๖๕ ปี "พระธรรมปิฎก"
มองอเมริกาผ่านธรรมทัศน์
ธนภณ สมหวัง dhanapon@spu.ac.th
มหาวิทยาลัยศรีปทุม เซกชั่นศาสนา-ชุมชน
มติชนรายวัน ฉบับวันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ปีที่ ๒๗ ฉบับที่ ๙๔๓๘
หน้า ๖
ปัจจุบัน
สังคมไทยและสังคมโลกกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาและวิกฤตการณ์ต่างๆ
อันเป็นผลมาจากกระแสโลกาภิวัตน์
วิถีชีวิตของมนุษย์และสรรพสิ่งได้ถูกกำหนดด้วยคุณค่าแห่งวัฒนธรรมบริโภคนิยมและการแข่งขัน
ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก ความรู้ความเข้าใจ
ความรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่ครอบงำโลกทั้งโลก
และการนำพาชีวิตและสังคมไทยให้อยู่รอดได้ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์
นับเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญยิ่ง
ในวาระมงคลวารครบ
๖๕ ปี ของพระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) (๑๒ มกราคม)
พระมหาเถระผู้เป็นพระนักปราชญ์ของไทย
นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ศึกษาและเผยแผ่ถึงแนวทางของท่าน
ในการชี้ให้เห็นถึงภาวะแห่งความเป็นจริงของสังคมยุคปัจจุบัน
ที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกทั้งทางด้านข้อมูลข่าวสาร ทุน การค้า
วัฒนธรรมและการนำหลักพุทธธรรมมาเป็นรากฐานในการแก้ปัญหาในยุคโลกาภิวัตน์
มองอเมริกาหยั่งถึงอารยธรรมของโลก
กล่าวได้ว่า
ในปัจจุบันไม่มีพระภิกษุสงฆ์ไทยรูปใด ที่จะอธิบายหลักพุทธธรรม
โดยเชื่อมโยงสัมพันธ์และครอบคลุมถึงปัญหาและความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันในมิติต่างๆ
อย่างรอบด้านและเป็นรูปธรรมเท่ากับพระธรรมปิฎก
ผลงานหลายชิ้นของพระธรรมปิฎก
ท่านได้สืบสาว
วิเคราะห์เหตุปัจจัยความเป็นมาของรากฐากความคิดของระบบต่างๆ
ที่เป็นพื้นฐานของสังคมยุคปัจจุบัน
และใช้หลักพุทธธรรมเป็นหลักในการวิเคราะห์ระบบเหล่านี้อย่างถึงแก่น
ผลงานของท่านจึงครอบคลุมศาสตร์ต่างๆ อันเป็นรากฐานแห่งระบบของมนุษย์
ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
นิติศาสตร์ ศิลปศาสตร์ สิทธิมนุษยชน สันติภาพ และอื่นๆ
นอกเหนือจากวิเคราะห์รากฐานความคิดของระบบต่างๆ
ในสังคมปัจจุบันโดยตรงแล้ว
กรณีศึกษาที่ท่านได้ยกมาเป็นตัวอย่างในการวิเคราะห์ที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด
เห็นจะได้แก่ การหยิบยกเอาสังคมอเมริกันมาอธิบายและวิเคราะห์
เพื่อให้เห็นถึงภูมิหลัง พัฒนาการ และสภาพของโลกยุคปัจจุบัน ผลงานหลักๆ
เช่น มองอเมริกามาแก้ปัญหาไทย (๒๕๒๕),
ทางสายอิสรภาของการศึกษาไทย (๒๕๓๔) การพัฒนาที่ยั่งยืน
(๒๕๓๘), มองสันติภาพโลกผ่านภูมิหลังอารยธรรมโลกาภิวัฒน์ (๒๕๔๒),
พระธรรมทูตไทย : เบิกทางสู่อารยธรรมใหม่ (๒๕๔๕),
