Please use this identifier to cite or link to this item:
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/2611
Title: | ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับอานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่คณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ในการสอบสวนคดี ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 |
Authors: | วีระชัย บุเงิน |
Keywords: | ปัญหากฎหมาย อำนาจพนักงาน การประกันภัย การสอบสวนคดี พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 |
Issue Date: | 9-September-2554 |
Abstract: | วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา แนวคิด ทฤษฏี และหลักกฎหมายเกี่ยวกับอานาจของพนักงานเจ้าหน้าที่คณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ในการสอบสวนคดีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ทั้งของต่างประเทศและของประเทศไทย เนื่องจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ได้บังคับใช้ผ่านพ้นมาเป็นระยะเวลา 18 ปีแล้ว และพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นกฎหมายบังคับให้ประชาชนทุกคนที่มีกรรมสิทธิ์หรือครอบครองรถทุกชนิดที่ต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ต้องจัดให้มีการทาประกันภัยภาคบังคับหรือประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติฉบับนี้ก็อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลกากับและส่งเสริมของสานักงานคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กระทรวงการคลัง ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พ.ศ.2550 ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ถูกตราขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการคุ้มครองผู้ที่ประสบภัยจากรถและได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกาย และอนามัย เพื่อให้ได้รับการเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายจากอุบัติเหตุจากรถ ที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ผู้ศึกษาจึงเห็นด้วยกับการที่ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ที่เล็งเห็นความสาคัญกับผู้ที่ได้รับอันตรายหรือประสบภัยจากรถเช่นเดียวกันกับหลายๆประเทศที่มีกฎหมายที่คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 คุ้มครองผู้ที่ประสบภัยจากรถ ต่อชีวิตในวงเงินความรับผิดชอบที่บริษัทประกันภัยจะต้องจ่าย 200,000 บาท ความเสียหายต่อร่างกาย บริษัทประกันภัยต้องจ่ายไม่เกิน 50,000 บาท ตามความเสียหายจริง แต่อย่างไรก็ดี พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้มีเงื่อนไขการจ่ายค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทประกันภัยจะต้องพิจารณาจ่ายอยู่สองส่วนคือ ส่วนที่หนึ่งคือค่าเสียหายเบื้องต้นสามารถจ่ายได้ทันทีโดยไม่ต้องพิสูจน์ความรับผิดความคุ้มครองคือ ความเสียหายต่อชีวิต จ่ายค่าปลงศพ 35,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 15,000บาท ส่วนที่สองคือ ค่าเสียหายส่วนที่เกินเบื้องต้น ความเสียหายต่อชีวิต 165,000 บาท หรือค่าเสียหายต่อการบาดเจ็บ ความคุ้มครองอีก 35,000 บาท ซึ่งบริษัทที่รับประกันภัยจะต้องพิจารณาจ่ายได้คือจะต้องเกิดจากความรับผิดของผู้เอาประกันภัยหรือผู้ขับขี่ ซึ่งการจะพิจารณาได้ว่าอุบัติเหตุจากรถนั้นว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิดคือพนักงานสอบสวน ซึ่งการสอบสวนทุกวันนี้มักเป็นปัญหาอยู่มากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับผู้มีอานาจสอบสวนคดี ปัญหาเกี่ยวกับความล่าช้าในการสอบสวน ปัญหาเกี่ยวกับวิธีการสอบสวน ปัญหาเกี่ยวกับการประสานงานของพนักงานสอบสวนขั้นตอนยุ่งยาก เพราะพนักงานสอบสวนนั้นมีงานที่จะต้องสอบสวนทุกเรื่องผลที่ตามมาคือ ผู้ที่ประสบภัยจากรถได้รับความเดือดร้อน เพราะจะต้องรอผลคดีหรือผลการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนเพื่อนาผลการสอบสวนของพนักงานสอบสวนไปร้องขอตั้งเบิกค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยที่จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนในส่วนค่าเสียหายที่เกินเบื้องต้นตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ผู้ศึกษาจึงมีความเห็นว่าสมควรเป็นอย่างยิ่งที่ควรให้อานาจพนักงานเจ้าหน้าที่คณะกรรมการกากับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัยมีหน้าที่สอบสวนคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่เกิดจากรถ เพราะพนักงานเจ้าหน้าคณะกรรมการกากับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน หรือเป็นผู้ชานาญการในการทาหน้าที่สอบสวน เพื่อที่ทาการสอบสวนรวดเร็วแม่นยาและเป็นธรรม ผลที่ตามมาก็จะตกอยู่กับประชาชนหรือผู้ประสบภัยจากรถโดยตรง ผู้ศึกษาวิเคราะห์แล้วเห็นว่าองค์กรหรือหน่วยงานนี้เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นหน่วยงานที่กากับดูแลธุรกิจประกันภัยอยู่แล้ว เพียงแต่ให้รัฐออกกฎหมายเพิ่มเติมโดยให้อานาจพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 มีอานาจทาการสอบสวนและมีอานาจฟ้องแทนพนักงานอัยการได้เลยเมื่อมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น |
URI: | http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/2611 |
Appears in Collections: | S_CHO-09. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
1title.pdf | 37.58 kB | Adobe PDF | View/Open | |
2abstract.pdf | 91.09 kB | Adobe PDF | View/Open | |
3acknow.pdf | 41.46 kB | Adobe PDF | View/Open | |
4content.pdf | 64.84 kB | Adobe PDF | View/Open | |
5chap1.pdf | 86.91 kB | Adobe PDF | View/Open | |
6chap2.pdf | 214.56 kB | Adobe PDF | View/Open | |
7chap3.pdf | 233.07 kB | Adobe PDF | View/Open | |
8chap4.pdf | 93.8 kB | Adobe PDF | View/Open | |
9chap5.pdf | 72.12 kB | Adobe PDF | View/Open | |
10bib.pdf | 67.62 kB | Adobe PDF | View/Open | |
11appen.pdf | 185.01 kB | Adobe PDF | View/Open | |
12profile.pdf | 44.99 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.