Please use this identifier to cite or link to this item: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/2597
Title: ปัญหาการกำหนดคำบังคับในคำพิพากษาของศาลปกครอง
Authors: ชลธิชา สอนศิริ
Keywords: คำบังคับ
คำพิพากษา
ศาลปกครอง
Issue Date: 28-August-2554
Abstract: ศาลปกครองเป็นศาลที่มีอำนาจหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีปกครองที่เกี่ยวข้องกับคดีพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชนกรณีหนึ่งและข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกันเองอีกกรณีหนึ่ง โดยที่ข้อพิพาทเหล่านี้เกิดจากการที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือละเลยต่อหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรหรือเป็นคดีอันเนื่องมาจากการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรืออันเนื่องมาจากสัญญาทางปกครอง ซึ่งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายหรืออาจจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้อันเนื่องจากการกระทำหรือการงดเว้นการกระทำของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองหรือกรณีอื่นใดที่อยู่ในเขตอำนาจศาลปกครองตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 และการแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนหรือความเสียหายหรือยุติข้อโต้แย้งนั้น ต้องมีคำบังคับตามที่กำหนดในมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ในกรณีที่จะพิจารณาว่าผู้ฟ้องคดีมีส่วนได้เสียหรือประโยชน์เกี่ยวข้องที่จะมีสิทธิฟ้องคดีปกครองต้องพิจารณาเหตุแห่งการฟ้องคดีและคำขอเยียวยาความเสียหาย โดยคำขอเยียวยาความเสียหายต้องเป็นคำบังคับที่อยู่ในอำนาจของศาลปกครองที่จะมีคำบังคับได้ ดังนั้นผู้ศึกษาเห็นว่าในการพิพากษาคดีของศาลปกครองมีอำนาจกำหนดคำบังคับตามที่บัญญัติในมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 เมื่อกรณีรับฟังข้อเท็จจริงได้ตามคำฟ้องศาลปกครองอาจมีคำพิพากษานอกเหนือจากคำขอของผู้ฟ้องคดีแต่เกี่ยวเนื่องอย่างใกล้ชิดกับคำขอได้ เพราะผู้ฟ้องคดีอาจไม่ทราบหรือไม่เข้าใจว่าการแก้ไขความเดือดร้อนหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นควรขอให้ศาลออกคำบังคับอย่างไร หากศาลปกครองถือตามที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขออย่างเคร่งครัด ทั้งที่ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำฟ้อง แต่ศาลปกครองไม่กำหนดคำบังคับให้ย่อมจะก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ฟ้องคดี ความเดือดร้อนหรือความเสียหายหรือข้อโต้แย้งดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่ต่อไป ซึ่งศาลปกครองควรวางหลักการต่อไปว่า ในกรณีที่รับฟังข้อเท็จจริงได้ตามคำฟ้อง ศาลปกครองมีอำนาจที่จะหยิบยกเรื่องการกำหนดคำบังคับที่อยู่ในอำนาจของศาลปกครองเพื่อแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนหรือเสียหายหรือยุติข้อโต้แย้งได้เอง หรือควรให้เป็นดุลพินิจของศาลปกครองว่าจะกำหนดคำบังคับเพื่อแก้ไขหรือบรรเทาความเดือดร้อนหรือความเสียหายหรือยุติข้อโต้แย้งนั้นอย่างไร โดยอาจจะนำหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 ที่เกี่ยวข้องกับการพิพากษาเกินคำขอมาเป็นเกณฑ์ในการแก้ไข และในส่วนที่ถ้ามีคำพิพากษานอกเหนือจากคำขอของผู้ฟ้องคดีแต่เกี่ยวเนื่องอย่างใกล้ชิดกับคำขอก็สามารถกำหนดคำบังคับได้ เช่น กรณีผู้ฟ้องคดีไม่ได้มีคำขอเรื่องดอกเบี้ยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2530 โดยศาลปกครองก็สามารถกำหนดคำบังคับให้ได้
URI: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/2597
Appears in Collections:S_CHO-09. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
1title.pdf38.79 kBAdobe PDFView/Open
2abstract.pdf74.69 kBAdobe PDFView/Open
3acknow.pdf42.94 kBAdobe PDFView/Open
4content.pdf104.68 kBAdobe PDFView/Open
5chap1.pdf84.7 kBAdobe PDFView/Open
6chap2.pdf305.48 kBAdobe PDFView/Open
7chap3.pdf268.45 kBAdobe PDFView/Open
8chap4.pdf111.28 kBAdobe PDFView/Open
9chap5.pdf60.08 kBAdobe PDFView/Open
10bib.pdf89.41 kBAdobe PDFView/Open
11appen.pdf78.28 kBAdobe PDFView/Open
12profile.pdf37.9 kBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.