Please use this identifier to cite or link to this item: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/7812
Title: ปัญหาการริบมัดจำและเงินดาวน์กรณีจะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ โดยการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
Other Titles: The Problem of Forfeiture of Deposits and Down Payments in case of Buying and Selling Real Estate by Applying for a Loan from a Financial Institution
Authors: ผศ.เจียมจิต สุวรรณน้อย
Keywords: ริบมัดจำ,เงินดาวน์,สัญญาจะซื้อจะขาย,deposit, down payment, contract to buy and sell
Issue Date: 28-October-2564
Publisher: การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติมหาวิทยาลัยศรีปทุม
Citation: ริบมัดจำ,เงินดาวน์,สัญญาจะซื้อจะขาย,deposit, down payment, contract to buy and sell
Abstract: เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ในประเทศตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ถึงปัจจุบัน ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ลูกจ้างส่วนหนึ่งถูกเลิกจ้างขาดรายได้ ทำให้ความสามารถในการหารายได้ของประชาชนที่เคยมีอยู่ลดลง ปัญหาการจองซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเป็นปัญหาหนึ่งของผู้จะซื้อที่จองซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้ก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว เมื่อเกิดสถานการณ์ความสามารถในการหารายได้ของผู้จะซื้อกลับลดหรือยุติลง ทำให้เครดิตบูโรไม่น่าเชื่อถือ สถาบันการเงินจึงไม่ปล่อยสินเชื่อให้ ผลกระทบที่ตามมาคือผู้จะซื้อไม่สามารถทำสัญญาซื้อขายและรับโอนอสังหาริมทรัพย์จากผู้จะขายได้ ผู้จะขายจึงริบเงินมัดจำและเงินดาวน์ทั้งหมดของผู้จะซื้อที่ชำระไว้อันเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้แก่ผู้จะซื้อ เกิดข้อพิพาทร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐและมีการนำข้อพิพาทเป็นคดีขึ้นสู่ศาลจำนวนมากในปัญหาว่า ผู้จะขายมีสิทธิริบเงินมัดจำและเงินดาวน์ทั้งหมดของผู้จะซื้อได้หรือไม่ พิจารณาผลการศึกษาพบว่า เมื่อผู้จะซื้อผิดสัญญา ผู้จะขายมีสิทธิริบเงินมัดจำได้ทันทีเท่านั้น ส่วนเงินดาวน์ที่ผู้จะซื้อชำระไปนั้น แม้ในสัญญาจะซื้อจะขายจะมีข้อตกลงให้ริบได้ ผู้จะขายก็จะริบไปเสียทั้งหมดไม่ได้เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ Due to the epidemic situation of COVID-19 in the country from the end of 2019 to the present, it has severely affected the economy because some people are unable to work, some of the employees were terminated without income. The ability to earn income of the people that used to be reduced. The problem of purchasing residential real estate is one of the problems of buyers who have subscribed to real estate before the epidemic situation. When a situation arises, the ability to earn money of the buyer decreases or ceases, make credit bureaus unreliable. Therefore, financial institutions do not give credit. The consequence is that the buyer cannot enter into a contract to purchase and accept the transfer of real estate from the seller. The seller therefore forfeited all the deposit and down payment of the buyer who paid, which aggravated the problem for the buyer. A complaint has been filed with government agencies and a number of disputes have been brought to court on the issue of the seller has the right to forfeit all the deposit and down payment of the buyer or not. Considering the results of the study, it was found that when the buyer breaches the contract the seller has the right to forfeit the deposit immediately. As for the down payment that the buyer will pay for it even in the contract to buy and sell there is an agreement to forfeit. The seller will not be able to forfeit all because the agreement is in the nature of a fine penalty.
