Please use this identifier to cite or link to this item: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/4264
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorเสริมสกุล ศรีน้อยen_US
dc.date.accessioned2556-05-30T17:07:10Z-
dc.date.available2556-05-30T17:07:10Z-
dc.date.issued2556-05-30T17:07:10Z-
dc.identifier.citationเสริมสกุล ศรีน้อย. 2556. “การศึกษามาตรฐานความปลอดภัยด้านอัคคีภัย เพื่อการรับรองมาตรฐานระดับสากล กรณีศึกษา โรงพยาบาลเอกชนในอาคารสูง.” การค้นคว้าอิสระวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารทรัพยากรอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.-
dc.identifier.urihttp://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/4264-
dc.description.abstractอาคารกรณีศึกษา จัดเป็นอาคารสูง และอาคารขนาดใหญ่พิเศษประเภทโรงพยาบาล ตามกฎกระทรวง ฉบับที่33 ( พ.ศ. 2535 ) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชน ปัจจุบันมีเตียงรองรับผู้ป่วย 350 เตียง มีห้องตรวจกว่า 70 ห้อง สามารถให้การบริการ ผู้ป่วยนอกวันละ 1,500-2,000 คน ด้วยศูนย์บริการทางการแพทย์เฉพาะทางครบทุกสาขา แพทย์ประจํา 50 ท่าน, แพทย์ที่ปรึกษา 250 ท่าน อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สําคัญ และยังได้รับการรับรองคุณภาพ มาตรฐาน ISO 9001:2000 ซึ่งทางโรงพยาบาลมีแนวทางบริการ ด้วยความตั้งใจจริงที่ต้องการให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี และมีทางเลือกในการดูแลรักษาพยาบาลตนเองมากขึ้น จึงนํามาตรฐานระดับสากลที่ยอมรับกันทั่วไป คือ มาตรฐานการรับรอง Joint Commission International (JCI) สําหรับโรงพยาบาล เป็นการยกระดับและขีดความสามารถในการให้บริการแก่ผู้ป่วยและผู้ใช้อาคาร อาคารกรณีศึกษา จึงนํามาตรฐานการรับรอง Joint Commission International (JCI) สําหรับโรงพยาบาล ซึ่งเป็นส่วนงานหนึ่งของ Joint Commission Resources, Inc. โดยพันธะกิจของ JCI คือการยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยการดูแลผู้ป่วยในชุมชนนานาชาติด้วยการให้การศึกษา สิ่งพิมพ์ คําปรึกษา และการประเมินผล โปรแกรมการศึกษาและสิ่งพิมพ์ของ Joint Commission Resources Inc. ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมรับรองคุณภาพของ Joint Commission International แต่แยกเป็นอิสระออกจากกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยและคุณภาพของการดูแลผู้ป่วยในระดับมาตรฐานสากล ซึ่งมาตรฐานการรับรองฯ ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนที่ 1. มาตรฐานด้านผู้ป่วย (Patient-Centered Standards) ส่วนที่ 2. มาตรฐานด้านการจัดการองค์กร (Healthcare Management Standards) โดยที่ในส่วนที่ 2. เรื่องมาตรฐานการจัดการสิ่งอํานวยความสะดวกและความปลอดภัย (Facility Management and Safet ) หัวข้อ ความปลอดภัยด้านอัคคีภัย จึงให้ความสําคัญในการศึกษาครั้งนี้เพราะ อัคคีภัยเป็นสาธารณภัยที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างสูง และสร้างมูลค่าความเสียหายส่งผลสําคัญต่อความสูญเสียในระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาคารประเภทโรงพยาบาล ที่ถือว่าเป็นสถานที่ที่ให้การดูแลรักษาชีวิตของประชาชน ผู้ทําการศึกษาจึงเล็งเห็นถึงความจําเป็นและสําคัญในการที่จัดทําการศึกษามาตรฐานความปล อดภัยด้านอัคคีภัยระดับสากลที่ทั่วไปให้การยอมรับ ของสมาคม National Fire Protection Association, USA ( NFPA ) เพื่อเป็นการประเมินระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยเบื้องต้น ซึ่งจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารทรัพยากรอาคารและเป็นพื้นฐานในด้านความปลอดภัยของผู้ใช้ อาคารกรณีศึกษานี้จะเป็นแนวทางการศึกษาเบื้องต้นที่สรุปตามเกณฑ์มาตรฐานของ NFPA ระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยในอาคาร ซึ่งทําให้ทราบถึงข้อบกพร่องของระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งนําไปสู่การแก้ไข ตามมาตรฐานสากลen_US
dc.language.isootheren_US
dc.subjectความปลอดภัยด้านอัคคีภัยen_US
dc.subjectโรงพยาบาลเอกชนในอาคารสูงen_US
dc.titleการศึกษามาตรฐานความปลอดภัยด้านอัคคีภัย เพื่อการรับรองมาตรฐานระดับสากล กรณีศึกษา โรงพยาบาลเอกชนในอาคารสูงen_US
dc.title.alternativeFIRE SAFETY STANDARDOF INTERNATIONAL ACCREDITATION STANDARD A CASE STUDY OF HOSPITALS PRIVATE BUSINESS IN HIGH RISE BUILDINGen_US
dc.typeThesisen_US
Appears in Collections:ARC-03. บทความวิชาการ/วิจัย (อื่นๆ)



Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.