Please use this identifier to cite or link to this item: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/7269
Title: ข้อมูลชีวมาตร..ภัยสิทธิส่วนบุคคล
Authors: ผศ.ทัชชภร มหาแถลง
Keywords: กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, ข้อมูลส่วนบุคคล, ข้อมูลชีวภาพ
Issue Date: 12-November-2562
Publisher: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
Citation: กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, ข้อมูลส่วนบุคคล, ข้อมูลชีวภาพ,Personal data protection law, Personal data, biometric information
Abstract: พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 และกฎหมายฉบับดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 1 ปีนับตั้งแต่ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และกฎหมายฉบับนี้จะมีผลกระทบทั้งต่อภาคประชาชน หน่วยงานรัฐและหน่วยงานเอกชน เนื่องจากปัจจุบันมีการล่วงละเมิด สิทธิความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นจำนวนมากจนสร้างความเดือดร้อนรำคาญหรือความเสียหาย ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้การเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นการล่วงละเมิดดังกล่าว ทำได้โดยง่าย สะดวก และรวดเร็ว แม้จะมีกฎหมายฉบับนี้ออกมาควบคุมในการรวบรวมและเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว แต่ยังมีประเด็นที่น่าคิดว่าในทางปฏิบัติหรือการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ เช่น ประเด็นเรื่องการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งในส่วนของกฎหมายจะมีข้อมูลที่จำเป็นหรือบังคับให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเก็บได้ หรือเป็นกรณีการให้ความยินยอม (consent) ของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่จะยินยอมให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวหรือไม่ และอีกประเด็นคือเรื่องการเก็บข้อมูลชีวมาตร (Biometrics) และการใช้เทคโนโลยีชีวมาตรของหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานเอกชนกับความเสี่ยงทีอาจมีการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
Description: ข้อมูลชีวมาตรเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการประมวลผลทางเทคนิคเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับลักษณะทางกายภาพ สรีรวิทยา และพฤติกรรมของคนตามธรรมชาติ เช่น ภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือม่านตา ส่วนเทคโนโลยีชีวมาตร ได้แก่ เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Face Recognition Technology) เทคโนโลยีจดจำลายนิ้วมือ เทคโนโลยีจดจำม่านตา ซึ่งเทคโนโลยีชีวมาตรที่กล่าวมานี้ เป็นเทคโนโลยีในการระบุตัวตน (Identification) และการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคล (Verification) ซึ่งเทคโนโลยีชีวมาตรนี้ ได้ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของเราหลายๆอย่าง เช่น การสแกนลายนิ้วมือ สแกนใบหน้าในการใช้โทรศัพท์มือถือ การระบุเวลาเข้า-ออกในการทำงาน การเข้า-ออกสถานที่พักอาศัยหรือหน่วยงานต่างๆ การชำระเงินหรือการใช้บัตรเครดิตทางออนไลน์ การทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ ฯลฯ ข้อมูลชีวมาตรจึงเป็นข้อมูลเฉพาะตัวบุคคลที่สามารถระบุอัตลักษณ์ตัวบุคคลได้ ดังนั้น ข้อมูลชีวมาตรเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ โดยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป หรือ GDPR (General Data Protection Regulation) มีหลักห้ามทำการบันทึกหรือประมวลผลข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่ผู้เป็นเจ้าของข้อมูลจะให้ความยินยอมโดยชัดเจน หรือข้อมูลชีวมาตรนั้นจำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน ความมั่นคงปลอดภัยของสังคม หรือกปกป้องคุ้มครองทางสังคม ข้อมูลชีวมาตรจำเป็นสำหรับการปกป้องผลประโยชน์ที่สำคัญของแต่ละบุคคล แต่บุคคลเหล่านั้นไม่สามารถให้ความยินยอมได้ หรือข้อมูลชีวมาตรนั้นมีจำเป็นสำหรับประเด็นทางกฎหมาย หรือจำเป็นต่อประโยชน์สาธารณะ
URI: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/7269
Appears in Collections:LAW-07. ตำรา/สื่อการสอน/การอบรม (อื่นๆ)



Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.