ACC-06. ผลงานวิจัย
URI ถาวรสำหรับคอลเล็กชันนี้
เรียกดู
กำลังเรียกดู ACC-06. ผลงานวิจัย โดย วันที่ออก
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 20 ของ 37
ผลลัพธ์ต่อหน้า
ตัวเลือกเรียงลำดับ
รายการ คู่มือออกแบบและวางผังชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(2555-03-02T05:52:39Z) สักรินทร์ แซ่ภู่; ณัฐวุฒิ อัศวโกวิทวงศ์รายการ ผลกระทบของการเปิดเผยข้อมูลในรายงานประจำปีต่อการลงทุน กรณีศึกษาในธุรกิจพลังงานที่จดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(2555-11-19T04:27:53Z) กัลยาภรณ์ ปานมะเริง เบอร์คการวิจัยน้มีวุตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาผลกระทบของการเปิดเผยข้อมูลในรายงานประจำปีต่อการลงทุน โดยได้มุ่งเน้นศึกษาถึงความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะของบริษัทกับระดับการเปิดเผยข้อมูลในรายงานประจำปี ซึ่งได้ทำการศึกษาเฉพาะบริษัทในกลุ่มธุรกิจพลังงานที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประทศไทยในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2545-พ.ศ.2547 โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 2 แบบ คือ ตารางเช็ครายการที่เปิดเผยในรายงานประจำปี รวมทั้งข้อมูลการเงิน ได้แก่ อัตราส่วนแสดงสภาพคล่อง อัตราส่วนแสดงสภาพหนี้ กำไรสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นและสินทรัพย์รวมต่อจำนวนหุ้น และแบบสอบถามซึ่งได้ส่งไปยังผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและถือหุ้นของบริษัทในกลุ่มธุรกิจพลังงาน ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลและทดสอบสมมตฐานได้ใช้วิธีการทางสถิติ เช่น ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบแบบที่ และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ เป็นต้น....รายการ การศึกษานโยบายทางการเงินธุรกิจด้านการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนและงบประมาณการลงทุนของบริษัทมหาชนจำกัด(2555-11-21T04:02:44Z) รัญชนา รัชตะนาวินผลการศึกษาวิจัยของผู้บริหารทางการเงินของบริษัทมหาชนจำกัด 57 กลุ่มตัวอย่าง เกี่ยวกับนโยบายทางการเงินธุรกิจของบริษัทมหาชนจำกัด ที่นำไปใช้ตัดสินใจลงทุนและจัดทำงบประมาณลงทุนของธุรกิจ และลักษณะของกลุ่มประชากรมีความสัมพันธ์กับการใช้นโยบายทางการเงินธุรกิจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนด้านงบประมาณเงินทุนและโครงสร้างเงินทุนในประเทศไทย มีอัตราการตอบกลับ 10.75% ผลการศึกษาวิจัยพบว่า มูลค่าปัจจัยสุทธิ (NPV) อัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) ระยะเวลาคืน (Payback Period) และตัวแบบประเมินราคาสินทรัพย์ทุน (CAPM) เป็นเทคนิคที่องค์กรส่วนใหญ่นิยมใช้ ในการประเมินการลงทุนในโครงการต่างๆ และเมื่อทดสอบความสัมพันธ์พบว่า ถ้าบริษัทมียอดขายต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น...รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพกำไรและประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่ยึดถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์คงค้างในงบการเงิน(คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2556) พรรณทิพย์ อย่างกลั่นการศึกษาวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพกำไรและประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่ยึดถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์คงค้างรายการ ความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการกำกับดูแลกิจการกับตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(Sripatum University, 2556) ยุวดี เครือรัฐติกาล; yuwadee Kruerattikarnงานวิจัยนี้ได้ศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการกำกับดูแลกิจการกับตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ จำนวน 60 บริษัท มีตัวแปรอิสระได้แก่ กลไกการกำกับดูแลกิจการของบริษัท (ประกอบด้วย จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรมการบริษัท จำนวนของกรรมการอิสระ สัดส่วนการถือหุ้นของกรรมการ การควบรวมตำแหน่งประธานกรรมการกับประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการ และค่าตอบแทนกรรมการ) ตัวแปรตาม ได้แก่ ตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไร (ประกอบด้วย อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม และอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น และตัวแปรควบคุม ได้แก่ ขนาดของบริษัท อายุบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน ผลการศึกษาพบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการกำกับดูแลกิจการกับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัทโดยใช้การทดสอบค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ ปี 2552 กลไกการกำกับดูแลกิจการมีความสัมพันธ์กับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท 3 ตัวแปรได้แก่ จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท อายุบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน โดยจำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน มีความสัมพันธ์กันในทิศทางตรงข้ามกัน ส่วนอายุบริษัทมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน ปี 2553 กลไกการกำกับดูแลกิจการมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้ามกันกับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท ได้แก่ จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน ปี 2554 กลไกการกำกับดูแลกิจการมีความสัมพันธ์กับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมของบริษัท ได้แก่ สัดส่วนการถือหุ้นของกรรมการบริหาร ขนาดของบริษัท อายุบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน โดยขนาดของบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน มีความสัมพันธ์กันในทิศตรงข้ามกัน ส่วนการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ปี 2552 และ 2553 มีตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมได้แก่ จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท และความเสี่ยงทางการเงิน ปี 2554 ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม อย่างมีนัยสำคัญ 0.05 ได้แก่ ความเสี่ยงทางการเงิน ความสัมพันธ์ระหว่างกลไกการกำกับดูแลกิจการกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น โดยใช้การทดสอบค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ พบว่าปี 2552 อายุบริษัทมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้นของบริษัทเพียงตัวแปรเดียว ส่วนการวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ ปี 2552 และ 2553 ไม่มีตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้น ส่วนปี 2554 ตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราราคาต่อกำไรต่อหุ้นได้แก่ ค่าตอบแทนกรรมการ และขนาดของบริษัท จากผลการศึกษาสรุปได้ว่ากลไกการกำกับดูแลกิจการได้แก่ จำนวนครั้งการประชุมคณะกรรรมการบริษัท สัดส่วนการถือหุ้นของกรรมการบริหาร และค่าตอบแทนกรรมการ มีความสัมพันธ์กับตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ดังนั้นหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ นักลงทุน และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ควรให้ความสำคัญกับกลไกการกำกับดูแลมากยิ่งขึ้นในการเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัท และผู้มีส่วนได้เสียเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดระหว่างกันรายการ ผลกระทบของการกำกับดูแลกิจการ ต่อกำไรที่ไม่คาดหวังและผลตอบแทน หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(Sripatum University, 2556-12) ฐิตาภรณ์ สินจรูญศักดิ์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของการกำกับดูแลกิจการ และผลกระทบร่วม ต่อกำไรที่ไม่คาดหวัง และผลตอบแทนหลักทรัพย์ ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และศึกษากลุ่มย่อยของบริษัทที่ได้รับรางวัลการกำกับดูแลกิจการ ระหว่างปี พ.ศ. 2551-2555 ผลการทดสอบสมมติฐานของหน่วยวิเคราะห์ทั้งหมด พบว่า สัดส่วนของกรรมการอิสระ การประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบ ขนาดของคณะกรรมการตรวจสอบ การอบรมของคณะกรรมการตรวจสอบ ผลกระทบร่วมระหว่างสัดส่วนของกรรมการอิสระกับรางวัลการกำกับดูแลกิจการ, ระหว่างการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบกับรางวัลการกำกับดูแลกิจการ, ระหว่างขนาดของคณะกรรมการตรวจสอบกับรางวัลการกำกับดูแลกิจการ และ ระหว่างการอบรมของคณะกรรมการตรวจสอบกับรางวัลการกำกับดูแลกิจการ ด้วยตัวแปรควบคุมคือ อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของเจ้าของ และ สินทรัพย์ในการดำเนินงานสุทธิ มีผลกระทบต่อกำไรที่ไม่คาดหวัง และ ผลตอบแทนหลักทรัพย์ แตกต่างกัน ผลการทดสอบกลุ่มย่อยของบริษัทที่ได้รับรางวัลการกำกับกิจการ ตัวแปรอิสระทุกตัวส่งผลกระทบต่อตัวแปรตาม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า การกำกับดูแลกิจการเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลการดำเนินงาน การลงทุน และการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการ ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย This research aims to study the impact of corporate governance and the co-impact to unexpected earnings, and stock returns of listed companies in the Stock Exchange of Thailand, including the study of subgroups of awarded corporate governance companies during B.E. 2551 - 2555. The test results of the analytical hypotheses are revealed that the ratio of independent committees, meetings of audit committees, sizes of audit committees, trainings of audit committees, co-impact between the ratio of audit committees and corporate governance awards, co-impact between meetings of audit committees and corporate governance awards, co-impact between sizes of audit committees and corporate governance awards, and co-impact of trainings of audit committees and corporate governance awards, by the controlled variables i.e. the ratio of earnings per share and the net operating assets in impacting to the difference of unexpected earnings and stock returns. The test results on subgroups of awarded corporate governance companies are revealed that all independent variables impacted dependent variables at a statistically significant. The research results are shown that corporate governance was an important factor of management performance, investment, and the development of corporate governance of listed companies of the Stock Exchange of Thailand.รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของกลไกการกำกับดูแลกิจการกับ ประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(Sripatum University, 2557) ยุวดี เครือรัฐติกาลงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของกลไกการกำกับดูแลกิจการกับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ และความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของกลไกการกำกับดูแลกิจการกับราคาหลักทรัพย์ วิธีการศึกษาใช้ข้อมูลทุติยภูมิ โดยรวบรวมข้อมูลจากรายงานประจำปี รายงานทางการเงิน และแบบแสดงข้อมูลประจำปี (56-1) ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2554 - 2558 จำนวน 1,707 ข้อมูล (365 บริษัท) มีตัวแปรอิสระ ได้แก่ จำนวนคณะกรรมการบริษัท จำนวนคณะกรรมการอิสระ ค่าตอบแทนคณะกรรมการบริษัท จำนวนคณะกรรมการตรวจสอบ ค่าตอบแทนของคณะกรรมการตรวจสอบ และบริษัทสอบบัญชี Big 4 ตัวแปรตาม ได้แก่ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ และราคาหลักทรัพย์ โดยใช้การวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ ( Multiple Regression Analysis ) ผลการวิจัยพบว่า ค่าตอบแทนคณะกรรมการตรวจสอบและบริษัทสอบบัญชี Big 4 มีความสัมพันธ์กับอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญในทิศทางเดียวกัน จำนวนคณะกรรมการบริษัท และค่าตอบแทนคณะกรรมการตรวจสอบมีความสัมพันธ์กับราคาหลักทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ 0.05 ในทิศทางเดียวกัน ส่วนจำนวนคณะกรรมการบริษัท จำนวนคณะกรรมการอิสระ และจำนวนคณะกรรมการตรวจสอบไม่มีความสัมพันธ์กับอัตราผลตอบแทนหลักทรัพย์ และจำนวนคณะกรรมการอิสระ ค่าตอบแทนคณะกรรมการบริษัท จำนวนคณะกรรมการตรวจสอบ และบริษัทสอบบัญชี Big 4 ไม่มีความสัมพันธ์ต่อราคาหลักทรัพย์รายการ EFFECTIVE CORPORATE SOCIAL RESPONSIBILITY (CSR) AND THE ROLES OF MANAGEMENT ACCOUNTANTS FOR A CREATION OF CORPORATE SHARED VALUE(Sripatum University, 2557-02) NEUNGRUTHAI PETCHARATNowadays, three areas of performance – economic, environmental, and social are of significant concerns to stakeholders and public to see where investment decision can be made. Accounting data on environmental and social aspects is required to incorporate in both mandatory and voluntary disclosures to create shared value on sustainable development. International measure and its framework such as Global Reporting Initiatives (GRI) and sustainability accounting practices can lead to preparation of sustainability reporting. Management accountants’ roles drive as collaboration to companies to provide more accurate accounting on environmental and social aspects when promoting how a company’s sustainability is achieved. A sustainable company not only enables more effective decision-making but also improve the data available to stakeholders and public for value creation. This study investigates an integration of environmental and social data in annual reports that link with the information in a voluntary disclosure to enable more effective decision-making and improve the information needs to stakeholders. Mixed method is employed to collect and analyse data as triangular findings. Legitimacy theory and stakeholder theory are employed to explain the findings.รายการ ผลกระทบของช่วงระยะเวลาที่บริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อสาธารณชน ที่มีต่อการจัดการกำไรผ่านรายการคงค้าง(คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) สุภาพร แช่มช้อยงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาช่วงระยะเวลาก่อน-หลัง มีผลต่อ การจัดการกำไรผ่านรายการคงค้างของหลักทรัพย์ที่เสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อสาธารณชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเพื่อศึกษาการจัดการกำไรผ่านรายการคงค้างของกลุ่มบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อสาธารณชน โดยใช้แบบจาลอง Modified Jones Model และศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการจัดการกำไรผ่านรายการคงค้างของหลักทรัพย์ที่เสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อสาธารณชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปี 2550 – 2555 จำนวนทั้งหมด 100 บริษัท ที่มีงบการเงินในช่วงปี 2547 - 2557 โดยใช้สถิติแบบจับคู่และการวิเคราะห์ความถดถอยพหุคูณที่ระดับนัยสาคัญ 0.05รายการ การประเมินสมรรถนะของผู้วางแผนภาษีธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อนำไปใช้ใน การออกแบบหลักสูตร(Sripatum University, 2558) ประเวศ เพ็ญวุฒิกุลการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) เพื่อประเมินระดับสมรรถนะของผู้วางแผนภาษีในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (2) เพื่อเปรียบเทียบระดับสมรรถนะที่ได้จากการประเมินโดยผู้วางแผนภาษีกับผู้บังคับบัญชาขั้นต้น และ(3) เพื่อกำหนดแนวทางการออกแบบหลักสูตรการพัฒนาสมรรถนะของผู้วางแผนภาษี ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ ผู้วางแผนภาษี จำนวน 52 คน และผู้บังคับบัญชาขั้นต้น จำนวน 52 คน โดยใช้ตารางของ Krejcie and Morgan (1970) เครื่องมือวิจัย คือ แบบประเมินระดับสมรรถนะของผู้วางแผนภาษี การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงบรรยาย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติเชิงอนุมานได้แก่ สถิติ t-test for two independent samples แบบ pooled t-test ผลการวิจัย พบว่า (1) สมรรถนะด้านหลักมีระดับสมรรถนะสูงที่สุด รองลงมาคือสมรรถนะด้านการจัดการ และสมรรถนะด้านเทคนิคตามลำดับ (2) ระดับสมรรถนะที่ได้จากการประเมินโดยผู้วางแผนภาษี และผู้บังคับบัญชาขั้นต้นไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .05 และ (3) แนวทางการออกแบบหลักสูตรการพัฒนาสมรรถนะของผู้วางแผนภาษีควรให้ความสำคัญกับสมรรถนะด้านเทคนิครายการ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีและ คุณภาพงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) สุวรรณี รุ่งจตุรงค์การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อศึกษาการปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีและคุณภาพงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวบข้อมูลจากผู้บริหารฝ่ายบัญชีของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 245 บริษัท โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ ANOVA (F-test) เพื่อทดสอบความแตกต่างระหว่างตัวแปรต้นกับตัวแปรตาม และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สันเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณกับคุณภาพของงบการเงิน โดยกำหนดระดับนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างการจัดการเงินทุนหมุนเวียนที่มีต่อกำไรสุทธิ อัตรากำไรต่อหุ้น และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) จิตรลดา วิวัฒน์เจริญวงศ์การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง การจัดการเงินทุนหมุนเวียนที่มีต่อกำไรสุทธิ อัตรากำไรต่อหุ้น และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเก็บรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิจากงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2555 - 2559 จำนวน 212 บริษัท แล้วนำมาวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยตัวแปร (Multiple regression analysis) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการศึกษาพบว่า วงจรเงินสดมีความสัมพันธ์เชิงลบกับกำไรสุทธิ อัตรากำไรต่อหุ้นและอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ของบริษัท ลูกหนี้การค้ามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับกำไรสุทธิ หนี้สินหมุนเวียนมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับกำไรสุทธิ เงินทุนหมุนเวียนสุทธิมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับกำไรสุทธิ แสดงให้เห็นว่าผู้บริหารควรให้ความสำคัญในการวางแผนเกี่ยวกับเงินสด และหนี้สินหมุนเวียนให้มีประสิทธิภาพ การพิจารณาสภาพคล่องของกิจการ เงินที่หมุนเวียนในกิจการไม่ให้ขาดสภาพคล่อง สำหรับธนาคารสามารถ วิเคราะห์ความเสี่ยงของกิจการก่อนอนุมัติให้สินเชื่อว่ามีความสามารถในการจ่ายชำระหนี้มากหรือน้อย ส่วนนักลงทุนก็สามารถใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์เปรียบเทียบกิจการที่เป็นคู่แข่งเพื่อดูจุดเด่น จุดด้อยสำหรับเลือกลงทุนในกิจการที่ดีกว่ารายการ ผลกระทบจากการถือปฏิบัติตาม มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่17 (ปรับปรุง 2557) เรื่อง สัญญาเช่า ต่อผู้ใช้บริการธุรกิจการให้เช่าแบบลีสซิ่ง บริษัทจดทะเบียน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: ศึกษากลุ่มหลักทรัพย์100(คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) สุรีย์ โบษกรนัฏการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลกระทบในการถือปฏิบัติตาม มาตรฐานการบัญชี ฉบับที่17 (ปรับปรุง 2557) เรื่อง สัญญาเช่า ต่อผู้ใช้บริการธุรกิจการให้เช่าแบบลีสซิ่งของบริษัทจด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: ศึกษากลุ่มหลักทรัพย์ 100 โดยได้ใช้ระเบียบวิธี การศึกษา 3 วิธี คือ การวิจัยเชิงเอกสาร การวิจัยเชิงคุณภาพ และการวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิง เอกสาร ได้ศึกษาตา รา ประมวลรัษฎากร ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์รวมทั้งงานวิจัยใน ประเทศและต่างประเทศ การวิจัยเชิงคุณภาพ ได้ดา เนินการ การสัมภาษณ์เจาะลึก จา นวน 5 บริษัท ด้วยแบบสัมภาษณ์ การวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลด้วยแบบบันทึกข้อมูล จากรายงานประจา ปี ข้อมูล รายบริษัท/หลักทรัพย์ แบบแสดงรายการข้อมูลประจา ปี (แบบ 56-1) รวม 33 บริษัทรายการ การศึกษาผลการเรียนรู้และความพึงพอใจของนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีต่อการเรียนการสอนวิชาการบัญชีการเงินของมหาวิทยาลัยศรีปทุม(คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558-04) รมิดา คงเขตวณิชการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคาดหวังและความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนการสอนของนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่เรียนวิชาการบัญชีการเงิน มหาวิทยาลัยศรีปทุม และเพื่อเปรียบเทียบความคาดหวังและความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนของนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่เรียนวิชาบัญชีการเงิน มหาวิทยาลัยศรีปทุม ตามสาขาวิชาที่เรียน ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาการบัญชีการเงิน ปีการศึกษา 2/2555 จำนวน 227 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัย ผลการวิจัย พบว่า นักศึกษาที่ตอบแบบสอบถามเป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง ซึ่งเป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาชั้นปีที่ 