กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1153
ชื่อเรื่อง: ผู้แทนทางการเมืองของชนกลุ่มน้อย: ศึกษากรณีชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูในจังหวัดชายแดนใต้ประเทศไทยและชาวพุทธเชื้อสายไทยในรัฐชายแดนเหนือประเทศมาเลเซีย
ชื่อเรื่องอื่นๆ: THE POLITICS OF ETHNIC REPRESENTATION: MALAY-MUSLIMS IN SOUTHERN THAILAND AND THAI BUDDHISTS IN NORTHERN MALAYSIA
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: สุริยะ, สะนิวา
วันที่เผยแพร่: 2550
บทคัดย่อ: การวิจัยฉบับนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการเป็นผู้แทนด้านการเมืองของชนกลุ่มน้อย มีความมุ่งหมายที่จะ สืบค้นถึงคำถามที่ว่า “ชนกลุ่มน้อยมีผู้แทนทางเมืองอย่างไรในการที่จะดำเนินกิจกรรมให้บรรลุถึงเป้าหมายผลประโยชน์ของชุมชนที่ได้กำหนดไว้?” โดยใช้ชุมชนชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูทางใต้ของประเทศไทยและชาวพุทธเชื้อสายไทยทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซียเป็นสนามตรวจสอบ การวิจัยฉบับนี้จึงเป็นวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้ปัจจัยอิสระเจ็ดปัจจัยคือ การมีอิสรภาพในระบบการเมือง การสื่อสารในยุคโลกาภิวัตน์ รูปแบบของการเป็นผู้นำ การเป็นผู้รู้ในศาสนา สภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การศึกษาสูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงด้านทัศนคติ เพื่อค้นหาค่าความเป็นไปได้ โดยมีตัวแปรตามคือ “วิธีการที่ชนกลุ่มน้อยเป็นผู้แทนด้านการเมือง” จึงมีการใช้แหล่งข้อมูลทั้งที่เป็นปฐมภูมิจากการสัมภาษณ์ และที่เป็นทุติยภูมิจากการค้นคว้าจากเอกสารต่างๆ ซึ่งได้จัดทำชุดคำถามหนึ่งชุดสอบถามความคิดเห็น แล้วทำการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระกับตัวแปรตาม ซึ่งตัวแปรอิสระตัวไหนที่มีระดับของความสัมพันธ์พิจาณณาดูจากความถี่และร้อยละ ค่าของร้อยละที่มากที่สุดจะถือเป็นการยอมรับสมมุติฐานที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งการวิจัยในครั้งนี้พบว่า ผู้นำที่มีหัวเสรีและการศึกษาสูงมีค่าความเป็นไปได้สูงสุด อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์ความเคลื่อนไหวในการเป็นผู้แทนทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของความรุนแรงหรือการเดินสายกลาง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้นำหัวเสรีและสถานภาพการศึกษาสูง แต่จะขึ้นอยู่กับทิศทางการตอบสนองของรัฐบาลที่มีต่อชนกลุ่มน้อยนั้นเอง สิ่งที่น่าสังเกตุคือ ขณะที่ชุมชนมุสลิมเชื้อสายมลายูมีทั้งกระบวนการก่อความความรุนแรงและเดินสายกลาง แต่ชุมชนพุทธเชื้อสายไทยทางตอนเหนือของมาเลเซียไม่เคยรสนับสนุนความรุนแรงเลย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า รัฐบาลมาเลเซียไม่เคยมีการใช้นโยบายควบคุมที่บังคับชุมชนชาวไทยในประเทศของตนนั้นเอง ส่วนปัจจัยอื่นๆ อีกหกปัจจัยนั้นพบว่า มีความเห็นที่แตกต่างกันจากผู้ตอบคำถามจากทั้งสองกลุ่มศึกษา
URI: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1153
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:บทความที่นำเสนอในการประชุมวิชาการ ปีการศึกษา 2550

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
สุริยะ สะนิวา.pdf216.51 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น