Please use this identifier to cite or link to this item:
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/7964
Title: | ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง ตามพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พุทธศักราช 2493 |
Other Titles: | LEGAL PROBLEMS RELATING TO THE CONTROL OF ADVERTISEMENT BY USING SOUND AMPLIFIERS UNDER THE ACT ON CONTROL OF ADVERTISEMENT BY USING SOUND AMPLIFIERS B.E. 2493 |
Authors: | ป นนทนันทน์ เรืองจันทร์ |
Keywords: | การควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง การโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง การควบคุมการโฆษณา |
Issue Date: | 2565 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยศรีปทุม |
Citation: | ป นนทนันทน์ เรืองจันทร์. 2564. "ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงตามพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พุทธศักราช 2493." บทความ นิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มวิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม. |
Abstract: | สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาของพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พุทธศักราช 2493 โดยทำการศึกษาปัญหามาตรการควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงสามกรณีด้วยกัน คือ ปัญหาเกี่ยวกับการขออนุญาตเพื่อการโฆษณา ปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดประเภทของการโฆษณา และปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดภาษาที่ใช้เพื่อการโฆษณาตามพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พุทธศักราช 2493 โดยได้ทำการศึกษาประกอบกับหลักกฎหมายมหาชนรวมถึงกฎหมายของต่างประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อนำผลการศึกษาและวิเคราะห์มาใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ จากการศึกษาพบว่า พระราชบัญญัติดังกล่าวได้ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยกำหนดให้ประชาชนต้องทำการขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก่อนทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่มีขอบเขตหรือข้อจำกัดเป็นหลักการนั้น เสมือนเป็นการตัดสิทธิเด็ดขาด ในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐสามารถออกข้อกำหนดในลักษณะอื่นที่ไม่มีความจำเป็นถึงขนาดต้องทำการขออนุญาต และรัฐควรควบคุมการดำเนินการเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เมื่อพิจารณานิยามของการโฆษณา จะเห็นว่า กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดการควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงไว้เพียงเฉพาะการพูดหรือการปราศรัยเท่านั้น ซึ่งจากการศึกษากฎหมายที่ใช้ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงในต่างประเทศจะมีขอบเขตของการควบคุมประเภทของเสียงเพื่อการโฆษณาโดยไม่มีการกำหนดประเภทของเสียงมากกว่าการพูดหรือการปราศรัย นอกจากนี้ กฎหมายการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงในประเทศไทยได้กำหนดให้ใช้ภาษาไทยหรือภาษาพื้นเมืองในการโฆษณาเท่านั้น ซึ่งมีความไม่สอดคล้องและไม่เหมาะสมกับสภาพสังคมในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากปัจจุบันประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่นได้โดยไม่ควรจำกัดเพียงภาษาที่ใช้ อีกทั้งกรณีนี้ยังเป็นการจำกัดเสรีภาพแก่ประชาชนโดยไม่เป็นการสมควรซึ่งการควบคุมให้ใช้ภาษาไทยหรือภาษาพื้นเมืองในการโฆษณาไม่ได้ทำให้กฎหมายบรรลุเจตนารมณ์โดยตรง และไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องจำกัดการใช้ภาษาเพื่อการโฆษณาเพียงภาษาไทยหรือภาษาพื้นเมืองเท่านั้น ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอเสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขออนุญาต โดยแก้ไขเพิ่มกฎหมายให้เสรีภาพในการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงเป็นหลัก เว้นแต่การขออนุญาตโฆษณาในกิจการบางประเภทให้เป็นข้อยกเว้น และให้มีการขยายความหมายของเครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าเพื่อใช้การควบคุมปัญหาการใช้เสียงและมุ่งควบคุมการใช้เสียงทุกประเภทที่ก่อให้เกิดความรำคาญ ความเสียหาย และส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นการทั่วไป รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยให้สามารถโฆษณาเป็นภาษาอื่นๆ ได้ เพื่อที่จะได้สอดคล้องกับหลักการทากฎหมาย โดยประชาชนยังคงมีสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารหรือการพูดของตนได้โดยเสรี และรัฐยังคงบรรลุวัตถุประสงค์ในการควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงที่จะควบคุมโดยเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งจะทำให้การดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงของประเทศไทยมีความชัดเจนและเป็นไปโดยมีประสิทธิภาพ |
URI: | http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/7964 |
Appears in Collections: | LAW-08. ผลงานนักศึกษา |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
บทความ.pdf | 236.71 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.