Reverie Fields
| dc.contributor.author | Pratana Jirapasittinon | |
| dc.date.accessioned | 2025-08-13T11:44:57Z | |
| dc.date.available | 2025-08-13T11:44:57Z | |
| dc.date.issued | 2025-07-09 | |
| dc.description.abstract | ในบริบทของโลกยุคปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและแรงผลักจากระบบทุนนิยม จังหวะชีวิตที่ความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาพร้อมๆกับความคาดหวัง กลายเป็นสาระสำคัญของการดำเนินชีวิต การดำรงอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ การสื่อสารที่ต่อเนื่อง และการบริโภคข้อมูลอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งผลให้มนุษย์จำนวนมากห่างเหินจากภาวะของการหยุดนิ่ง และความเงียบสงบที่จำเป็นต่อการเยียวยาจิตใจและการตระหนักรู้ในตนเอง การสำรวจช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ (quietude) จึงมิใช่เพียงภาวะของการหยุดการเคลื่อนไหวทางกายภาพเท่านั้น หากแต่เป็นภาวะของการ "ชะลอจังหวะชีวิต" (slowing down) ซึ่งมีนัยสำคัญในเชิงจิตวิทยา ปรัชญา และสุนทรียศาสตร์ ความเงียบไม่ใช่ความว่างเปล่า หากแต่เป็นพื้นที่ภายในที่เปิดโอกาสให้บุคคลได้กลับมาเชื่อมโยงกับตนเอง ทบทวนประสบการณ์ รับรู้ความรู้สึก และตั้งคำถามต่อสิ่งที่ดำเนินอยู่รอบตัว ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่สอดคล้องกับแนวคิดเรื่อง self-reflection ในจิตวิทยา และแนวทางของ contemplative practices ในปรัชญาตะวันออกและตะวันตก ช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบยังทำหน้าที่เป็นพื้นที่กลางระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อม โดยเอื้อให้เกิดการรับรู้ที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนต่อสิ่งรอบตัว ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในสภาวะเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านการแสดงออกด้วยภาษาเชิงวัจนภาษา (verbal language) หากแต่สามารถถ่ายทอดผ่านปฏิกิริยาอันแผ่วเบา เช่น สายตา สีหน้า หรือแม้กระทั่งพลังงานที่แวดล้อมอยู่ในบรรยากาศ ซึ่งแนวคิดนี้สอดคล้องกับทฤษฎีการสื่อสารแบบไม่ใช้คำพูด (nonverbal communication) ที่เน้นการรับรู้ความหมายจากบริบทโดยรวม เมื่อพิจารณาในมิติของการดำรงอยู่ (ontology) ความเงียบยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการตระหนักรู้ถึง "การมีอยู่" ของตนเองในฐานะปัจเจก ซึ่งไม่ใช่การมีอยู่ที่อิงจากบทบาททางสังคมหรือการกระทำใด ๆ แต่เป็นการมีอยู่ในสภาพที่ปราศจากการแทรกแซงของสิ่งเร้า เป็น "การอยู่กับปัจจุบัน" อย่างบริบูรณ์ (mindfulness) อันเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในวงการจิตบำบัดและสุขภาพจิตสมัยใหม่ ด้วยเหตุนี้ การพินิจช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบจึงเป็นมากกว่าการหยุดพัก หากแต่เป็นกระบวนการฟื้นฟูภายใน เป็นพื้นที่ทางจิตวิญญาณที่เปิดโอกาสให้มนุษย์ได้กลับคืนสู่ตนเอง และเชื่อมโยงกับโลกด้วยความเข้าใจอันลึกซึ้งยิ่งขึ้น | |
| dc.identifier.citation | Faculty of Fine and Applied Arts, Burapha University | |
| dc.identifier.uri | https://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/10169 | |
| dc.language.iso | other | |
| dc.publisher | Faculty of Fine and Applied Arts, Burapha University | |
| dc.title | Reverie Fields | |
| dc.type | Article |