หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สำหรับนักบริหาร

URI ถาวรสำหรับคอลเล็กชันนี้

เรียกดู

การส่งล่าสุด

ตอนนี้กำลังแสดง1 - 1 ของ 1
  • รายการ
    การนำนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติ: ศึกษาเฉพาะกรณีบทบาทมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
    (บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2551-05) พระมหาสุดใจ คุนาพันธ์,; KUNAPAN, PHRAMAHA SUDJAI
    วิทยานิพนธ์ เรื่อง “การนำนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติ” : ศึกษาเฉพาะ กรณีบทบาทมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการนำนโยบายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติและปัจจัยที่ส่งผลต่อการนำนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติของ ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย การศึกษาศึกษาครั้งนี้ เป็น การศึกษาเชิงสำรวจ (Survey Research) ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ คือ ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยจำนวน ๑๕๙ รูป/คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ แบบสอบถาม แล้วนำมาวิเคราะห์และประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยโปรแกรม สำเร็จรูป จากการศึกษากลุ่มตัวอย่าง พบว่า ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ของ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวิทยาลัย ด้านเพศ ส่วนใหญ่มีเพศเป็นบรรพชิต คิดเป็นร้อยละ ๖๘.๕๕ มีอายุระหว่าง ๓๑-๔๐ ปี คิดเป็นร้อยละ ๖๐.๓๘ มีอายุพรรษาระหว่าง ๑๑-๑๕ พรรษา มีระดับการศึกษาสายสามัญสูงกว่า ปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๙๔ มีระดับการศึกษาทางบาลี ไม่ได้เปรียญธรรม คิดเป็นร้อยละ ๓๗.๗๐ และมีตำแหน่งการทำงาน ระดับเจ้าหน้าที่ คิดเป็นร้อยละ ๕๗.๘๖ ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ของ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีการการนำ นโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติ พบว่า โดยภาพรวม อยู่ในระดับ “มาก” มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๓.๖๖ ด้านกระบวนการนำนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติในประเทศไทย อยู่ใน ระดับ “มาก” มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๘๓ ด้านความคิดเห็นในเรื่องของการนำนโยบายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยู่ในระดับ “ปานกลาง” มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๔๑ และด้านปัญหาอุปสรรคในการนำนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปปฏิบัติ บัณฑิตวิทยาลัย วิทยาคารพญาไท มหาวิทยาลัยศรีปทุม II ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยู่ในระดับ “น้อย” มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๗๖ เป็นข้อ คำถามเชิงลบ จากทดสอบสมมติฐานเพื่อค่าความแปรปรวน ในการเปรียบเทียบระหว่างตัวแปรอิสระ กับตัว แปรตาม พบว่า ผู้ริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ด้านอายุพรรษา และด้านวุฒิการศึกษาสายสามัญ มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