ปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการพิจารณาความผิดและการกำหนดโทษทางวินัยข้าราชการครู: ศึกษากรณีกระทำผิดวินัยอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
กำลังโหลด...
วันที่
2555-08-23T06:45:17Z
ผู้เขียน
ชื่อวารสาร
วารสาร ISSN
ชื่อหนังสือ
สำนักพิมพ์
เชิงนามธรรม
วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ เพื่อศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการพิจารณาความผิด และการ
กำหนดโทษทางวินัยอันเป็นเหตุเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และประวัติ ความเป็นมา แนวคิด
ทฤษฎี และวิวัฒนาการของความผิด และการกำหนดโทษทางวินัย รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวกับการ
พิจารณาความผิด และการกำหนดโทษทางวินัยอันเป็นเหตุเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง เพื่อ
นำมาวิเคราะห์ปัญหาการพิจารณาความผิด และการกำหนดโทษทางวินัยอันเป็นเหตุเสียหายแก่
ราชการอย่างร้ายแรง จนได้บทสรุปและข้อเสนอแนะมาใช้ในการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่
เกี่ยวกับการพิจารณาความผิด และการกำหนดโทษทางวินัยอันเป็นเหตุเสียหายแก่ราชการอย่าง
ร้ายแรงต่อไป ในการศึกษานี้จะศึกษาความผิดทางวินัย 3 ฐานความผิดด้วยกัน ตามพระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ซึ่งได้แก่ ความผิดฐานจงใจไม่ปฏิบัติ
ตามกฎหมายระเบียบแบบแผนของทางราชการ และหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรีหรือ
นโยบายรัฐบาล ประมาทเลินเล่อ หรือขาดการเอาใจใส่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการ
ความผิดฐานขัดคำสั่งหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการ
โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ ความผิดฐานละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร รวมทั้งความรับผิดทางละเมิดของข้าราชการครู อันเป็นเหตุให้เสียหาย
แก่ราชการอย่างร้ายแรง
ผลการศึกษาพบว่าคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขต
พื้นที่การศึกษา หรือคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีอำนาจผู้ใช้ดุลพินิจ
กรณีความผิดวินัยจนทำให้เกิดความเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงทั้งสอบสวน และอุทธรณ์ ส่วนองค์ประกอบความผิด ความผิดอย่างเดียวกันก็อาจแตกต่างกันในลักษณะพฤติการณ์ หรือเหตุผลซึ่ง
อาจใช้ดุลพินิจวางโทษหนักเบาแตกต่างกันตามควรแก่กรณีได้ ได้แก่ ลักษณะของการกระทำผิด ผล
แห่งการกระทำผิด การรู้หรือไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด เหตุเบื้องหลังการกระทำผิด และ
สภาพของผู้กระทำผิด การกำหนดโทษให้เหมาะสมกับกรณีความผิดโดยพิจารณาจากคุณสมบัติ
หรือลักษณะของความผิดประเภทของความเสียหาย ผู้กระทำผิดจะถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่
ออกหรือปลดออกจากราชการ ได้แก่ จะต้องพิจารณาพฤติการณ์ประกอบกับเจตนาของผู้กระทำผิด
เป็นเรื่อง ๆ ไป มูลค่าแห่งความเสียหายสามารถคำนวณเป็นราคา กฎหมายมิได้กำหนดไว้โดย
แน่นอน และดุลพินิจเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของข้าราชการครูอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่
ราชการอย่างร้ายแรง การปล่อยให้ความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่ปฏิบัติงานใน
หน้าที่และเกิดความเสียหายแก่เอกชนเป็นไปตามหลักกฎหมายเอกชนตามประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์ จึงเป็นการไม่เหมาะสมก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าที่จะต้องรับผิดในการกระทำ
ต่าง ๆ เป็นการเฉพาะตัวเสมอไป เมื่อการที่ทำไปทำให้หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดต่อบุคคลภาย
นอกเพียงใดก็จะมีการฟ้องไล่เบี้ยเอาจากเจ้าหน้าที่เต็มจำนวนนั้น
ข้อเสนอแนะการใช้ดุลพินิจ อาจไม่ต้องแต่งตั้งกรรมการสอบสวน กรณีที่มีเหตุความ
เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงแต่ไม่ถึงที่สุด ควรที่จะกำหนดเป็นความผิดวินัยในระดับมากทั้ง
ลักษณะของการกระทำผิด ผลแห่งการกระทำผิด การรู้หรือไม่รู้ว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด เหตุ
เบื้องหลังการกระทำผิด และสภาพของผู้กระทำผิดไว้ให้ชัดเจนการกำหนดโทษให้เหมาะสมกับ
กรณีความผิด และควรจะกำหนดโทษให้ไล่ออก และปลดออกหรือไล่ออก ในกรณีที่มีเจตนาที่จะ
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น หรือหลีกเลี่ยง ไม่ทำตามคำสั่ง เจตนาการละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ความผิดประเภทของความเสียหายเกี่ยวกับประมาทเลินเล่อ ควรจะ
กำหนดโทษที่ทางราชการจะได้รับที่สามารถคำนวณเป็นราคาได้ และความรับผิดทางละเมิดให้
แบ่งแยกความรับผิดชอบของแต่ละคนมิให้นำหลักลูกหนี้ร่วมมาใช้บังคับ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็น
ธรรมและเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของรัฐ
คำอธิบาย
คำหลัก
โทษทางวินัย, ข้าราชการครู, วินัย, ความผิด