GRA-10. วิทยานิพนธ์ปริญญาเอก
URI ถาวรสำหรับคอลเล็กชันนี้
เรียกดู
กำลังเรียกดู GRA-10. วิทยานิพนธ์ปริญญาเอก โดย เรื่อง "BUSINESS PERFORMANCE"
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 4 ของ 4
ผลลัพธ์ต่อหน้า
ตัวเลือกเรียงลำดับ
รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะองค์การที่เป็นเลิศและผลการดำเนินงานขององค์การ : การศึกษาเชิงประจักษ์ธุรกิจการเงินในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(หลักสูตรการจัดการดุษฎีบัณฑิต วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560) วาริณี เจียมโชติรัตน์การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาแบบจำลองลักษณะองค์การที่เป็นเลิศและผลการดำเนินงานของธุรกิจการเงินในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ (2) เพื่อศึกษาวิจัยความ สัมพันธ์ระหว่างลักษณะองค์การที่เป็นเลิศและผลการดำเนินงานของธุรกิจการเงินในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างของการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารของธุรกิจการเงินในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกขั้นต้นของรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงาน ยอดเยี่ยม ตั้งแต่ปี 2552 - 2556 จำนวนทั้งหมด 482 ท่าน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม ซึ่งผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมแบบสอบถามระหว่างเดือนมิถุนายน - เดือนกรกฎาคม 2556 และได้รับแบบสอบถามกลับคืนจำนวน 251 ฉบับคิดเป็นอัตราการตอบกลับคืน (Response Rate) ร้อยละ 52 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และโมเดลสมการเชิงโครงสร้าง The purposes of this research were to develop model of characteristic of excellence organization and business performance financial sector on the Stock Exchange of Thailand and the relationship between characteristic of excellence organization and business performance financial sector on the Stock Exchange of Thailand. The samples of research were 482 Executives of financial sector on the Stock Exchange of Thailand which pass the first’s criteria in Best Company Performance Awards from 2009 – 2013. Questionnaire was used as the tool for collecting data which distributed during June - July 2013 and 251 questionnaires were returned or being equal to the response rate at 52%. The collected data was analyzed in terms of percentage, Arithmetic Mean, standard deviation and Structure Equation Modeling (SEM).รายการ ปัจจัยเชิงสาเหตุของความได้เปรียบทางการแข่งขันที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจสำนักงานบัญชี(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2565-08) พัชรินทร์ บุญสวัสดิ์บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสมรรถนะการทำงาน ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่มีอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจสำนักงานบัญชีผ่านความได้เปรียบทางการแข่งขัน 2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของสมรรถนะการทำงาน ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีสารสนเทศ ความได้เปรียบทางการแข่งขัน ที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจสำนักงานบัญชี 3) เพื่อสร้างแบบจำลองของปัจจัยเชิงสาเหตุของความได้เปรียบทางการแข่งขันที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจสำนักงานบัญชี งานวิจัยนี้เป็นแบบผสมผสานระหว่างเชิงคุณภาพ และการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารสำนักงานบัญชีที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ จำนวน 400 ราย เป็นการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการเฉพาะเจาะจง และทำการการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ทรงคุณวุฒิในการดำเนินการในกิจกรรมบัญชี ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทั้งในด้านบัญชี และรวมถึงเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในสายงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมบัญชี จำนวน 3 ท่าน และใช้การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติแบบจำลองสมการโครงสร้าง ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยด้านสมรรถนะ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง เทคโนโลยีสารสนเทศ มีอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมต่อความได้เปรียบทางการแข่งขันและผลการดำเนินงานของธุรกิจสำนักงานบัญชี 2) จากแบบจำลองพบว่า องค์ประกอบที่มีน้ำหนักมากที่สุดในแต่ละปัจจัย มีดังนี้ 2.1) ด้านสมรรถนะการทำงาน ได้แก่ ทักษะ 2.2) ด้านภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ แรงจูงใจในการสร้างแรงบันดาลใจ 2.3) ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่ การจัดการความรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ 2.4) ด้านความได้เปรียบทางการแข่งขัน ได้แก่ กลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง 2.5) ด้านผลการดำเนินงานของธุรกิจสำนักงานบัญชี ได้แก่ ผลการดำเนินงานที่ไม่ใช่ทางการเงิน 3) การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันกับแบบจำลองสมการเชิงโครงสร้าง พบว่า ค่าดัชนีความสอดคล้องกลมกลืนของโมเดลสมมติฐาน ผ่านเกณฑ์การยอมรับ จึงสรุปได้ว่าโมเดลแบบจำลองสมการเชิงโครงสร้างมีความเหมาะสม กลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ จึงถือเป็นองค์ความรู้ใหม่ The objectives of this study are to 1) To study competency, transformational leadership, information technology that direct and indirect influence the performance of accounting firm business through competitive advantage. 2) To study the influencing of competency, transformational leadership, information technology, competitive advantage that affected to accounting firms business. 3) To create a model of the causal factors of competitive advantage influencing the performance of the accounting firms business. This research is mixed method of both quantitative research and qualitative research. The research tools are questionnaires and in-depth interviews. The sample consisted of 400 accounting firm executives registered with the Department of Business Development, Ministry of Commerce. It is a random sample with a specific method. and conducting in-depth interviews with experts in accounting activities or activities related to accounting activities for 3 persons and used statistical analysis of structure equation model. The results found that 1) performance factors transformational leadership information technology direct and indirect influence on competitive advantage and the performance of the accounting firm business. 