การพัฒนาแบบจาลองการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินสาหรับธุรกิจ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

dc.contributor.authorณฐภศา เดชานุเบกษาth_TH
dc.contributor.authorณัฐสพันธ์ เผ่าพันธ์th_TH
dc.date.accessioned2563-03-27T10:09:18Z
dc.date.available2020-03-27T10:09:18Z
dc.date.issued2562-12
dc.description.abstractการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาตัวแปรอัตราส่วนทางการเงิน ตัวแปรสัมพันธ์กับมูลค่าทางการตลาด และคุณลักษณะของธุรกิจที่สามารถพยากรณ์การพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินของธุรกิจ (2) เพื่อพัฒนาแบบจาลองการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินสาหรับธุรกิจ 3) เพื่อทดสอบอิทธิพลเชิงสาเหตุของตัวแปรพยากรณ์ผลการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินจากแบบจาลองที่พัฒนาขึ้นต่อผลตอบแทนของหลักทรัพย์ งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน ( Mixed method)ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิ และเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีแบบจับคู่ ( Matched pair) ระหว่างบริษัทที่มีปัญหาทางการเงินและเป็นบริษัทที่ไม่มีปัญหาทางการเงิน และดาเนินการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เชี่ยวชาญ โดยวิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) ผลการวิจัยตัวแปรที่สามารถพยากรณ์ การพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินของธุรกิจและการพัฒนาแบบจาลองการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินสาหรับธุรกิจโดยการวิเคราะห์ถดถอยโลจิสติกส์ พบว่า ตัวแปรอัตราส่วนทางการเงิน ได้แก่ อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนสุทธิต่อสินทรัพย์รวม อัตราส่วนหมุนเวียนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน อัตราส่วนผลตอบแทนจากสินทรัพย์ อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น ตัวแปรตัวแปรสัมพันธ์กับมูลค่าทางการตลาด คือ มูลค่าตลาดของสินทรัพย์ต่อจุดผิดนัดชาระหนี้ และตัวคุณลักษณะของธุรกิจ คือขนาดธุรกิจ มีอิทธิพลในการพยากรณ์และพัฒนาแบบจาลองการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินสาหรับธุรกิจ โดยแบบจาลองมีความแม่นยาถึงร้อยละ 82.70 ส่วนผลการทดสอบตัวแปรอิทธิพลของผลการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินจากแบบจาลองที่พัฒนาขึ้นต่อผลตอบแทนของหลักทรัพย์ โดยการใช้การวิเคราะห์เส้นทาง (Path analysis) พบว่า ตัวแปรเชิงสาเหตุในแบบจาลองที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อผลตอบแทนหลักทรัพย์ ประกอบด้วย อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนสุทธิต่อสินทรัพย์รวม อัตราส่วนหมุนเวียนสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน มูลค่าตลาดของสินทรัพย์ต่อจุดผิดนัดชาระหนี้ ส่วนขนาดธุรกิจมีนัยสาคัญ เพียงการส่งผลในทางตรงต่อผลตอบแทนหลักทรัพย์ ทั้งนี้ ผลในภาพรวม พบว่า แบบจาลองเชิงสาเหตุมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์โดยมีค่าความสอดคล้องผ่านเกณฑ์ความสอดคล้องทุกค่า พร้อมทั้งผลการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเห็นด้วยกับผลการวิจัยเชิงปริมาณที่พัฒนาขึ้นth_TH
dc.identifier.citationณฐภศา เดชานุเบกษา,ณัฐสพันธ์ เผ่าพันธ์. (2562).การพัฒนาแบบจาลองการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินสาหรับธุรกิจ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. วารสารวิทยาลัยพาณิชยศาสตร์บูรพาปริทัศน์. 4 (2). น.143 -158. ชลบุรี : วิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.th_TH
dc.identifier.issn1685-2354
dc.identifier.urihttp://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/6625
dc.language.isothth_TH
dc.publisherมหาวิทยาลัยบูรพาth_TH
dc.subjectการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินth_TH
dc.subjectอัตราส่วนทางการเงินth_TH
dc.subjectตัวแปรสัมพันธ์กับมูลค่าทางการตลาดth_TH
dc.subjectคุณลักษณะของธุรกิจth_TH
dc.titleการพัฒนาแบบจาลองการพิจารณาความน่าเชื่อถือทางการเงินสาหรับธุรกิจ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยth_TH
dc.title.alternativeTHE DEVELOPMENT OF THE CREDIT SCORING MODEL FOR COMPANIES LISTED ON THE STOCK EXCHANGE OF THAILANDth_TH
dc.typeArticleth_TH

ไฟล์

ชุดต้นฉบับ
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 1 ของ 1
ไม่มีรูปขนาดย่อ
ชื่อ:
ณฐภศา - ณัฐสพันธ์ (1).pdf
ขนาด:
705.28 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
มัดใบอนุญาต
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 1 ของ 1
ไม่มีรูปขนาดย่อ
ชื่อ:
license.txt
ขนาด:
1.71 KB
รูปแบบ:
Item-specific license agreed upon to submission
คำอธิบาย: