การใช้ระบบไอโอทีและเครื่องมือการวินิจฉัยเพื่อการประหยัดพลังงานระบบปรับอากาศแบบชิลเลอร์

dc.contributor.authorเด่นชัย วรเดชจำเริญth_TH
dc.date.accessioned2564-04-21T06:05:39Z
dc.date.available2021-04-21T06:05:39Z
dc.date.issued2563-09-22
dc.description.abstractปัจจุบันอาคารขนาดใหญ่มีการสิ้นเปลืองพลังงาน 15-30% ของการใช้พลังงานจากความเสื่อมประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศ การติดตั้งและการใช้งานไม่ถูกต้อง การตั้งระบบควบคุมไม่เป็นไปตามการออกแบบและขาดผู้ดูแลชำนาญการที่เพียงพอ รวมถึงขาดการออกแบบระบบที่เหมาะสม ปัญหาที่กล่าวมายังส่งผลต่อการสิ้นเปลืองค่าซ่อมบำรุงประมาณ 50% ถึงแม้ว่าอาคารเหล่านั้นจะมีการติดตั้งระบบอาคารอัตโนมัติ (building automaton system, BAS) ในการควบคุมการทำงานระบบปรับอากาศ หากแต่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยเฉพาะการนำข้อมูลจากระบบ BAS เพื่อการวินิจฉัยหาต้นตอของปัญหาที่ก่อให้เกิดการสูญเสียพลังงาน รวมถึงปัญหาความชื้นที่เกิดขึ้นในพื้นที่การปรับอากาศ โดยปกติระบบ BAS ในประเทศไทย (ดังรูปภาพ) ถูกแยกออกเป็นอย่างน้อย 3 ระบบตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ประกอบด้วย chiller plant manager (CPM), BAS และ energy management system (EMS) ทำให้ข้อมูลการทำงานของระบบยากต่อการจัดเก็บและนำมาใช้งานอย่างเหมาะสม รวมถึงขาดเซ็นเซอร์ที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์ปัญหา ทำให้ผู้ดูแลระบบไม่สามารถใช้ข้อมูลจากระบบ BAS ได้อย่างมีประสิทธิผล การจัดเก็บข้อมูลเป็นปัญหาทำให้ขาดการส่งเสริมกระบวนการยกระดับความสามารถระบบ BAS เพื่อการควบคุมปรับอากาศในประเทศไทยตามมาตรฐาน ASHRAE โดยสามารถแก้ปัญหาได้โดยการนำเทคโนโลยีไอโอที (internet of things, IoT) คือระบบเซ็นเซอร์และระบบเก็บข้อมูล (Cloud Computing) เพื่อการเพิ่มความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันด้วยระบบอินเทอร์เน็ต โดยระบบไอโอทีเซ็นเซอร์สามารถใช้ได้ทั้งแบบเดินสายและไร้สายเพิ่มเติมข้อมูลที่ขาดจากระบบ BAS ส่วนระบบ cloud ใช้รวบรวมข้อมูลระบบไอโอทีเซ็นเซอร์และเชื่อมต่อข้อมูลจากระบบ BAS ลดภาระคอมพิวเตอร์ของระบบ BAS รวมถึงการสามารถสร้างระบบ วินิจฉัยปัญหาแบบอัตโนมัติ (automated fault detection and diagnostics, AFDD) ประมวลผลบนระบบ cloud และส่งการแจ้งเตือนกลับที่ผู้ดูแลผ่านระบบ email, mobile application หรือระบบ LINE การใช้ระบบ CPM และ BAS ได้อย่างเหมาะสมรวมถึงการติดตั้งระบบไอโอทีในการช่วยวินิจฉัยปัญหาได้ตรงจุดสามารถนำไปสู่การประหยัดพลังงานแบบยั่งยืน จากการเข้าแก้ปัญหาได้ถูกจุดและรวดเร็วทำให้ระบบปรับอากาศกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ นำไปสู่การประหยัดพลังงานได้อย่างน้อย 10% ของระบบปรับอากาศ ในการสัมมนานี้ผู้เข้ารับการอบรม จะได้รับความเข้าใจในภาพรวมการใช้งานทั้งระบบ BAS และ CPM ตามมาตรฐานของ ASHRAE โดย Pacific Northwest National Laboratory (PNNL) และจากข้อมูลการใช้งานในประเทศไทยจากทีมวิจัย Intelligent Building Collaboration (IBC) Research Unit ผู้ดำเนินการโครงการวิจัย “การพัฒนากระบวนการและแนวทางการสร้างมาตรฐานการใช้งานระบบอาคารอัตโนมัติสำหรับการประหยัดพลังงานระบบปรับอากาศและระบายอากาศ” โดยทุนวิจัย “โครงการร่วมสนับสนุนทุนวิจัยและพัฒนา ระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)” รวมไปถึงการเรียนรู้การใช้งานระบบ IoT โดยการสาธิตผ่านชุดจำลองการทำงานจริงจากทีมวิจัย IBCth_TH
dc.description.sponsorshipASHRAE Thailand Chapter และ Air-Conditioning Engineering Association of Thailandth_TH
dc.identifier.citation-th_TH
dc.identifier.urihttps://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/7442
dc.language.isothth_TH
dc.subjectIoTth_TH
dc.subjectDiagnosticth_TH
dc.titleการใช้ระบบไอโอทีและเครื่องมือการวินิจฉัยเพื่อการประหยัดพลังงานระบบปรับอากาศแบบชิลเลอร์th_TH
dc.typeOtherth_TH

ไฟล์

ชุดต้นฉบับ
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 1 ของ 1
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
CPMS use - section 1 เรื่องที่ 1 63.pdf
ขนาด:
4.03 MB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
มัดใบอนุญาต
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 1 ของ 1
ไม่มีรูปขนาดย่อ
ชื่อ:
license.txt
ขนาด:
1.71 KB
รูปแบบ:
Item-specific license agreed upon to submission
คำอธิบาย: