Please use this identifier to cite or link to this item:
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/3317
Title: | ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีตามประมวลรัษฎากร จากการการค้าทองคำ |
Authors: | ทวีศักดิ์ ผลทิพย์ |
Keywords: | การจัดเก็บภาษี การค้าทองคำ |
Issue Date: | 8-March-2555 |
Abstract: | วิทยานิพนธ์นี้ศึกษาถึงปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีตามประมวลรัษฎากร ในการประกอบธุรกิจการค้าทองคา ซึ่งมีปัญหาการจัดเก็บภาษีที่รัฐไม่อาจเก็บภาษีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากทองคานั้นมีรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ทองคารูปพรรณ อัญมณี แหวนเพชร พลอย กรอบพระ จี้ ต่างหู หรือทองคาแท่ง โดยเฉพาะทองคารูปพรรณนั้นยังได้แยกออกเป็นหลายชนิดขึ้นอยู่ตามความบริสุทธิ์ของเนื้อทอง เรื่องนี้ก่อให้เกิดปัญหาการจาแนกแต่ละประเภททองคาว่าจะจัดเก็บภาษีในรูปแบบใด ซึ่งตามประกาศกระทรวงว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มของทองรูปพรรณจะต้องเสียภาษีในอัตราที่รัฐกาหนด โดยให้นาราคาที่สมาคมผู้ค้าทองคาประกาศในแต่ละวันเป็นเกณฑ์กลาง โดยอ้างอิงราคาทองคาจากต่างประเทศ เท่ากับว่าราคาทองรูปพรรณนั้นเป็นไปตามสมาคมประกาศนั่นเอง ทาให้อัตราราคาทองคาในแต่ละวันจึงไม่เท่ากันบางครั้งอาจมีการขึ้นลงวันละหลายครั้ง ก่อให้เกิดปัญหาความไม่แน่นอนของราคาและปัญหาการจัดเก็บภาษี ดังนั้นจากสภาพปัญหาดังกล่าวทาให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี เพราะไม่อาจจะประเมินมูลค่าต้นทุนการขายที่แน่นอนได้ประกอบกับในการค้าทองคานั้นเนื่องจากตัวทองคาเองสามารถจาแนกหรือเปลี่ยนรูปร่างโดยการหลอมใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นทองคาเก่าแล้วนามาหลอมให้เป็นทองคาแท่งหรือทองรูปพรรณ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทาด้วยทองคาชนิดอื่น กรณีดังกล่าวผู้ศึกษาจึงขอเสนอแนะว่า รัฐควรบัญญัติกฎหมายหรือออกข้อบังคับให้มีการหาเครื่องมือในการตรวจสอบทั้งการนาเข้าและการขายออก รวมทั้งการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เช่น การจัดให้มีคณะกรรมการกลางที่มีอานาจในการตรวจ หรือการจัดให้มีเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อจัดเก็บข้อมูลให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคาในแต่ละวัน นอกจากนั้นในการ II ประกอบธุรกิจการค้าทองคาไม่ได้มีรายได้จากการขายตัวทองคารูปพรรณหรือทองคาแท่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีรายได้อย่างอื่นเช่น กรณีจากการรับจานาที่เป็นไปตามพระราชบัญญัติโรงรับจานา พ.ศ. 2505 หรือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการจานาหรือขายฝาก การค้าของเก่าซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติการควบคุมการค้าของเก่า พ.ศ.2474 เป็นต้น กรณีดังกล่าวจึงต้องมีกฎหมายควบคุมการจัดเก็บรายที่เกิดขึ้นนอกเหนือจาการขายตัวทองรูปพรรณ ดังนั้นจึงควรมีกฎหมายกลางและหน่วยงานกลางของรัฐ ในการตรวจสอบและควบคุมการจัดเก็บภาษีเพื่อให้การจัดเก็บภาษีของรัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริโภคในสังคมส่วนรวม |
URI: | http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/3317 |
Appears in Collections: | S_CHO-09. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
1title.pdf | 91.07 kB | Adobe PDF | View/Open | |
2abstract.pdf | 134.73 kB | Adobe PDF | View/Open | |
3acknow.pdf | 51.2 kB | Adobe PDF | View/Open | |
4content.pdf | 131.37 kB | Adobe PDF | View/Open | |
5chap1.pdf | 134.94 kB | Adobe PDF | View/Open | |
6chap2.pdf | 342.17 kB | Adobe PDF | View/Open | |
7chap3.pdf | 874.46 kB | Adobe PDF | View/Open | |
8chap4.pdf | 195.43 kB | Adobe PDF | View/Open | |
9chap5.pdf | 105.3 kB | Adobe PDF | View/Open | |
10bib.pdf | 147.17 kB | Adobe PDF | View/Open | |
11profile.pdf | 50.92 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.