มาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองธุรกิจค้าปลีกรายย่อย

dc.contributor.authorวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์
dc.date.accessioned2552-08-28T03:24:36Z
dc.date.available2552-08-28T03:24:36Z
dc.date.issued2552-08-28T03:24:36Z
dc.description.abstractธุรกิจค้าปลีกเป็นกลไกสำคัญในระบบตลาดการค้าเสรี ถ้าหากตลาดการค้าปลีกมีการแข่งขันที่หลากหลาย มีการกระจายผู้ประกอบธุรกิจให้มีจำนวนยิ่งมากยิ่งมีการแข่งขัน และจะทำให้เกิดกลไกทางการตลาดที่จะถ่วงดุลกันในเรื่องราคา คุณภาพ ปริมาณ กับความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบและมีทางเลือกได้มากขึ้น ไม่เกิดการผูกขาด หรือมีอำนาจของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือผู้ใดกำหนดราคาเอง หรือกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกต่างชาติ หรือธุรกิจที่มีทุนจากต่างชาติได้เข้ามาขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว จนมีผลทำให้ธุรกิจค้าปลีกรายย่อยต้องเลิกกิจการไปมากกว่า 150,000 ราย และยังมีการเลิกกิจการมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่หยุดยั้งเช่นกัน เป็นที่เกรงกันว่าในไม่ช้าธุรกิจค้าปลีกทั้งหมดจะอยู่ในมือของผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่เพียง 4-5 ราย ของทั้งประเทศเท่านั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เศรษฐกิจของประเทศก็จะตกอยู่ในอำนาจของกลุ่มเพียงกลุ่มเดียว กลุ่มธุรกิจเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นทุนต่างชาติ หากเข้ามาครอบงำโดยสิ้นเชิงและมีอำนาจกำหนดราคารับซื้อจากเกษตรกร ผู้ผลิต หรือซัพพลายเออร์ในราคาต่ำ หรือมีเงื่อนไขที่เอาเปรียบต่าง ๆ ทำให้เกษตรกรก็จะขายผลผลิตได้ในราคาต่ำ ส่วนผู้บริโภคก็จะต้องซื้อสินค้าในราคาแพง สร้างผลกำไรมหาศาลส่งกลับประเทศผู้ลงทุน ทำให้ต้องขาดดุลเงินตราต่างประเทศ ดูดทรัพย์เม็ดเงินจากระบบการเงินของประเทศไทย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทยยิ่งยากจนลงไปอีก คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่น่ายินดี ถ้าหากใครๆ จะเห็นว่าประเทศเจริญรุ่งเรืองเต็มไปด้วยศูนย์การค้าและห้างขนาดใหญ่ แต่คนไทยส่วนใหญ่ต้องยากจนลงไปยิ่งกว่านี้อีก ถ้าหากมีมาตรการคุ้มครองผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกรายย่อยแล้ว ทำให้ธุรกิจรายย่อยประกอบธุรกิจอยู่ได้ เงินตราจะหมุนเวียนกระจายลงไปในระบบธุรกิจรายย่อย ซึ่งจะมีหลายระดับ ตั้งแต่ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกรายย่อย ตลอดไปถึงเกษตรกร หรือผู้ผลิต จะมีรายได้เพิ่ม มีเม็ดเงินหมุนเวียน มีสภาพคล่อง รายได้กระจายไปทุกส่วน เป็นผลให้เศรษฐกิจของชุมชน ของเมือง ของเกษตรกร ตลอดจนประเทศไทย ดีขึ้นมีความมั่นคงขึ้น ธุรกิจค้าปลีกรายย่อยแต่เดิมมีมากก็เป็นการดีอยู่แล้ว เพราะเราไม่ต้องพึ่งพาเงินลงทุนจากต่างประเทศ และยังเป็นแนวพระราชดำริ ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ที่รัฐจะต้องนำมาใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ปัจจุบันมาตรการคุ้มครองธุรกิจค้าปลีกรายย่อยยังไม่มีเป็นรูปธรรม ประกอบกับประเทศไทยรับข้อตกลงขององค์กรการค้าโลก (WTO) ได้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดเสรีทางการค้าและการลงทุน ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจต่างชาติใช้สิทธิต่างๆ ตามกฎหมายเข้ามาขยายกิจการเอาเปรียบทางการค้าและการลงทุน โดยที่ไม่ได้มีมาตรการทางกฎหมายที่จะคุ้มครองผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยของไทย ทำให้ธุรกิจรายย่อยต้องเลิกกิจการไปแล้วเป็นจำนวนมาก ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ จึงสมควรที่ประเทศไทยจะต้องมีมาตรการทางกฎหมาย ที่ให้ความคุ้มครองต่อผู้ประกอบธุรกิจการค้าปลีกอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อไปถึงความมั่นคงด้านอื่นๆ ของประเทศไทยด้วยen_US
dc.identifier.urihttps://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/1548
dc.subjectกฎหมายen_US
dc.subjectธุรกิจค้าปลีกen_US
dc.titleมาตรการทางกฎหมายในการคุ้มครองธุรกิจค้าปลีกรายย่อยen_US

ไฟล์

ชุดต้นฉบับ
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 5 ของ 12
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
1title.pdf
ขนาด:
42.38 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
คำอธิบาย:
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
2abstract.pdf
ขนาด:
72.57 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
คำอธิบาย:
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
3content.pdf
ขนาด:
56.55 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
คำอธิบาย:
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
4chap1.pdf
ขนาด:
97.71 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
คำอธิบาย:
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
5chap2.pdf
ขนาด:
305.46 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
คำอธิบาย:
มัดใบอนุญาต
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 1 ของ 1
ไม่มีรูปขนาดย่อ
ชื่อ:
license.txt
ขนาด:
1.72 KB
รูปแบบ:
Item-specific license agreed upon to submission
คำอธิบาย:

คอลเลคชัน