ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การของนักกายภาพบำบัด ในเขตภาคตะวันออก
กำลังโหลด...
![รูปภาพขนาดย่อ](assets/spu/images/default-item.png)
วันที่
2562-03-09
ผู้เขียน
ชื่อวารสาร
วารสาร ISSN
ชื่อหนังสือ
สำนักพิมพ์
เชิงนามธรรม
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับความผูกพันต่อองค์การของนักกายภาพบาบัด 2) ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การของนักกายภาพบำบัด 3) ศึกษาอิทธิพลของปัจจัยแรงจูงใจที่มีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์การ ขนาดตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักกายภาพบำบัดในเขตภาคตะวันออกจานวน 146 คน เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วน 5 ระดับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียวการทดสอบค่าทีเปรียบเทียบความแตกต่างเป็นรายคู่โดยวิธี LSD และสมการถดถอยผลการวิจัยพบว่า 1) ความผูกพันต่อองค์การ ได้แก่ ความต้องการพื้นฐาน การสนับสนุนทางการบริหาร สัมพันธภาพ ความก้าวหน้าในงานพบว่า ค่าเฉลี่ยโดยรวมระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับด้านความผูกพันมีผลต่อแรงจูงใจอยู่ในระดับมาก 2) ปัจจัยส่วนบุคคล พบว่าประสบการณ์ทางานในวิชาชีพที่แตกต่างกัน มีผลต่อความผูกพันต่อองค์การที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ.05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ นักกายภาพบำบัดประสบการณ์ 3-6 เดือน จะผูกพันต่อองค์การในด้านสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ร่วมงาน ผู้บริหารและการได้รับความร่วมมือจากเพื่อนร่วมงานอยู่ในระดับมาก3) ปัจจัยแรงจูงใจได้แก่ ความรับผิดชอบในงาน ลักษณะงาน การได้รับการยอมรับ ความมั่นคง ในงาน สภาพแวดล้อมในงาน ด้านการสื่อสารในองค์การ ผลตอบแทนและสวัสดิการ พบว่า มีผลต่อความผูกพันต่อองค์การแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งปัจจัยแรงจูงใจรวม มีระดับความสามารถในการอธิบายความผันแปรอยู่ที่ร้อยละ 77
คำอธิบาย
บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี
คำหลัก
แรงจูงใจ, ความผูกพันต่อองค์การ, นักกายภาพบำบัด, ความผูกพัน, เขตภาคตะวันออก