DSpace Collection:
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/646
2024-03-15T07:48:21Z
-
การรับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1788
Title: การรับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา
Authors: มัทนา โสพิพัฒน์
Abstract: การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาการรับรู้คุณภาพบริการของ ผู้เข้ามาใช้บริการ
โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา โดยแบ่งออกเป็น 5 ด้าน คือ ด้านความน่าเชื่อถือ ด้านการตอบสนองที่
รวดเร็ว ด้านความไว้วางใจ ด้านความเอาใจใส่ ด้านรูปลักษณ์ทางกายภาพและเพื่อเปรียบเทียบการ
รับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา จำแนกตามลักษณะทาง
ประชากรศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างในการศึกษา คือ กลุ่มผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา
จำนวน 398 คน เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามปลายปิด (close-ended
questionaire)แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับลักษณะทาง
ประชากรศาสตร์ เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้ต่อเดือน และอาชีพ
จำนวน 5 ข้อ ส่วนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับคุณภาพการบริการที่มีต่อผู้ใช้บริการของ
โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา โดยแบ่งออกเป็น 5 ด้าน คือ ด้านความน่าเชื่อถือ ด้านการตอบสนอง
ที่รวดเร็ว ด้านความไว้วางใจ ด้านความเอาใจใส่ และด้านรูปลักษณ์ทางกายภาพ ซึ่งเป็นมาตรวัด
ของ Parasuraman และคณะในปี 1988 เครื่องมือนี้เรียกว่า Servqual สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์
ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
และการทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธี LSD
ผลการวิจัยปรากฏผลดังนี้
1. การรับรู้คุณภาพบริการของผู้เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา โดยภาพรวม
อยู่ในระดับมีคุณภาพมาก โดยคุณภาพการบริการของโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชาเรียงอันดับจาก
ค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านรูปลักษณ์ทางกายภาพ ด้านความน่าเชื่อถือ ด้านความไว้วางใจ
ด้านการตอบสนอง และด้านการเอาใจใส่ ตามลำดับ2. การรับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา จำแนกตามลักษณะ
ทางประชากรศาสตร์ พบว่า
- การรับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชาจำแนกตามเพศไม่
แตกต่างกัน
- การรับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชาจำแนกตามอายุไม่
แตกต่างกัน
- การรับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชาจำแนกตามระดับ
การศึกษาไม่แตกต่างกัน
- การรับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชาจำแนกตามอาชีพมี
แตกต่างกัน ดังนี้ อาชีพแม่บ้าน, ลูกจ้างบริษัท, ค้าขาย/ ธุรกิจส่วนตัวมีการรับรู้คุณภาพบริการ
มากกว่าอาชีพรับราชการ
- การรับรู้คุณภาพบริการของผู้ใช้บริการโรงพยาบาลพญาไท ศรีราชาจำแนกตามรายได้ต่อ
เดือนมีความแตกต่างกัน ดังนี้ ผู้ใช้บริการที่มีรายได้ต่อเดือน 10,001-20,000 บาท, 20,001-30,000
บาท, 30,001-40,000 บาท และ มากกว่า 40,001 บาท มีการรับรู้คุณภาพบริการน้อยกว่าผู้ใช้บริการ
ที่มีรายได้ ต่ำกว่า 10,000 บาท
2553-06-10T09:28:53Z
-
การประเมินแนวคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานกรณีศึกษาอุตสาหกรรมผลิตถุงยางอนามัย
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1787
Title: การประเมินแนวคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานกรณีศึกษาอุตสาหกรรมผลิตถุงยางอนามัย
Authors: พิสุทธินี พูลฉันทกรณ์
Abstract: ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานที่เกิดขึ้นในฝ่ายผลิตของบริษัทฯ กรณีศึกษาอุตสาหกรรมผลิตถุงยางอนามัย และเพื่อประเมินแนวคิดเกี่ยวกับประสิทธิภาพด้านการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานของแผนกต่างๆ ในฝ่ายผลิตของบริษัทฯ ซึ่งการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัยได้ทำการกำหนดขอบเขตในการศึกษาให้อยู่ในส่วนของฝ่ายผลิตเท่านั้น โดยภาพรวมของการศึกษาวิจัยได้นำเครื่องมือ Quick Scan Method เข้ามาเพื่อใช้ในการวิเคราะห์โครงสร้างภายในขององค์กร กระบวนการผลิต กระบวนการทำงานในแต่ละแผนกที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายผลิต ซึ่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาได้มาจากการสัมภาษณ์ และการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจาก 13 แผนกที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายผลิต แล้วนำข้อมูลที่ได้มาทำการวิเคราะห์ ทั้งในเชิงของคุณภาพและเชิงปริมาณ
จากการศึกษาพบว่า การไหลของข้อมูลในโซ่อุปทานภายในบริษัทในส่วนของการผลิตนั้นยังไม่มีความต่อเนื่อง เนื่องจากขาดการประสานงานกันอย่างรวดเร็ว รวมทั้งแต่ละแผนกให้ความสำคัญที่แตกต่างกัน ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของโซ่อุปทานลดลง เกิดผลกระทบโดยตรงกับทางด้านการวางแผน การผลิต การจัดส่ง รวมไปถึงการบริหารงานหรือควบคุมการทำงาน เป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียเป็นอย่างมาก ดังนั้นในการพัฒนาโซ่อุปทานของบริษัทที่สำคัญต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องของต้นทุน การตอบสนอง ความน่าเชื่อถือ ความยืดหยุ่น คุณภาพ และระดับการให้บริการให้มีประสิทธิภาพสูงสุดรวมทั้งจัดการในกระบวนการที่สำคัญในด้านของการวางแผนงาน (Plan) เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกันในการปฏิบัติงาน
2553-06-10T09:16:01Z
-
ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีก ในเขตอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1786
Title: ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีก ในเขตอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
Authors: บุหรัน ศรีสวัสดิ์
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกของประชากรอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อศึกษาปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าในร้านค้า เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกจำแนกตามข้อมูลด้านประชากรศาสตร์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกกับปัจจัยทางการตลาด ในการศึกษาครั้งนี้ได้ใช้แบบสอบถามรวบรวมข้อมูล จากการแจกและเก็บแบบสอบถามตามสถานที่ต่างๆ บริษัท ห้างร้าน โรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงงาน ตลาดสด และแหล่งชุมชนทั่วไป ในเขตอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 400 ตัวอย่าง โดยเป็นเพศชาย 173 คน เพศหญิง 227 คน
ผลจากการศึกษาพบว่า ปัจจัยทางการตลาดโดยรวมและรายด้านมีผลต่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกใกล้บ้านในระดับมาก
พฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกของประชากรอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการซื้อสินค้าเพราะใกล้บ้านและจำเป็นต้องซื้อและซื้อสินค้าจากร้านเดิมบ่อยๆ มีการวางแผนในการซื้อสินค้าล่วงหน้า
พฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกจำแนกตามข้อมูลประชากรศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ยกเว้นจำแนกตามเพศ
พฤติกรรมการซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกจำแนกตามข้อมูลประชากรศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ยกเว้นจำแนกตามเพศ
2553-06-10T09:07:52Z
-
ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบAIS ของประชาชนในจังหวัดระยอง
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1785
Title: ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบAIS ของประชาชนในจังหวัดระยอง
Authors: จารุวรรณ เรืองอร่าม
Abstract: ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาถึงปัจจัยการตลาดกรณีศึกษาโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ AIS ของประชาชในจังหวัดระยอง ศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ ปัจจัยทางการตลาด กับกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ คือ ประชาชนผู้บริโภคที่ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ AIS ในจังหวัดระยองเท่านั้น รวมทั้งสิ้นจำนวน 400 ตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในแบบสอบถามมีลักษณะเป็นคำถามแบบมีคำตอบให้เลือกได้ 2 ข้อ (Two-way question) คำถามแบบหลายตัวเลือก (Multiple choices question) และคำถามแบบสเกลวัดทัศนคติ (Likert scale) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าฐานนิยม ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานใช้สถิติ t test และ One Way ANOVA เพื่อเปรียบเทียบ ปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ AIS ของประชาชน ในจังหวัดระยอง
ผลการวิจัยพบว่า
ปัจจัยทางการตลาดโดยรวมและรายด้าน ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านราคา ปัจจัยด้านการจัดจำหน่าย ปัจจัยด้านการส่งเสริมการตลาด ปัจจัยทางด้านบุคคลหรือพนักงาน ปัจจัยทางด้านการสร้างลักษณะทางกายภาพ ปัจจัยทางด้านกระบวน การมีผลต่อการเลือกใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ AIS ของประชาชน ในจังหวัดระยอง ในระดับมาก และปัจจัยทางการตลาดที่มีผลต่อการเลือกใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ AIS ของประชาชน ในจังหวัดระยอง จำแนกตาม ประชากรศาสตร์ แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
2553-06-10T09:01:13Z