2) from the model, it was found that the heaviest elements in each factor are as follows: 2.1) Competency factor is skills 2.2) Transformation leadership is inspiration motivation 2.3) Information technology is knowledge management on information technology 2.4) Competitive advantage factor is differentiation strategy 2.5) Performance of accounting firms factor is non-financial performance. 3) The hypothesis model's concordance index was discovered using confirmatory component analysis with the structural equation model. It was determined that the structural equation model was appropriate. Compatible with empirical data and regarded as a new knowledge.รายการ ปัจจัยเหตุและผลของความสามารถการจัดการลูกค้าเชิงสัมพันธภาพ ของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย(การจัดการดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการธุรกิจ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม., 2560) ศิริกานดา แหยมคงการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยเหตุที่มีผลต่อความสามารถการจัดการลูกค้าเชิงสัมพันธภาพของธุรกิจโรงแรม และ (2) เพื่อศึกษาอิทธิพลของความสามารถ การจัดการลูกค้าเชิงสัมพันธภาพที่มีต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจ ผู้วิจัยกำหนดประชากรในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารธุรกิจโรงแรมที่เป็นสมาชิกสมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association: THA) จำนวน 796 แห่ง โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารธุรกิจโรงแรมที่เป็นสมาชิกสมาคมโรงแรมไทยระดับมาตรฐาน 3 ถึง 5 ดาว จำนวน 420 คน ซึ่งผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage-Sampling) ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2555 และได้รับแบบสอบถามกลับคืนจำนวน 319 ฉบับ คิดเป็นอัตราการตอบกลับคืน (Response Rate) ร้อยละ 76 ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) ผลการวิจัย พบว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ องค์การสีเขียว และการมุ่งเน้นการตลาด มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความสามารถการจัดการลูกค้าเชิงสัมพันธภาพ และความสามารถการจัดการลูกค้าเชิงสัมพันธภาพมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของธุรกิจได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากเทคโนโลยีสารสนเทศ องค์การสีเขียว และการมุ่งเน้นการตลาด ผ่านความสามารถการจัดการลูกค้าเชิงสัมพันธภาพ ซึ่งมีความสอดคล้องกับสมมติฐานการวิจัยที่กำหนดไว้ This study aims to (1) investigate antecedent influencing customer relationship management capability of the hotel industry and (2) explore influences of customer relationship management capability upon business performance. The researcher defined the population for this research as a group of executives of the hotels which are the member of Thai Hotels Association: THA for totaling 796 hotels while the sample group included the management personnel of 3 - 5 star hotels which are the member of Thai Hotels Association, totaling 420 subjects which were selected by multi-stage sampling method. Data was collected by questionnaires distributed during October - December 2012 and 319 questionnaires were returned or being equal to the response rate at 76%. Data was analyzed by Structural Equation Modeling: SEM. Findings from the research suggested that information technology, green organization and market orientation had direct and positive influence on customer relationship management capability where customer relationship management capability showed direct and positive influence on business performance. In addition, business performance was indirectly influenced by information technology, green organization and market orientation through customer relationship management capability which is in harmony with the research hypotheses.รายการ รูปแบบความสัมพันธ์ของปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีต่อผลการ ดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย(หลักสูตร การจัดการดุษฎีบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560) สุภัญชลี อ้นไชยะการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์ของปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย และทดสอบรูปแบบกับข้อมูลเชิงประจักษ์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ กรรมการ ผู้จัดการ และพนักงานของธุรกิจโรงแรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย จำนวน 418 คน ซึ่งผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน ผู้วิจัยดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2556 และได้รับแบบสอบถามกลับคืนจำนวน 289 ฉบับ คิดเป็นอัตราการตอบกลับคืนร้อยละ 73 ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง ผลการวิจัย พบว่า องค์การแห่งการเรียนรู้ บรรยากาศการเรียนรู้ การจัดการความรู้มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจ โดยการจัดการความรู้มีอิทธิพลทางตรงต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจมากที่สุด รองลงมาคือ องค์การแห่งการเรียนรู้ และบรรยากาศการเรียนรู้ นอกจากนี้ ยังพบว่าองค์การแห่งการเรียนรู้มีอิทธิพลทางอ้อมเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจ ซึ่งข้อมูลเชิงคุณภาพที่ได้จากการสนทนากลุ่มได้สนับสนุนผลการวิจัยเชิงปริมาณที่ได้ The objectives of this research aims to examine the causal relationship model of factors affecting the performance of Rajabhat Universities’ hotel business in Thailand and test the model with an empirical work. The research sample includes 418 members of directors, managers, and staff of Rajabhat Universities’ hotels in Thailand, applying many steps of sampling method. Data was collected by questionnaires distributed during February – April 2013 and 289 questionnaires were returned or being equal to the response rate at 73%. Data was analyzed by Structural Equation Model : SEM. The research results indicate that learning organization, learning climate and knowledge management have positive relationship with operating performance of the hotel business. Knowledge management has the most direct impact to the operating performance, followed by learning organization and learning climate, respectively. In addition, the research finds learning organization has positive indirect impact to operations performance of the business as well. Data from the focus group confirms the result of the quantitative analysis.