LAW-11. การค้นคว้าอิสระ/สารนิพนธ์
URI ถาวรสำหรับคอลเล็กชันนี้
เรียกดู
การส่งล่าสุด
รายการ มาตรการทางกฎหมายในการป้องกันผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุอันตรายตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) กลิ่นสุคนธ์ มักการุณสารนิพนธ์ฉบับนี้ มุ่งศึกษามาตรการทางกฎหมายในการป้องกันผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุอันตรายตามพระราชบัญญัติสุขภาพจิต พ.ศ. 2551 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ความเป็นมา แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับการป้องกันผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุอันตราย (2) กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุอันตรายของประเทศไทยและต่างประเทศ (3) ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุอันตราย (4) แนวทางแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันผู้มีอาการทางจิตก่อเหตุอันตรายให้มีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพรายการ ปัญหาทางกฎหมายการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในสถาบันครอบครัว(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ฑิตยา รัมมะฉัตรสารนิพนธ์นี้มุ่งศึกษาปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในสถาบันครอบครัว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) แนวคิด ทฤษฎี หลักการเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในสถาบันครอบครัว (2) มาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในสถาบันครอบครัวของต่างประเทศและประเทศไทย (3) วิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในสถาบันครอบครัว (4) เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในสถาบันครอบครัวรายการ ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดในการดูดวง(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) วรางคณา สุภาอ้วนสารนิพนธ์ฉบับนี้ศึกษาเรื่องปัญหาการฉ้อโกงโดยอาศัยวิชาชีพการพยากรณ์และโหราศาสตร์เป็นเครื่องมือศึกษากฎหมายไทยเปรียบเทียบกับกฎหมายต่างประเทศในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการฉ้อโกงโดยอาศัยวิชาชีพการพยากรณ์และโหราศาสตร์เป็นเครื่องมือ เพื่อศึกษาวิเคราะห์ปัญหาข้อกฎหมาย และอุปสรรคในการบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการฉ้อโกงโดยอาศัยวิชาชีพพยากรณ์และโหราศาสตร์เป็นเครื่องมือ เพื่อให้ได้แนวทางในการแก้ไขปัญหาและข้อเสนอแนะ ที่จะสามารถนำมาปรับใช้กฎหมายไทยได้อย่างเหมาะสมเพื่อลดปัญหาในการฉ้อโกงโดยอาศัยวิชาชีพหมอดูเป็นเครื่องมือ โดยการค้นคว้ารวบรวมจากหนังสือ อินเทอร์เน็ต ตลอดจนวิทยานิพนธ์ที่ศึกษาแนวคิดและวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดในการดูดวงรายการ การดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำความผิดที่เป็นเด็กกรณีผู้เสียหายถูกทำร้ายได้รับอันตรายสาหัสหรือเสียชีวิต(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) สุธีรา ไชยวิภาสการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ ปัญหา ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีการดำเนินคดีอาญากับเด็กที่กระทำความผิดที่มีจิตบกพร่อง การลงโทษเด็กที่กระทำความผิด และการลงโทษผู้ปกครองของเด็กที่กระทำความผิด ในกรณีที่ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสหรือเสียชีวิต ซึ่งมาตรการที่เกี่ยวข้องยังไม่ครอบคลุมและขาดความชัดเจน โดยศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายไทยกับกฎหมายต่างประเทศเพื่อเสนอแนะแนวทางปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพรายการ ปัญหาทางกฎหมายในการควบคุมการละเมิดสิทธิในกิจกรรมรับน้องของสถาบันอุดมศึกษา(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ปิยวรา อิ่มเพิ่มพูลสารนิพนธ์นี้มุ่งศึกษาปัญหาทางกฎหมายในการควบคุมการละเมิดสิทธิในกิจกรรมรับน้องของสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) แนวคิด ทฤษฎี หลักการเกี่ยวกับการควบคุมการละเมิดสิทธิในกิจกรรมรับน้องของสถาบันอุดมศึกษา (2) กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการละเมิดสิทธิในกิจกรรมรับน้องของสถาบันอุดมศึกษาของต่างประเทศและประเทศไทย (3) วิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมการละเมิดสิทธิในกิจกรรมรับน้องของสถาบันอุดมศึกษา (4) แนวทางแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการละเมิดสิทธิในกิจกรรมรับน้องของสถาบันอุดมศึกษารายการ มาตรการทางอาญาที่เหมาะสมกรณีผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็กซึ่งเป็นบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับเด็ก(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ธัญชนก จุติพงศ์สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาถึงมาตรการทางอาญาที่เหมาะสมกรณีผู้กระทำผิดทางเพศต่อเด็กซึ่งป็นบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับเด็ก โดยการวิจัยจากข้อมูลในเอกสาร เพื่อศึกษามาตรการการลงโทษการกระทำผิดทางเพศต่อเด็กและมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้เคยกระทำผิดทางเพศต่อเด็กทำงานเกี่ยวกับเด็กตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยนำมาเปรียบเทียบกับกฎหมายของ แคนาดา สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และนิวซีแลนด์ จากการศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายต่างประเทศนั้นพบว่า ประเทศไทยยังไม่มีการบัญญัติบทกฎหมายกำหนดโทษหนักสำหรับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กโดยบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับเด็กไว้อย่างชัดเจน มีเพียงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 285 ซึ่งครอบคลุมเพียงครูกระทำต่อศิษย์และผู้มีอำนาจกระทำต่อผู้อยู่ใต้อำนาจ อีกทั้งไม่ปรากฏมาตรการในการป้องกันผู้เคยกระทำผิดทางเพศต่อเด็กไม่ให้ทำงานเกี่ยวกับเด็กซึ่งครอบคลุมและมีสภาพบังคับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามรายการ กระบวนการยุติธรรมทางอาญากับการใช้โดรนโดยเจ้าหน้าที่รัฐศึกษากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) สาธร ช่วยโสภาสารนิพนธ์ฉบับนี้ มุ่งศึกษาปัญหากฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญากับการใช้โดรนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ศึกษากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นมา แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญากับการใช้โดรนโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ กฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญากับการใช้โดรนโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐของต่างประเทศและประเทศไทย วิเคราะห์ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญากับการใช้โดรนโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญากับการใช้โดรนโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพรายการ มาตรการทางอาญาที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่กระทำความผิดซ้ำศึกษากรณีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ผ่องมณี คงสมบูรณ์สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์มาตรการทางอาญาที่เหมาะสมสำหรับผู้กระทำความผิดซ้ำในคดีทำร้ายร่างกายตามมาตรา 295 และ 297 โดยพบว่าอัตราการกระทำผิดซ้ำ ในความผิดที่เกี่ยวกับความรุนแรง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมปัจจุบัน ขณะที่การเพิ่มโทษตามมาตรา 92 และ 93 ยังไม่สามารถยับยั้งวงจรความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลการศึกษาพบว่า ข้อจำกัดของกฎหมายไทยโดยเปรียบเทียบกับแนวทางของต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งมีการใช้มาตรการลงโทษที่เข้มงวดร่วมกับกระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำผิด หากการประเมินเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าภาวะทางจิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด โดยอิงจากการประเมินความเสี่ยงเพื่อความปลอดภัยของสังคมรายการ ปัญหาการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญาศึกษากรณี: ความรับผิดระหว่างคู่สมรส(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ศิริวรรณ เสนพันธ์สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของ“ คู่สมรส ” ที่มีการแก้ไขใหม่ของกฎหมายประมวลแพ่งและพาณิชย์(ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือสมรสเท่าเทียม ที่ให้คำจำกัดความในความหมายอย่างกว้างของคำว่า “คู่สมรส” ให้หมายความรวมไปถึงบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่เฉพาะเพศชายและหญิง ซึ่งต่างจากประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เดิม ที่มีการจำกัดสถานะของบุคคลที่จะสมรสกันได้เฉพาะชายและหญิงเท่านั้น และมีคำสรรพนามเรียกแทนว่า “สามีภริยา” โดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการศึกษาพบว่าบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศถือว่ามีสถานภาพความเป็นมนุษย์ที่มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมเหมือนกันกับบุคคลที่เป็นเพศหญิงและชาย สมควรได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายให้มีความเสมอภาคเท่าเทียมกันด้วยสิทธิของการสมรส โดยที่สถาบันครอบครัวเป็นหน่วยสำคัญในการพัฒนาสังคมและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่การก่อตั้งครอบครัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จำกัดเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพสังคมในปัจจุบันที่มีการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย โดยมีการอุปการะเลี้ยงดูและมีความสัมพันธ์ในด้านอื่น ๆ ไม่แตกต่างไปจากคู่สมรสที่เป็นชายและหญิงรายการ มาตรการทางกฎหมายในการกำหนดหน้าที่และคุ้มครองการแจ้งเหตุการกระทำความรุนแรงในครอบครัว(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) วิรัญญ์อร วงศ์นิติอังกูรสารนิพนธ์ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษามาตรการทางกฎหมายในการกำหนดหน้าที่และคุ้มครองการแจ้งเหตุการกระทำความรุนแรงในครอบครัว โดยศึกษามาตรการทางกฎหมายทั้งจากกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายสหรัฐอเมริกา กฎหมายเครือรัฐออสเตรเลีย และกฎหมายไทย เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่กฎหมายไทยไม่มีมาตรการทางกฎหมายในการกำหนดหน้าที่และคุ้มครองการแจ้งเหตุการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเป็นปัญหาสังคมที่มักถูกเพิกเฉยโดยสังคมถือว่าความรุนแรงในครอบครัวเป็นเรื่องส่วนตัวที่บุคคลภายนอกไม่ควรเข้าไปแทรกแซงรายการ ปัญหาทางกฎหมายในการประกอบธุรกิจขายตรงของผู้ประกอบธุรกิจ(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ศุภสุตา สังข์ประไพประเทศไทยมีพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 ที่ใช้ในการควบคุมและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจขายตรงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้วก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการประกอบธุรกิจขายตรงที่ผิดกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการอาศัยช่องว่างทางกฎหมายในการนำเอาธุรกิจขายตรงมาแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นในลักษณะการระดมทุนแบบแชร์ลูกโซ่ ซึ่งผู้จำหน่ายอิสระถือเป็นบุคคลสำคัญที่นำสินค้าจากผู้ประกอบธุรกิจไปขายหรือบริการให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง แต่พระราชบัญญัตินี้ก็ยังไม่ครอบคลุมถึงการควบคุมและกำกับดูแลผู้จำหน่ายอิสระที่กระทำการโดยไม่สุจริต ซึ่งทำให้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงต้องร่วมรับผิดกับผู้จำหน่ายอิสระในทุกกรณีถึงแม้ว่าผู้ประกอบธุรกิจจะไม่ได้มีส่วนร่วมหรือรู้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้จำหน่ายอิสระก็ตามรายการ ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและสิทธิหน้าที่ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) สมภพ อุยยานุกูลสารนิพนธ์นี้มุ่งศึกษาปัญหาทางกฎหมายที่เกี่ยวกับคุณสมบัติและสิทธิหน้าที่ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) แนวคิด ทฤษฎีหลักการเกี่ยวกับคุณสมบัติและสิทธิหน้าที่ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว (2) กฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและสิทธิหน้าที่ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวของระหว่างประเทศ ต่างประเทศ และประเทศไทย (3) วิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและสิทธิหน้าที่ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว (4) แนวทางแก้ไขปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติและสิทธิหน้าที่ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวรายการ ปัญหาการบังคับใช้โทษอาญาตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้าในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ภัทรชัย จันศรีคงสารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาค้นคว้าปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้โทษอาญาตามมาตรา 22แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522 โดยศึกษาในส่วนของความเหมาะสมในการกำหนดโทษอาญาตามบทบัญญัติมาตราดังกล่าว การนำโทษทางปกครอง และโทษปรับเป็นพินัยมาปรับใช้แทนโทษอาญา โดยได้ทำการศึกษาวิเคราะห์แนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับการกำหนดโทษทางอาญา แนวคิดการลดทอนการกำหนดความผิดอาญา แนวคิดการแปรรูปความผิดทางอาญา แนวคิดการกำหนดโทษทางปกครอง และแนวคิดกำหนดโทษปรับเป็นพินัย รวมทั้งกฎหมายของต่างประเทศเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหา พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวรายการ ระยะเวลาในการฟ้องคดีพิพาทที่เกี่ยวกับสัญญาทางปกครอง(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2555) กิตติ อุรีรักษ์ระยะเวลาในการฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองนั้น ซึ่งจากการที่ได้ศึกษาแนวคำวินิจฉัยของศาลปกครองพบว่ามีความไม่ชัดเจนและแตกต่างกันของแนวคำวินิจฉัย เช่น ในบางกรณีที่ศาลจะพิจารณาจากวันที่ผู้ฟ้องคดีทราบถึงการปฏิเสธที่จะกระทำการตามหนังสือทวงถาม หรือ วันที่พ้นกำหนดเวลาตามที่กำหนดในหนังสือทวงถามเป็นวันเริ่มนับอายุความ บางกรณีศาลพิจารณาจากวันที่อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องทำนองเดียวกับที่ใช้ในคดีแพ่ง หรือบางกรณีศาลจะพิจารณาจากลักษณะของสิทธิเรียกร้องและข้อเท็จแห่งคดีประกอบกันเพื่อพิจารณาว่าอะไรคือเหตุแห่งการฟ้องคดีและเวลาใดเป็นเวลาที่รู้หรือควรรู้ถึงเหตุแห่งดังกล่าวรายการ พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 : ศึกษากรณีปัญหาเกี่ยวกับสาธารณูปโภคในโครงการจัดสรรที่ดิน(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2555) ธนสิทธิ์ ธีระเดชพงศ์สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ในส่วนของปัญหาเกี่ยวกับสาธารณูปโภคในโครงการจัดสรรที่ดินในขั้นตอนของการยื่นคำขออนุญาตจัดสรรที่ดิน เนื่องจากพระราชบัญญัติฉบับนี้มิได้บัญญัติบทนิยาม คำว่า "สาธาธารณูปโภคในโครงการจัดสรรที่ดิน" ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่าสิ่งใด คือ สาธารณูปโภคในโครงการจัดสรรที่ดิน สาธารณูปโภคเป็นหัวใจสำคัญที่จะมีบทบาทต่อการจัดสรรที่ดินเพราะจำเป็นต่อการอยู่อยู่อาศัยของผู้ซื้อที่ดินจัดสรร การจัดให้มี การบำรุงรักษาต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูง ต้องมีบุคคลเข้ามารับผิดชอบอย่างเป็นรูปธรรม หากสาธารณูปโภคมีความหมายที่ชัดเจนย่อมเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องการจัดสรรที่ดินรายการ ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการให้ออกราชการเพราะมีมลทินหรือมัวหมองในกรณีที่ถูกสอบสวน ตามพระราชบัญญัติตำรวจเเห่งชาติ พ.ศ. 2547(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2555) ธวัชชัย จำปานาควินัย คือ กฎ ระเบียบ ข้อบัญญัติ ข้อบังคับ แบบแผนขององค์กร หรือหน่วยงานที่กำหนดไว้เพื่อควบคุมความประพฤติ หรือพฤติกรรมของบุคคลในองค์กร หรือหน่วยงานให้ยึดถือปฏิบัติตามเพื่อความสงบเรียบร้อยและความเป็นระเบียบขององค์กรหรือหน่วยงานนั้น ด้วยเหตุนี้วินัยจึงเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งในการบริหารงานบุคคลเพื่อช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารงานบุคคล กล่าวคือหากผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ก็จะถูกดำเนินการทางวินัยตามสมควรแก่กรณี ซึ่งในหลาย ๆ ประเทศใช้ระบบคุณธรรม (merit system) หลักความเสมอภาค หลักความสามารถ หลักความมั่นคง และหลักความเป็นธรรมทางการเมือง ดังนั้น การพิจารณามีคำสั่งลงโทษทางวินัยจึงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักนิติธรรม และหลักมโนธรรม ได้แก่ การพิจารณาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่าการกระทำเช่นไรเป็นความผิด และต้องพิจารณาทบทวนให้รอบคอบ โดยคำนึงถึงความเป็นจริงและความถูกต้องเหมาะสมตามเหตุผลและจากพยานหลักฐานที่ปรากฏต้องชัดเจนจึงจะมีการลงโทษรายการ ปัญหาการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง : ศึกษากรณีการไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อฝ่ายปกครองก่อน หรือยื่นอุทธรณ์แล้ว แต่ไม่รอผลการพิจารณาและนำคดีมาฟ้องภายในระยะเวลาการพิจารณาอุทธรณ์(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560) เสาวนีย์ ภู่พงษ์สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์การใช้บังคับกฎหมาย (Law Enforcement) รวมทั้งปัญหาเกี่ยวกับการฟ้องคดีต่อศาลปกครอง (Filing With Administrative Cout) กรณีไม่ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อฝ่ายปกครองก่อน หรือยื่นอุทธรณ์แล้ว แต่ไม่รอผลการพิจารณาและนำคดีมาฟ้องภายในระยะเวลาการพิจารณาอุทธรณ์ ตามมาตรา 42 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ซึ่งกฎหมายปกครองของไทยใช้ระบบอุทธรณ์บังคับแบบสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ที่ต้องอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองก่อนฟ้องคดี ทำให้เกิดปัญหาว่าขั้นตอนการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครองที่บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัติทางปกครองต่าง ๆ จะเป็นการอุทธรณ์ในระบบบังคับหรือในระบบเผื่อเลือกรายการ ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของมาตรการภายในของฝ่ายปกครอง(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2557) รัสวดี แสงศศิธรมาตรการภายในของฝ่ายปกครองเป็นเรื่องที่มีผลบังคับผูกพันภายในฝ่ายปกครองเท่านั้นจึงไม่ใช่แหล่งที่มาของกฎหมาย และมักจะปรากฏอยู่ในรูปหนังสือเวียน แนวทางปฏิบัติราชการต่างๆ คำสั่งภายใน หรือแนวทางการใช้ดุลพินิจ ซึ่งจะมีเนื้อหาสาระหรือผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเท่านั้น กล่าวคือ ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสถานภาพหรือสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชาในฐานะส่วนตัว หรือมีผลโดยตรงออกสู่ภายนอกฝ่ายปกครองหรือมุ่งใช้บังคับกับประชาชนแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นมาตรการที่มีวัตถุประสงค์มุ่งจัดระบบภายในและการปฏิบัติงานของหน่วยงานหรือบริการต่างๆ ของฝ่ายปกครองรายการ การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยของทหาร(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ณัฐพนธ์ วาปีธรรมสารนิพนธ์นี้มุ่งศึกษาการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยของทหาร ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) แนวคิด ทฤษฎี หลักการเกี่ยวกับกระบวนการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยของทหาร (2) กฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยของทหารของต่างประเทศและประเทศไทย (3) วิเคราะห์ปัญหากระบวนการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยของทหาร (4) แนวทางแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับกระบวนการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัยของทหาร ผลการศึกษาพบว่าพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช 2476 แม้ว่ามาตรา 21 กำหนดให้ข้าราชการทหารมีสิทธิร้องทุกข์หากพบว่าถูกลงโทษโดยไม่เป็นธรรม แต่ไม่มีบทบัญญัติที่ให้สิทธิในการอุทธรณ์คำสั่งลงโทษทางวินัย ส่งผลให้ไม่มีช่องทางอุทธรณ์ทำให้ข้าราชการทหารไม่สามารถโต้แย้งคำสั่งลงโทษหรือขอให้มีการพิจารณาใหม่ได้รายการ การหักส่วนความรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2568) ศุภกร ศรีคณากุลสารนิพนธ์นี้มุ่งศึกษาประวัติความเป็นมาแนวคิดและทฤษฎีของความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่และการหักส่วนความรับผิดของเจ้าหน้าที่โดยพิจารณาตามความร้ายแรงแห่งการกระทำและความเป็นธรรมในแต่ละกรณี และความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐและระบบการดำเนินงานส่วนรวม โดยเปรียบเทียบกฎหมายไทย กฎหมายต่างประเทศ แนวคำวินิจฉัยของศาลปกครองไทยและศาลต่างประเทศในคดีละเมิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ จากการศึกษาวิจัยพบว่า กฎหมายในประเทศไทยนั้นไม่ได้กำหนดความหมายของความร้ายแรงแห่งการกระทำและความเป็นธรรมในแต่ละกรณี และความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐและระบบการดำเนินงานส่วนรวม และหลักเกณฑ์ในการหักส่วนความรับผิดไว้อย่างชัดเจน