การคุ้มครองพยานบุคคลในคดีอาญา

dc.contributor.authorณัฎฐพล ธรรมสุนทรen_US
dc.date.accessioned2562-07-13T09:01:08Z
dc.date.available2019-07-13T09:01:08Z
dc.date.issued2562
dc.descriptionหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มวิชากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุมen_US
dc.description.abstractสารนิพนธ์นี้เป็นการศึกษาเรื่องการคุ้มครองพยานบุคคลในคดีอาญา พยานบุคคลในคดีอาญานับว่ามีความสำคัญอย่างมากในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา เพราะพยานบุคคล จะเบิกความโดยพิสูจน์ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่ และจำเลยได้กระทำความผิด ตามฟ้องโจทก์จริงหรือไม่ แต่การนำพยานบุคคลมาเบิกความในคดีอาญามีอุปสรรคหลายอย่าง เช่น พยานไม่ไปศาลเนื่องจากพยานบุคคลเกิดความหวาดกลัวจะได้รับอันตราย หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย หากต้องมาเป็นพยาน พยานเหล่านี้มักจะหลีกเลี่ยงการไปศาล หรือเกรงกลัวอิทธิพลแล้วกลับคำให้การในชั้นพิจารณาคดี ซึ่งการคุ้มครองพยานบุคคลในประเทศไทยนั้นไม่สามารถให้ความคุ้มครองต่อพยานได้อย่างแท้จริง เพราะการสืบพยานของประเทศไทยต้องกระทำโดยเปิดเผยและต่อหน้าจำเลยซึ่งบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 172 วรรคหนึ่ง เป็นการให้สิทธิแก่จำเลยที่จะได้รับการเผชิญหน้ากับพยาน หากเปรียบเทียบการสืบพยานของกฎหมายไทย และกฎหมายต่างประเทศ จะจัดให้มีการถ่ายทอดภาพและเสียง ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่พร้อมกันสามารถเห็นภาพและเสียงได้ยินเสียงของผู้พิพากษา ทนายความจำเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นรวมทั้งพยานหลักฐานและข้อมูลในกระบวนการก่อนสืบพยาน ทนายความมาปรากฏตัวต่อศาลพร้อมกับจำเลย กฎหมายในต่างประเทศมิได้บัญญัติให้ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย จึงไม่มีเงื่อนไขบังคับเรื่องการเผชิญหน้าระหว่างจำเลยกับพยาน และการที่บุคคลใดมาเป็นพยานที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมที่เป็นองค์กร พยานจะได้รับการคุ้มครองตั้งแต่เริ่มกระบวนพิจารณาจนจบคดี และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพยานก็ได้รับการคุ้มครอง แต่การที่บุคคลใดจะได้รับการคุ้มครองพยานต้องผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานของรัฐที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคุ้มครองพยานบุคคลโดยเฉพาะ พยานต้องทำการสมัครใจเข้าโครงการคุ้มครองพยาน และมีการกำหนดอัตราโทษบุคคลที่นำเรื่องเกี่ยวกับการคุ้มครองพยานไปเปิดเผยต่อสาธารณะ แต่กฎหมายของไทยมีกฎหมายบังคับให้การสืบพยานในคดีอาญาต้องเผชิญหน้ากับพยาน ซึ่งการคุ้มครองพยานของไทยคุ้มครองเฉพาะพยานไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพยานในคดี มีการคุ้มครองเพียงระยะเวลาจำกัด เพื่อให้การใช้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองพยานบุคคล เป็นไปโดยมีประสิทธิภาพตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานใน คดีอาญา พ.ศ. 2546 ควรที่จะกำหนดการคุ้มครองพยานที่รัฐจะต้องให้ความคุ้มครองบุคคลโดยมีการปฏิบัติที่เหมาะสม และมีการให้ค่าตอบแทนพอสมควรแก่พยาน และมีการจัดให้มีการคุ้มครองชั่วคราว แก่พยานในช่วงระยะเวลา ที่มีการพิจารณาคดีเพื่อให้การใช้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองพยานมีความเหมาะสมยิ่งขึ้นไปen_US
dc.description.sponsorshipคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุมen_US
dc.identifier.citationณัฎฐพล ธรรมสุนทร. 2561. "การคุ้มครองพยานบุคคลในคดีอาญา." สารนิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มวิชากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.en_US
dc.identifier.urihttps://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/6321
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยศรีปทุมen_US
dc.relation.ispartofseriesSPU_ณัฎฐพล ธรรมสุนทร_2562en_US
dc.subjectพยานบุคคลen_US
dc.titleการคุ้มครองพยานบุคคลในคดีอาญาen_US
dc.title.alternativeWITNESS PROTECTION IN THE CRIMINAL CASEen_US
dc.typeOtheren_US

ไฟล์

ชุดต้นฉบับ
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 5 ของ 12
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
1.ปก.pdf
ขนาด:
47.35 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
ไม่มีรูปขนาดย่อ
ชื่อ:
2.บทคัดย่อ ไทย.docx
ขนาด:
20.85 KB
รูปแบบ:
Unknown data format
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
3.บทคัดย่ออังกฤษ.pdf
ขนาด:
230.55 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
4.กิตติกรรมประกาศ.pdf
ขนาด:
235.64 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
กำลังโหลด...
รูปภาพขนาดย่อ
ชื่อ:
5.สารบัญ.pdf
ขนาด:
106.64 KB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format
มัดใบอนุญาต
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 1 ของ 1
ไม่มีรูปขนาดย่อ
ชื่อ:
license.txt
ขนาด:
1.71 KB
รูปแบบ:
Item-specific license agreed upon to submission
คำอธิบาย: