กำลังเรียกดู โดย ผู้เขียน "yuwadee Kruerattikarn"
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 3 ของ 3
ผลลัพธ์ต่อหน้า
ตัวเลือกเรียงลำดับ
รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการกำกับดูแลกิจการกับตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(Sripatum University, 2556) ยุวดี เครือรัฐติกาล; yuwadee Kruerattikarnงานวิจัยนี้ได้ศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการกำกับดูแลกิจการกับตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จำนวน 60 บริษัท มีตัวแปรอิสระได้แก่ กลไกการกำกับดูแลกิจการของบริษัท (ประกอบด้วย จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรมการบริษัท จำนวนของกรรมการอิสระ สัดส่วนการถือหุ้นของกรรมการ การควบรวมตำแหน่งประธานกรรมการกับประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการ และค่าตอบแทนกรรมการ) ตัวแปรตาม ได้แก่ ตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไร (ประกอบด้วย อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม และอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น และตัวแปรควบคุม ได้แก่ ขนาดของบริษัท อายุบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน ผลการศึกษาพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการกำกับดูแลกิจการกับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัทโดยใช้การทดสอบค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ ปี 2552 กลไกการกำกับดูแลกิจการมีความสัมพันธ์กับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท 3 ตัวแปรได้แก่ จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท อายุบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน โดยจำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน มีความสัมพันธ์กันในทิศทางตรงข้ามกัน ส่วนอายุบริษัทมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน ปี 2553 กลไกการกำกับดูแลกิจการมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้ามกันกับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท ได้แก่ จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน ปี 2554 กลไกการกำกับดูแลกิจการมีความสัมพันธ์กับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท ได้แก่ สัดส่วนการถือหุ้นของกรรมการบริหาร ขนาดของบริษัท อายุบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน โดยขนาดของบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน มีความสัมพันธ์กันในทิศตรงข้ามกัน ส่วนการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ปี 2552 และ 2553 มีตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมได้แก่ จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน ปี 2554 ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม อย่างมีนัยสำคัญ 0.05 ได้แก่ ความเสี่ยงทางการเงิน ความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการกำกับดูแลกิจการกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น โดยใช้การทดสอบค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ พบว่าปี 2552 อายุบริษัทมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นของบริษัทเพียงตัวแปรเดียว ส่วนการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ปี 2552 และ 2553 ไม่มีตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้น ส่วนปี 2554 ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้นได้แก่ ค่าตอบแทนกรรมการ และขนาดของบริษัท จากผลการศึกษาสรุปได้ว่ากลไกการกำกับดูแลกิจการได้แก่ จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท สัดส่วนการถือหุ้นของกรรมการบริหาร และค่าตอบแทนกรรมการ มีความสัมพันธ์กับตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ดังนั้นหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ นักลงทุน และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ควรให้ความสำคัญกับกลไกการกำกับดูแลมากยิ่งขึ้นในการเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดระหว่างกันรายการ ความสัมพันธ์ระหว่างการกำกับดูแลกิจการกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย, 2556-05-31) ยุวดี เครือรัฐติกาล; yuwadee Kruerattikarnงานวิจัยนี้ได้ศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างการกำกับดูแลกิจการกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จำนวน 60 บริษัท มีตัวแปรอิสระได้แก่ การกำกับดูแลกิจการของบริษัท (ประกอบด้วย การควบรวมตำแหน่งประธานกรรมการกับประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการ และค่าตอบแทนกรรมการ) ตัวแปรตาม ได้แก่ อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น และตัวแปรควบคุม ได้แก่ อายุของบริษัท ผลการศึกษาพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการกำกับดูแลกิจการกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยใช้การทดสอบค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ พบว่าปี 2552 อายุของบริษัทมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นของบริษัทเพียงตัวแปรเดียว ส่วนการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ปี 2552 และ 2553 ไม่มีตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้น ส่วนปี 2554 ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้นได้แก่ ค่าตอบแทนกรรมการ จากผลการศึกษาสรุปได้ว่าการกำกับดูแลกิจการได้แก่ ค่าตอบแทนกรรมการมีความสัมพันธ์กับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นของบริษัทเพียงตัวแปรเดียว ดังนั้นหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ นักลงทุน และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ควรให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลมากยิ่งขึ้นในการเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดระหว่างกันรายการ หน่วยงานที่ควรมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลกิจการ(สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย, 2555-05-28) ยุวดี เครือรัฐติกาล; yuwadee Kruerattikarnปัจจุบันการกำกับดูแลกิจการเป็นเรื่องที่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต้องให้ความสำคัญเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากมีการทุจริตในบริษัทโดยเฉพาะการทุจริตจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทหรือมีการร่วมมือกันระหว่างผู้สอบบัญชีและผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ดังนั้นจึงควรมีหน่วยงานที่ร่วมกันสนับสนุนและให้ข้อเสนอแนะแก่ผู้บริหารบริษัทในประเด็นที่อาจทำให้บริษัทละเว้นการมีการกำกับดูแลที่ดี ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หน่วยงานตรวจสอบภายใน คณะกรรมการตรวจสอบ และผู้สอบบัญชีรับอนุญาต โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการกำกับดูแลแก่ผู้บริหารบริษัท และขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยให้เปิดเผยข้อมูลของบริษัทและให้มีการมอบรางวัลแก่บริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี ส่วนหน่วยงานตรวจสอบภายใน คณะกรรมการตรวจสอบ และผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะมีการติดต่อประสานงานระหว่างกันเพื่อดูแลในเรื่องของระบบการควบคุมภายใน การจัดทำงบการเงินให้ถูกต้องตามมาตรฐานรายงานทางการเงินและมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส