Please use this identifier to cite or link to this item:
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1718
Title: | ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต: ศึกษากรณีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) พ.ศ.2550 |
Authors: | ปรีชา สามารถ |
Keywords: | กฎหมาย คาร์บอนเครดิต พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ก๊าซเรือนกระจก |
Issue Date: | 18-May-2553 |
Abstract: | การศึกษาครั้งนี้เนื่องจากปัญหาโลกร้อน (Global Warming) ที่ต้องเผชิญอยู่ในปัจจุบันเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ เมื่อมีการสะสมของก๊าซเหล่านี้เป็นจำนวนมากในชั้นบรรยากาศก่อให้เกิดการเก็บกักความร้อนจากรังสีดวงอาทิตย์เอาไว้ หรือที่เรียกกันว่าภาวะเรือนกระจก (Greenhouse Effect) ส่งผลกระทบถึงความเป็นอยู่ของประชาคมโลกโดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม ทำให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปจากปกติที่เคยเป็นมาส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก รวมถึงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ ดังนั้นการประชุมอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) จึงมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุถึงการรักษาระดับความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศให้คงที่ อยู่ในระดับที่ปลอดภัยจากการแทรกแซงของมนุษย์ที่เป็นอันตรายต่อระบบภูมิอากาศ การรักษาระดับดังกล่าวต้องดำเนินการในระยะเวลาเพียงพอที่จะให้ระบบนิเวศปรับตัวโดยไม่คุกคามต่อการผลิตอาหารของมนุษย์ จากนั้นมีการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญา (Conference of the Parties: COP) ครั้งที่ 3 ณ กรุงโตเกียว ได้มีการตกลงยกร่างพิธีสารเกียวโต (Kyoto Protocol) ขึ้นในวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2530 ได้มีการกำหนดพันธกรณีในการลดก๊าซเรือนกระจกที่เป็นข้อผูกมัดทางกฎหมายสำหรับประเทศในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหรือกลุ่มภาคผนวกที่ 1 (Annex I) และมีพันธกรณีทั่วไปร่วมกันระหว่างประเทศภาคีสมาชิกทั้งหมดรวมถึงการเพิ่มการดูดซับก๊าซเรือนกระจก และเสริมด้วยกลไกอื่นๆ ได้แก่ Joint Implementation, Clean Development Mechanism และ Emissions Trading เพื่อให้ได้มาซึ่งเครดิตที่มีต้นทุนต่ำกว่าการลดก๊าซเรือนกระจกภายในประเทศ ประเทศไทยสามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยผ่านกลไกการพัฒนาที่สะอาด จากการศึกษาพบว่าพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) พ.ศ.2550 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ.2520 (แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3) พ.ศ.2544 และกฎหมายทั่วไปยังครอบคลุมไม่ทั่วถึง ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) พ.ศ.2550 มาตรา 7(2) ว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาโครงการที่ได้คำรับรองเท่านั้น เนื่องจากการลงทุนเกี่ยวกับกลไกการพัฒนาที่สะอาด โครงการใดต้องการที่จะขายก๊าซเรือนกระจกได้จะต้องผ่านการรับรองในชื่อ Certified Emission Reductions โดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เป็นผู้พิจารณาให้การรับรองโครงการ โครงการที่ยังไม่ได้คำรับรองหรือไม่ได้ขอคำรับรองก็จะไม่ได้รับการส่งเสริมและไม่ได้ประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตด้วย ตามมาด้วยปัญหาการส่งเสริมการลงทุน เนื่องจากโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขนาดใหญ่ต้องใช้เทคโนโลยีและเงินลงทุนสูง ควรส่งเสริมการลงทุนตามปกติ ส่วนโครงการขนาดเล็กส่งเสริมเฉพาะคนไทยเท่านั้น เพราะใช้เงินลงทุนต่ำและเทคโนโลยีไม่สูงนัก ต่อมาปัญหากฎหมายเกี่ยวกับหน่วยงานในการตรวจสอบโดยไม่มีหน่วยงานใดมาตรวจสอบและติดตามผลโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ได้คำรับรองแล้ว และปัญหาการขาดมาตรการบังคับทางกฎหมายยังไม่มีมาตรการบังคับทางกฎหมายในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ดังนั้นผู้ศึกษาจึงได้เสนอแนะดังนี้ ให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) พ.ศ.2550 มาตรา 7(2) ว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาโครงการที่ได้คำรับรองและโครงการที่ไม่ได้คำรับรอง ขยายขอบเขตประเภทของผู้ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตว่าควรจะต้องส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ลดก๊าซเรือนกระจกโดยใช้เทคโนโลยีที่สูงเท่านั้น และการเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กับกรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือหน่วยงานเอกชนให้มีอำนาจหน้าที่เข้าไปตรวจสอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามโรงงานอุตสาหกรรมหรือโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่างๆที่ได้คำรับรอง แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 โดยให้ก๊าซเรือนกระจกเป็นก๊าซที่ต้องมีการควบคุมปริมาณการปล่อยและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ |
URI: | http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1718 |
Appears in Collections: | S_CHO-09. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
1title..pdf | 36.85 kB | Adobe PDF | View/Open | |
2abstract.pdf | 78.21 kB | Adobe PDF | View/Open | |
3acknow.pdf | 45.07 kB | Adobe PDF | View/Open | |
4content.pdf | 55.98 kB | Adobe PDF | View/Open | |
5chap1.pdf | 111.4 kB | Adobe PDF | View/Open | |
6chap2.pdf | 281.84 kB | Adobe PDF | View/Open | |
7chap3.pdf | 223.22 kB | Adobe PDF | View/Open | |
8chap4.pdf | 109.42 kB | Adobe PDF | View/Open | |
9chap5.pdf | 90.67 kB | Adobe PDF | View/Open | |
10bib.pdf | 115.26 kB | Adobe PDF | View/Open | |
11appen.pdf | 164.69 kB | Adobe PDF | View/Open | |
12profile.pdf | 41.04 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.