Description: เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ในประเทศตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ถึงปัจจุบัน เป็นเหตุให้รัฐประกาศใช้มาตรการต่าง ๆ มาบังคับประชาชนให้หยุดการเดินทางไปมาหาสู่กันเป็นระยะเวลานานอยู่หลายครั้งเพื่อหยุดยั้งและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคดังกล่าวให้อยู่ในวงจำกัด มีผู้ประกอบกิจการบางส่วนต้องหยุดประกอบกิจการ ผู้ประกอบวิชาชีพบางส่วนต้องหยุดงาน ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงเนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ลูกจ้างส่วนหนึ่งถูกเลิกจ้างขาดรายได้ในการครองชีพตนเองและครอบครัว หนี้สินครัวเรือนต่าง ๆ ที่ก่อไว้ก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดก็เพิ่มพูนสูงขึ้นจนไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ แม้จะได้รับเงินเยียวยาที่รัฐจ่ายชดเชยให้ก็ไม่อาจได้อย่างทั่วถึงและไม่เพียงพอแก่การครองชีพ ปัญหาที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความสามารถในการหารายได้ของประชาชน นำมาสู่ปัญหาสำหรับผู้จองซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย เนื่องจากก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ผู้จะซื้อจำนวนมากได้ตกลงใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัยโดยมีการวางเงินมัดจำ ทำสัญญาจะซื้อขาย และผ่อนชำระเงินดาวน์ให้แก่ผู้จะขายอสังหาริมทรัพย์โครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ไปแล้ว ครั้นเมื่อผู้จะขายก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์แล้วเสร็จพร้อมที่จะโอนกรรมสิทธิ์ตามสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้จะซื้อบางส่วนกลับไม่สามารถรับโอนกรรมสิทธิ์ได้เพราะคำขอกู้ยืมเงินสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากผู้จะซื้อซึ่งเคยมีรายได้จากการประกอบกิจการหรือจากการประกอบวิชาชีพต้องหยุดกิจการหรือหยุดงานหรือถูกเลิกจ้าง ทำให้แหล่งที่มาของรายได้สะดุดหยุดลง ความสามารถในการชำระหนี้รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้หรือเครดิตบูโร (credit-bureau) ของผู้จะซื้อไม่น่าเชื่อถือ สถาบันการเงินจึงไม่ปล่อยสินเชื่อให้ตามที่คาดการณ์ไว้ ผลกระทบทำให้ผู้จะซื้อไม่สามารถทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และรับโอนที่อยู่อาศัยได้ เป็นเหตุให้ผู้จะขายริบเงินมัดจำและเงินดาวน์ทั้งหมดที่ผู้จะซื้อได้ชำระไปก่อนหน้านั้น และแม้เจรจาต่อรองเพื่อขอคืนเงิน ผู้จะขายส่วนใหญ่มักปฏิเสธไม่ยอมคืนเงินมัดจำและเงินดาวน์ให้แก่ผู้จะซื้อโดยอ้างว่าผู้จะซื้อมีหน้าที่ต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองก่อนจะซื้อ เมื่อเข้าทำสัญญาแล้วไม่สามารถหาเงินมาชำระเพื่อรับโอนกรรมสิทธิ์ได้ตามสัญญาจะซื้อจะขายผู้จะซื้อก็เป็นฝ่ายที่ผิดสัญญาเอง ทั้งการที่ผู้จะซื้อวางมัดจำและเข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายย่อมเป็นการตัดโอกาสของผู้จะขายที่จะนำอสังหาริมทรัพย์นั้นไปเสนอขายให้แก่ผู้จะซื้อรายอื่นได้อีก ผู้จะซื้อบางรายก็เก็งกำไรโดยวิธีวางเงินมัดจำเพื่อจองซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้หลายห้องหรือหลายหลังเพื่อขายต่อเอากำไร เมื่อขายต่อเอากำไรไม่ได้ รับโอนก็ไม่ได้ ผู้จะซื้อก็เป็นฝ่ายผิดสัญญา ผู้จะขายย่อมมีสิทธิที่จะริบเงินมัดจำและเงินดาวน์ทั้งหมดได้ตามสัญญาจะซื้อจะขาย การเจรจาขอคืนเงินจึงต้องยุติลง เหตุดังกล่าวจึงได้มีการนำเรื่องไปร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) บางส่วนก็นำคดีไปฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกเงินคืน ผู้จะซื้อบางส่วนที่ไม่รู้กฎหมายก็ต้องจำยอมปล่อยให้ผู้จะขายริบเงินไปเพราะเห็นว่าในสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งผู้จะขายเป็นฝ่ายร่างสัญญาขึ้นมานั้นส่วนใหญ่จะเขียนไว้ชัดแจ้งว่า ในกรณีที่ผู้จะซื้อผิดสัญญา ผู้จะขายมีสิทธิรับมัดจำและเงินดาวน์ที่ผ่อนชำระมาแล้วทั้งหมดได้ จากปัญหาดังกล่าวนั้นนำมาสู่การศึกษาเกี่ยวกับการริบเงินมัดจำและเงินดาวน์ในกรณีจะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์โดยการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
URI: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/7812
ISBN: 978-974-655-469-5
Appears in Collections:LAW-05. บทความที่ประชุมวิชาการ (ระดับชาติ)



Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.