กำลังเรียกดู โดย ผู้เขียน "Pratana Jirapasittinon"

ตอนนี้กำลังแสดง1 - 2 ของ 2
  • รูปภาพขนาดย่อ
    รายการ
    Reverie Fields
    (Faculty of Fine and Applied Arts, Burapha University, 2025-07-09) Pratana Jirapasittinon
    ในบริบทของโลกยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและแรงผลักจากระบบทุนนิยม จังหวะชีวิตที่ความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาพร้อมๆกับความคาดหวัง กลายเป็นสาระสำคัญของการดำเนินชีวิต การดำรงอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ การสื่อสารที่ต่อเนื่อง และการบริโภคข้อมูลอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งผลให้มนุษย์จำนวนมากห่างเหินจากภาวะของการหยุดนิ่ง และความเงียบสงบที่จำเป็นต่อการเยียวยาจิตใจและการตระหนักรู้ในตนเอง การสำรวจช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ (quietude) จึงมิใช่เพียงภาวะของการหยุดการเคลื่อนไหวทางกายภาพเท่านั้น หากแต่เป็นภาวะของการ "ชะลอจังหวะชีวิต" (slowing down) ซึ่งมีนัยสำคัญในเชิงจิตวิทยา ปรัชญา และสุนทรียศาสตร์ ความเงียบไม่ใช่ความว่างเปล่า หากแต่เป็นพื้นที่ภายในที่เปิดโอกาสให้บุคคลได้กลับมาเชื่อมโยงกับตนเอง ทบทวนประสบการณ์ รับรู้ความรู้สึก และตั้งคำถามต่อสิ่งที่ดำเนินอยู่รอบตัว ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สอดคล้องกับแนวคิดเรื่อง self-reflection ในจิตวิทยา และแนวทางของ contemplative practices ในปรัชญาตะวันออกและตะวันตก ช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่กลางระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อม โดยเอื้อให้เกิดการรับรู้ที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนต่อสิ่งรอบตัว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในสภาวะเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านการแสดงออกด้วยภาษาเชิงวัจนภาษา (verbal language) หากแต่สามารถถ่ายทอดผ่านปฏิกิริยาอันแผ่วเบา เช่น สายตา สีหน้า หรือแม้กระทั่งพลังงานที่แวดล้อมอยู่ในบรรยากาศ ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับทฤษฎีการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูด (nonverbal communication) ที่เน้นการรับรู้ความหมายจากบริบทโดยรวม เมื่อพิจารณาในมิติของการดำรงอยู่ (ontology) ความเงียบยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการตระหนักรู้ถึง "การมีอยู่" ของตนเองในฐานะปัจเจก ซึ่งไม่ใช่การมีอยู่ที่อิงจากบทบาททางสังคมหรือการกระทำใด ๆ แต่เป็นการมีอยู่ในสภาพที่ปราศจากการแทรกแซงของสิ่งเร้า เป็น "การอยู่กับปัจจุบัน" อย่างบริบูรณ์ (mindfulness) อันเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการจิตบำบัดและสุขภาพจิตสมัยใหม่ ด้วยเหตุนี้ การพินิจช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบจึงเป็นมากกว่าการหยุดพัก หากแต่เป็นกระบวนการฟื้นฟูภายใน เป็นพื้นที่ทางจิตวิญญาณที่เปิดโอกาสให้มนุษย์ได้กลับคืนสู่ตนเอง และเชื่อมโยงกับโลกด้วยความเข้าใจอันลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  • รูปภาพขนาดย่อ
    รายการ
    ศึกษาผลของการใช้เทคนิคการสอนแบบห้องเรียนกลับทาง ในรายวิชา DES120 พื้นฐานการออกแบบเบื้องต้น ของนักศึกษาสาขา คอมพิวเตอร์แอนิเมชันละวิชวลเอฟเฟกต์ คณะดิจิทัลมีเดีย
    (Sripatum University, 2560) ปรารถนา จิรปสิทธินนท์; Pratana Jirapasittinon
    The research on “The Effect of Using the Flipped Classroom Techniques for the Subject of DES120 : The Introduction of Fundamental Design for Students in Department of Computer Animation and Visual Effects, School of Digital Media”. The purposes of the research are to study the effect of using flipped classroom teaching techniques in the DES 120 course and also to provide students with creativity in their works and increase their academic achievements. The sampling group used in the study is the students in Animation and Visual Effects Department, School of Digital Media, Sripatum University who registered in DES 120 course: The Introduction of Fundamental Design in the first semester of the academic year 2017, totally 15 students who acquire good level of grading with a cumulative grade point average of 3.00 and above. There are 5 people in the class who have the moderate grading and the cumulative GPA of 2.50 - 2.99 and other 5 students who come up with fair studied outcomes and obtain the cumulative GPA of 2.00 - 2.49, respectively. For data collection, the model of creative thinking assessment and four aspects of educational achievement evaluation which are 1) Fluency 2) Flexibility 3) Originality and 4) Elaboration were applied as the research tools. The relevant statistics adapted in the research consist of frequency, percentage, mean and standard deviation. The findings in using flipped classroom teaching techniques for DES 120 course represented that the academic as well as the divergent (creative) thinking achievements for majority of students have been raised up to the higher level as they had a very good performance in studying when compare to the pre-test and post-test averaged scores with the average academic and divergent (creative) thinking achievement about 3.93 and 4.60. According to the result focused on creative thinking achievement, the study found that the skill of fluency has evolved to a very good level with the average score of 4.78. Moreover, the average score of flexibility side was up to a very good level at 4.62. The divergent or creative thinking was very good as it turned up with the average score about 4.53 and lastly, the aspect called elaboration reflected the development of the sampling group as it reached through good level by 4.49 of the average score.