รู้จักอเมริกา หันมาดูศักยภาพของไทย (๒๕๔๖) เป็นต้น
เหตุผลในการยกเอาสังคมอเมริกันมาเป็นตัวอย่างดังกล่าวนี้
คงมิใช่เพราะท่านเห็นว่าอเมริกันประเทศผู้นำของโลก
ที่มีความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ และขยายอิทธิพลไปทั่วโลก จนหลายๆ
คนและหลายประเทศยึดถือเป็นแบบอย่างในการสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมของตนเท่านั้น
แต่เหตุผลสำคัญประการหนึ่งก็คือการสะท้อนให้เห็นปัญหาของอารยธรรมปัจจุบันผ่านสังคมอเมริกัน
ดังท่านกล่าวว่า
"การที่ยกเอาตัวอย่างปัญหาในสังคมอเมริกันขึ้นมากล่าวนี้
มิใช่หมายความว่า สังคมอเมริกันเป็นสังคมที่เลวร้ายกว่าสังคมอื่นๆ
ยังมีหลายประเทศที่มีปัญหาสังคมที่เลวร้ายรุนแรงยิ่งกว่าสังคมอเมริกัน
แต่สังคมอเมริกันนั้น ปรากฏตัวเด่นออกมาในยุคปัจจุบันว่า
เป็นสังคมที่นิยมความเป็นอิสระเสรี มีสมานภาพ
และเป็นตัวชูในเรื่องสิทธิมนุษยชน
พร้อมกันนั้นผู้คนจำนวนมากในโลกปัจจุบันก็ชื่นชมเชื่อถือด้วยความไม่รู้ชัดเจนถ่องแท้
ถึงกับเหมือนจะเอาสังคมอเมริกันเป็นแบบอย่างในการสร้างสรรค์สังคมแห่งสันติสุข
อีกทั้งสังคมอเมริกันนั้น
ก็มีปัญหาพิเศษที่มีลักษณะเฉพาะของตนที่จะต้องแก้ไขคลายปมอีกเป็นอันมาก
บุคคลที่คิดสร้างสรรค์จะต้องรู้เข้าใจอย่างถูกต้องและเท่าทัน
ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้หลงละเลิง เห่อเหิมและตกอยู่ในความประมาท
แม้แต่ว่า
ถ้าใครยอมรับสังคมอเมริกันว่าเป็นสังคมที่เจริญรุ่งเรืองดีมีความสุขที่สุด
ก็จะได้คิดขึ้นว่า
แม้แต่สังคมที่ถือว่าอยู่ในกฎกติกาพัฒนาแล้วอย่างสูงสุดของโลกเวลานี้
ก็ยังอยู่ห่างไกลจากความเป็นสังคมที่พึงปรารถนา" (สิทธิมนุษยชนฯ
น.๑๗)
มองอเมริกันมาแก้ปัญหาของไทย
ยิ่งไปกว่านั้น
เหตุผลสำคัญยิ่งประการหนึ่งที่ทำให้ท่านวิเคราะห์สังคมอเมริกันเป็นพิเศษ
ก็เพราะท่านเห็นว่า "[สังคมอเมริกัน] มีอิทธิพลส่งผลกระทบต่อชีวิต
ต่อสังคมไทย ของเรา และต่อชะตากรรมของโลก... เป็นชนชาติ เป็นประเทศ
และเป็นสังคมที่มีกำลังอำนาจทั้งทางการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ
และวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน
และคนไทยก็มีค่านิยมเลียนแบบวิถีชีวิตอย่างอเมริกันนั้นด้วย"
(รู้จักอเมริกาฯ น.๑๒)
ในหนังสือ
"มองอเมริกามาแก้ปัญหาไทย" (๒๕๒๕)
ที่ท่านได้วิเคราะห์ถึงสภาพของสังคมอเมริกัน
โดยสืบถึงภูมิหลังของสังคมอเมริกันว่า
สังคมอเมริกันและสังคมตะวันตกทั้งหมด
มีภูมิหลังทางสังคมเดิมที่มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมอุตสาหกรรม
อันเป็นวัฒนธรรมที่ชาวตะวันตกต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะความขาดแคลนต่างๆ
เพื่อให้เกิดความพรั่งพร้อมขึ้น จนกลายเป็นสังคมอุตสาหกรรม (industrial
