ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อดัชนี SET50

Abstract

ปัจจุบันได้มีเครื่องมือทางการเงินซึ่งอ้างอิงค่าดัชนีหลักทรัพย์ SET50 ออกมาหลายตัว เช่น สัญญาฟิวเจอร์ส และ ออปชั่น รวมไปถึงกองทุน ETF และกองทุนรวมอื่น ๆ ที่ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนและทำกำไร (หรือขาดทุน) ได้ในสถานะการณ์ที่เป็นทั้งขาขึ้นและขาลง อย่างไรก็ตามการลงทุนในเครื่องมือทางการเงินเหล่านี้ มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรืออาจมีความเสี่ยงสูงกว่า ถ้าเป็นกรณีของในสัญญาฟิวเจอรส์ และ ออปชั่น ซึ่งมีตัวคูณ (Multiplier) ดังนั้นความถูกต้องในการพยากรณ์หรือคาดการณ์ถึงแนวโน้มของดัชนี SET50 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการตัดสินใจในการลงทุน

งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาถึงผลกระทบของปัจจัยต่าง ๆ ที่มีต่อดัชนี SET50 อันได้แก่ ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ (M2) อัตราเงินเฟ้อ (INFLA) ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (PII) ราคาน้ำมันดิบ (OIL) อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน (FIX3M) ดัชนีราคาหลักทรัพย์ Dow Jones (DOW), Nikkei (NIK) Hang Seng (HS) ราคาทองคำ (GOLD) และอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลไทยกับดอลลาร์สหรัฐ (BAHTUSD) ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเชื่อว่ามีผลกระทบทั้งในทิศทางเดียวกันหรือในทางตรงข้ามกับดัชนี SET50 ซึ่งได้นำปัจจัยเหล่านี้มาหาความสัมพันธ์โดยวิธี Vector Auto Regression (VAR) โดยได้นำค่าของตัวแปร SET50 ของ 1 และ 2 เดือนย้อนหลัง และตัวแปรต้นที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดของ 1 เดือนย้อนหลังมาใส่เป็นตัวแปรต้น และใช้วิธีการเลือกตัวแปรแบบ Forward Stepwise Selection สมการที่ได้คือ SET50 = 0.807264411927*SET50(-1) + 0.00523953769999*NETBUY - 0.000928515287695*NETBUY(-1) + 4.62528002267*BAHTUSD - 0.00745137960778*NIK(-1) + 0.0100009474242*NIK - 30.858657284*INFLA + 26.6842024874*INFLA(-1) - 579.065110792 + 0.487883842213*GOLD(-1) + 0.000126095868102*M2 - 28.107425755*FIX3M + 0.13708017263*SET50(-2) + 22.8509562612*FIX3M(-1) + 0.00303111068184*HS + 0.366545024253*GOLD - 2.13544118349*OIL(-1) - 0.00010187073907*M2(-1) ซึ่งสมการนี้มีมีค่า r2= 0.987 และสามารถนำไปใช้ทำนายค่าดัชนี SET50 ในอนาคตได้ เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจในการลงทุนสำหรับนักลงทุน