Please use this identifier to cite or link to this item:
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/6050
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | สุพรรณิการ์ รามางกูร | en_US |
dc.date.accessioned | 2019-03-08T04:09:22Z | - |
dc.date.available | 2019-03-08T04:09:22Z | - |
dc.date.issued | 2562-03-08 | - |
dc.identifier.uri | http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/6050 | - |
dc.description | นิติศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี | en_US |
dc.description.abstract | วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะทำการศึกษาความเป็นมาและความสำคัญ ของปัญหากฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนในการคุ้มครองสิทธิคนต่างด้าวผู้อพยพที่เข้ามาในประเทศไทย โดยทำการศึกษาประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของกฎหมายคนเข้าเมือง กฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยได้ไปลงนามและให้สัตยาบันไว้แล้ว รวมถึงกฎหมายต่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงและพัฒนากฎหมายคนเข้าเมืองของไทยให้มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนต่างด้าวผู้อพยพที่เข้ามาในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ผลจากการศึกษาพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พบว่ามีบทบัญญัติบางประการที่ไม่สอดคล้องกับพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยได้ไปลงนามและให้สัตยาบันไว้แล้วทั้ง 7 ฉบับ ส่งผลให้คนต่างด้าวผู้อพยพไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยได้ไปลงนามและให้สัตยาบันไว้แล้ว รวมถึงหลักการในการส่งกลับคนต่างด้าวผู้อพยพที่ไม่สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและประเด็นการไม่แยกเด็กออกจากบิดามารดา ยกเว้นความจำเป็นเพื่อประโยชน์ของเด็ก ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่ประเทศไทยได้ไปลงนามและให้สัตยาบันไว้แล้ว อีกทั้งยังพบว่าหลักปฏิบัติในการควบคุมตัวคนต่างด้าวผู้อพยพและผู้ที่ขอลี้ภัยยังไม่สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ที่ประเทศไทยได้ไปลงนามและให้สัตยาบันไว้แล้วทั้ง 7 ฉบับ ส่งผลให้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคนต่างด้าวผู้อพยพหรือผู้ที่ขอลี้ภัยที่เข้ามาในประเทศไทย จากผลการศึกษามีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ควรปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติ มาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้สอดคล้องกับพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยได้ไปลงนามและให้สัตยาบันไว้แล้ว รวมถึงปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ในเรื่องการห้ามส่งผู้อพยพและผู้ลี้ภัย ซึ่งเป็นคนต่างด้าวกลับประเทศ หากมีเหตุอันควรเชื่อว่าเขาผู้นั้นจะต้องถูกส่งกลับไปทรมานเพื่อให้สอดคล้อง กับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่ประเทศไทยได้ไปลงนามและให้สัตยาบันไว้แล้ว และปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมตัวคนต่างด้าว ผู้อพยพและผู้ขอลี้ภัยที่ถูกควบคุมตัวระหว่างรอการส่งตัวกลับประเทศ ให้มีสิทธิได้รับการปฏิบัติตามมาตรฐาน เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยได้ไป ลงนามและให้สัตยาบันไว้แล้ว | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.subject | สิทธิมนุษยชน | en_US |
dc.subject | คนต่างด้าวผู้อพยพ | en_US |
dc.subject | ผู้ลี้ภัย | en_US |
dc.title | ปัญหากฎหมายด้านสิทธิมนุษยชนในการคุ้มครองสิทธิคนต่างด้าว ผู้อพยพที่เข้ามาในประเทศไทย | en_US |
dc.title.alternative | LEGAL PROBLEMS ON HUMAN RIGHTS FOR THE PROTECTION OF THE RIGHTS OF FOREIGN IMMIGRANTS IN THAILAND | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
Appears in Collections: | S_CHO-09. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
abstract.pdf | 196.37 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.