช้ระบบ ปัจจัยด้านเครื่องมือ และปัจจัยด้านระบบ โดยใช้สถิติสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน
Description: มหาวิทยาลัยศรีปทุม
2559-08-22T08:35:59Z
ประสิทธิผลการบริหารงานด้านศาสนสมบัติกลางของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท :THE EFFECTIVENESS OF ADMINISTRATION ON ECCLESIASTICAL PROPERTY OF CHAINAT PROVINCIAL OFFICE OF BUDDHISM
ญาณสุวัฒน์ อินท่าทอง
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/4572
2016-09-24T12:40:40Z
2559-08-22T08:13:00Z
Title: ประสิทธิผลการบริหารงานด้านศาสนสมบัติกลางของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท :THE EFFECTIVENESS OF ADMINISTRATION ON ECCLESIASTICAL PROPERTY OF CHAINAT PROVINCIAL OFFICE OF BUDDHISM
Authors: ญาณสุวัฒน์ อินท่าทอง
Abstract: การศึกษาประสิทธิผลการบริหารงานด้านศาสนสมบัติกลางของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท การศึกษาวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิผลการบริหารงาน จำนวน 4 ด้าน คือ 1) ด้านการวางแผนงาน 2) ด้านกระบวนการให้บริการ 3) ด้านการปฏิบัติงาน ของบุคลากร 4) ด้านสถานที่ให้บริการ เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้เช่าศาสนสมบัติกลาง ศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะในการพัฒนาประสิทธิผลการด้านศาสนสมบัติกลาง ของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาทมาดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้การปฏิบัติงาน มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรวบรวมจากการแจกแบบสอบถามไปยังผู้เช่าศาสนสมบัติกลาง ในเขตพื้นที่จังหวัดชัยนาท จำนวน 50 คน
ผลการศึกษาพบว่า ประสิทธิผลการการบริหารงานด้านศาสนสมบัติกลางของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท ทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ด้านการวางแผนงาน 2) ด้านกระบวนการให้บริการ 3 ) ด้านการปฏิบัติงานของบุคลากร 4) ด้านสถานที่ให้บริการ อยู่ในระดับดีมาก และผลการทดสอบสมมุติฐานพบว่า เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ ต่างกัน ความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการบริหารงานด้านศาสนสมบัติกลางของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชัยนาท ไม่แตกต่างกัน
Description: มหาวิทยาลัยศรีปทุม
2559-08-22T08:13:00Z