society) ที่ทำให้เกิดความพรั่งพร้อมบริบูรณ์ขึ้นในสังคมอเมริกัน
ในช่วงท้ายวัฒนธรรมอุตสาหกรรมนี้ได้เป็นวัฒนธรรมที่มุ่งหมายหรือใฝ่ถึงความสำเร็จ
(success culture) มากยิ่งขึ้น
และในเบื้องปลายก็ได้กลายไปสู่วัฒนธรรมแห่งการแข่งขันและกลายเป็นสังคมนักบริโภค
(consumer society) ที่มีความพรั่งพร้อมสมบูรณ์ต่างๆ จนปัจจุบัน
สังคมอเมริกันได้เป็นสังคมที่ผ่านอุตสาหกรรม (Post-industrial
Society)
อย่างไรก็ตาม
แม้ว่าสังคมอเมริกันจะมีความพรั่งพร้อมทางด้านวัตถุ
แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ชาวอเมริกันมีความสุขที่แท้จริง
ในขณะเดียวกันระบบแข่งขันของวัฒนธรรมใฝ่สำเร็จก็ได้กลายเป็นสภาพที่บีบคั้นชีวิต
ก่อให้เกิดความกดดันกลายเป็นความทุกข์ในชีวิตและสังคม
ลักษณะดังกล่าวนี้จึงได้กลายเป็นวิกฤตการณ์ทางวัฒนธรรม (cultural
crisis) ที่ทำให้เกิดความสับสนในทางจิตใจ
และก่อให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "Young America Turns
Eastward - อเมริกันคนหนุ่มสาวหันไปทางตะวันออก" คือ
กระบวนการที่คนรุ่นใหม่ได้หันมาสนใจศาสนาในทางตะวันออก
ไม่ว่าจะเป็นศาสนาฮินดู พุทธศาสนานิกายต่างๆ (มองอเมริกาฯ น.๑๘)
สภาพของสังคมอเมริกันดังกล่าวนี้
แตกต่างกันอย่างยิ่งกับสภาพภูมิหลังของสังคมไทย
ที่มิได้มีภูมิหลังและรากฐานทางสังคมอุตสาหกรรม
และไม่มีวัฒนธรรมอุตสาหกรรมแบบตะวันตก
หากแต่สังคมไทยเป็นสังคมที่รับเอาแบบอย่างความเจริญของสังคมตะวันตก
ก้าวขั้นตอนมาเป็นสังคมบริโภค ดังท่านได้พูดถึงการตามฝรั่งของคนไทย
(มองอเมริกาฯ น.๙๒) ว่า
- "บางอย่าง เราตามแต่เปลือก ไม่ได้เอาเนื้อมาด้วย
- บางอย่าง เราตามฝรั่ง แต่ล้ำหน้าเลยฝรั่งไป
- บางอย่าง เราตามฝรั่ง แต่ตามไม่ครบกระบวน
- บางอย่าง ไปตามเรื่องที่ฝรั่งเองก็ผิดอยู่แล้ว
ก็เลยผิดไปด้วย"
ลักษณะดังกล่าวนี้
ลองวิเคราะห์ดูก็จะเห็นได้ไม่ยากว่า
มีส่วนไหนบ้างที่เราเป็นอย่างที่ว่านี้ แต่ผลแห่งการตามฝรั่งนี้
ทำให้นักวิจัยฝรั่งคนหนึ่งที่ท่านอ้างถึง คือ Norman Jacobs
ซึ่งเข้ามาวิจัยเรื่องการพัฒนาในประเทศไทย แม้จะเป็นงานวิจัยเมื่อ ๓๐
ปีก่อน
แต่ก็ทำให้เห็นภาพของการที่ประเทศไทยจะพยายามที่จะเจริญให้ทันสมัยอย่างประเทศตะวันตก
ในหนังสือชื่อ "Modernization Without Development -
ทันสมัยแต่ไม่พัฒนา" ซึ่งมีความหมายว่า ประเทศไทยมีความทันสมัยจริง
แต่ไม่ได้พัฒนา ดังท่านพระธรรมปิฎกกล่าวว่า "คำว่า
ทันสมัยนั้นอย่างหนึ่ง พัฒนาก็อย่างหนึ่ง ไม่ใช่อย่างเดียวกัน
ประเทศไทยอาจจะมีความเจริญรุ่งเรืองในภายนอก ในทางวัตถุ
มีตึกรามบ้านช่อง ถนนหนทางมากมาย มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย
มีระบบเศรษฐกิจแบบตะวันตกอะไรต่างๆ แต่ในแง่เนื้อหาแล้ว
ไม่มีการพัฒนาเลย" (มองอเมริกาฯ น.๙๓).. |