ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายพัสดุ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535: ศึกษากรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
dc.contributor.author | พัลลภ นาคทรัพย์ | |
dc.date.accessioned | 2553-05-16T08:25:09Z | |
dc.date.available | 2553-05-16T08:25:09Z | |
dc.date.issued | 2553-05-16T08:25:09Z | |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายพัสดุตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535: ศึกษากรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผลการศึกษา พบว่าการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายพัสดุเกิดการบังคับใช้ตาม ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ที่ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เช่น การจำหน่ายโดยคิดอัตราค่าเสื่อมสภาพร้อยละ 20 จากราคาซื้อหรือได้มาครั้งแรกเป็นราคาประเมิน ขั้นต่ำในการขายทอดตลาดเพราะปัจจุบันราคาพัสดุครุภัณฑ์ที่ใช้ในราชการสำนักงานตำรวจ แห่งชาติได้ปรับราคาสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจจึงต้องมีการกำหนดคิดอัตราค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นใหม่ ปัญหาการสืบราคาจากผู้ประกอบอาชีพซื้อขายจริงระเบียบกำหนดให้เพียง 3 รายรวมถึงการเช่า อสังหาริมทรัพย์ (โกดัง) เพื่อใช้เป็นที่เก็บสิ่งของหลวงเพื่อความปลอดภัยของพัสดุเนื่องจากสถานที่ เก็บคับแคบไม่เพียงพอและปัญหาการอนุมัติว่าจะใช้ตำแหน่งใดเป็นผู้อนุมัติเพราะกฎหมายไม่ได้ ระบุตำแหน่งใดไว้เป็นการโดยเฉพาะตลอดจนการประกาศเผยแพร่ในการปิดประกาศการประมูล ขายทอดตลาดที่จำกัดเฉพาะในวงแคบเพียงสถานที่ที่จะทำการขายทอดตลาดและปัญหาสุดท้ายสิ่ง ที่จำเป็นที่สุดคือบทบาทของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวกับการจำหน่ายพัสดุเองในการใช้อำนาจไปในทางที่ มิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ปล่อยให้มีการเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องตนเองมีการล็อคสเป็คในการ จำหน่ายพัสดุ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อศึกษาปัญหาทางกฎหมายอย่างละเอียดพบว่า ควรแก้ไขปรับปรุง ระเบียบเสียใหม่ โดยกำหนดให้มีการคิดอัตราค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นเสียใหม่เป็นร้อยละ 30 จากราคาที่ซื้อหรือได้มาครั้งแรกตามภาวะเศรษฐกิจเพื่อให้การจำหน่ายพัสดุรวดเร็วยิ่งขึ้นราคาไม่แพงเกินไปและ ให้กำหนดผู้สืบราคาประเมินพวกที่มีอาชีพซื้อขายอย่างน้อย 6 รายขึ้นไปจะทำให้มีการจำหน่ายที่ สะดวกขึ้น ตามด้วยการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (โกดัง) ถ้าระบบจำหน่ายที่รวดเร็วถูกต้องตามระเบียบ แล้วการเช่าสถานที่ก็จะใช้พื้นที่เก็บสิ่งของหลวงน้อยลงค่าใช้จ่ายส่วนนี้จึงน้อยลงด้วยจากเดือนละ 20,000 บาท กำหนดให้เหลือ 10,000 บาท ทำให้ช่วยรัฐประหยัดงบประมาณในการเช่าดังกล่าว การจำหน่ายพัสดุในหน่วยงานของรัฐมีการกำหนดวงเงินของผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าสถานีตำรวจ ไว้หลายตำแหน่งวงเงินสมควรที่จะกำหนดเพียงตำแหน่งเดียวคือ ผู้บังคับการซึ่งเป็นหัวหน้าส่วน ราชการเป็นผู้สั่งให้มีการจำหน่ายเพียงตำแหน่งเดียวเพื่อให้พัสดุที่มีราคาสูงมากๆ ได้จำหน่ายไปใน คราวเดียวกันตามวงเงินที่ได้คือไม่เกิน 1,000,000 บาท และการประกาศเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ พัสดุที่จะขายทอดตลาดควรกำหนดให้มีมากกว่าหนึ่งสถานที่ อาจรวมถึงลงเว็บไซด์เพื่อให้มี ผู้สนใจมาสู้ราคามากขึ้นเกิดผลดีต่อหน่วยราชการทำให้มีการขายทอดตลาดได้คล่องตัวมากขึ้น ปัญหาสุดท้ายที่พบและสำคัญที่สุดที่ต้องมีบทกำหนดโทษให้สูงขึ้นทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เพื่อ มิให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจเกี่ยวกับพัสดุใช้อำนาจไปทางที่มิชอบไม่เป็นธรรมและโปร่งใสในการ จำหน่ายพัสดุที่ต้องวางตัวเป็นกลางไม่เห็นแก่สินบนผลประโยชน์สิ่งอื่นใด | en_US |
dc.identifier.uri | https://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1707 | |
dc.subject | ปัญหากฎหมาย | en_US |
dc.subject | การจำหน่ายพัสดุ | en_US |
dc.subject | สำนักงานตำรวจแห่งชาติ | en_US |
dc.title | ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการจำหน่ายพัสดุ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535: ศึกษากรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ | en_US |
ไฟล์
ชุดต้นฉบับ
1 - 5 ของ 11
มัดใบอนุญาต
1 - 1 ของ 1
ไม่มีรูปขนาดย่อ
- ชื่อ:
- license.txt
- ขนาด:
- 1.72 KB
- รูปแบบ:
- Item-specific license agreed upon to submission
- คำอธิบาย: