อรรถพล มณีโชติ2562-10-052019-10-052562อรรถพล มณีโชติ. 2562. "ปัญหากฎหมายในกรณีการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง." สารนิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มวิชากฎหมายอาญาและกระบวนการยุุติธรรมทางอาญา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.https://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/6415อรรถพล มณีโชติ. ปัญหากฎหมายในกรณีการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครอง. สารนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มวิชากฎหมายอาญาและกระบวนการยุุติธรรมทางอาญา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม พ.ศ. 2562.การศึกษาปัญหากฎหมายในกรณีการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองตามสารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาเป็นการศึกษาแนวความคิด ทฤษฎี และหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองตามกฎหมายของประเทศไทยและต่างประเทศ เพื่อนำมาวิเคราะห์ถึงปัญหากฎหมายและศึกษาถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมในเรื่องการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองในประเทศไทย ในสารนิพนธ์ฉบับนี้เมื่อทำการศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์และเปรียบเทียบการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองตามกฎหมายไทยกับกฎหมายต่างประเทศแล้ว พบว่า ในการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองนั้นเป็นความผิดที่ยังไม่มีการกำหนดให้เป็นความผิดเฉพาะตามกฎหมายไทย เมื่อมีการกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นจะต้องนำเอาความผิดฐานอื่นอันเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้ามาปรับใช้ ซึ่งผู้วิจัยเห็นว่าการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองนั้นแม้จะมีลักษณะวัตถุแห่งการกระทำความผิดเช่นเดียวกับความผิดฐานอื่นที่นำมาบังคับใช้โดยอนุโลม แต่กลับมีเจตนาและจุดมุ่งหมายในการกระทำความผิดที่แตกต่างกัน ซึ่งแตกต่างจากในกฎหมายต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมลรัฐ เท็กซัส สหรัฐอเมริกา ใน § 161.252 ตามประมวลกฎหมายว่าด้วยสุขภาพและความปลอดภัยแห่งมลรัฐเท็กซัส, เครือรัฐออสเตรเลีย ตามมาตรา 33 แห่งกฎหมายว่าด้วยยา, สารพิษและยารักษาโรคของเครือรัฐออสเตรเลีย ปี 2008 (Medicines, Poisons and Therapeutic Goods Act 2008) และสาธารณรัฐสิงคโปร์ ในมาตรา 16 แห่งกฎหมายควบคุมการขายและการโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้า (บทที่ 309) ที่มีการบัญญัติในการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองให้เป็นความผิดเฉพาะไว้อย่างชัดเจนทั้งในส่วนของความรับผิด ลักษณะการกระทำ เงื่อนไขแห่งการรับผิดและอัตราโทษ จากการศึกษาผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคขึ้นใหม่ ในเรื่องของการห้ามมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองขึ้นเฉพาะ โดยกำหนดให้มีความผิดฐานมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองขึ้น ซึ่งผู้วิจัยเห็นควรให้มีการกำหนดลักษณะของความรับผิด เจตนาในการกระทำความผิดและการกำหนดอัตราโทษสำหรับผลของการกระทำความผิดฐานมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองขึ้นให้มีความเหมาะสม จึงจะเป็นการทำให้การแก้ไขในกรณีการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองนั้นสามารถบังคับใช้ได้จริง และทำให้การออกนโยบายในการควบคุมและกำกับดูแลบุหรี่ไฟฟ้านั้นสามารถดำเนินการไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นthบุหรี่ไฟฟ้าการมีไว้ในครอบครองปัญหากฎหมายในกรณีการมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในครอบครองLEGAL PROBLEMS OF THE POSSESSION OF ELECTRONIC CIGARETTEOther