1 มากที่สุด และเป็นนักศึกษาที่เรียนในสาขาวิชาการจัดการ โลจิสติกและโซ่อุปทานมากที่สุด นักศึกษามีความคาดหวังและความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนรายวิชาการบัญชีการเงิน มหาวิทยาลัยศรีปทุม ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยนักศึกษามีความคาดหวังต่อการจัดการเรียนการสอนด้านการดำเนินการสอนของอาจารย์อยู่ในระดับมากที่สุด สิ่งที่คาดหวังน้อยที่สุด คือ ด้านคุณภาพการเรียนการสอน เนื้อหาวิชา ด้านสื่อและวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนในสัดส่วนที่เท่ากัน และนักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนด้านการดำเนินการสอนของอาจารย์อยู่ในระดับมากที่สุด สิ่งที่นักศึกษาพึงพอใจน้อยที่สุด คือ ด้านประโยชน์ที่จะได้รับจากการเรียนการสอน สำหรับผลการปรียบเทียบความคาดหวังและความพึงพอใจต่อการเรียนการสอน ตามสาขาวิชาที่เรียน พบว่า นักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีสาขาต่างกัน มีความคาดหวังต่อการเรียนการสอนวิชาบัญชีการเงินไม่แตกต่างกัน และนักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนวิชาบัญชีการเงินของมหาวิทยาลัยศรีปทุมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05รายการ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีตามมาตรฐาน การบัญชีสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ(คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558-05) สุวรรณี รุ่งจตุรงค์การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีตามมาตรฐานการบัญชี สำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงปัจจัยพื้นฐานของผู้ทำบัญชีที่มีผลต่อความรู้ความเข้าใจในการจัดทำรายงานทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ และเพื่อศึกษาความรู้ความเข้าใจของผู้ทำบัญชีในการจัดทำรายงานทางการเงินตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ กลุ่มตัวอย่างคือผู้ทำบัญชีในกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs จำวน 385 บริษัท เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม โดยใช้สถิติพรรณนา (Descriptive Statistic) อธิบายถึงลักษณะของตัวแปรต่างๆ ได้แก่ การแจกแจงความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) และในการทดสอบสมมติฐานใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way Analysis of Variance : ANOVA) ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยพื้นฐานของผู้ทำบัญชี ด้านระดับตำแหน่ง ด้านการอบรม เพื่อพัฒนาความรู้ตามพระราชบัญญัติการบัญชี 2543 ด้านการเป็นสมาชิกเกี่ยวกับสิ่งพิมพ์ ที่เกี่ยวกับวิชาชีพการบัญชี/ด้านธุรกิจ มีผลต่อความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน สำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ ทั้งนี้เนื่องจากผู้ทำบัญชีส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสิ่งพิมพ์หรือวารสาร ทำให้ได้รับข้อมูลข่าวสารด้านบัญชี หรือการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับมาตรฐานการบัญชีอยู่เป็นประจำ เพิ่มโอกาสในตำแหน่งงาน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐานข้อ 2, 3, 5 และ 6 ในส่วนปัจจัยพื้นฐานของผู้ทำบัญชี ในด้านระดับการศึกษา การอบรมความรู้เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพด้านวิชาการ ไม่มีผลต่อความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน เนื่องผู้ทำบัญชีส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทำงานด้านบัญชีมายาวนาน ทำให้มีความรู้ความเข้าใจในการจัดทำบัญชีตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินเป็นอย่างดี ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งไม่สอดคล้องกับสมมติฐานข้อ 1 และ 4 ที่กำหนดไว้รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างผลการดำเนินงานกับการเปิดเผยข้อมูลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(Sripatum University, 2558-11) รองเอก วรรณพฤกษ์การวิจัยเรื่องนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการเปิดเผยข้อมูลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมของบริษัทใน กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างผลการดำเนินงานกับการเปิดเผยข้อมูลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประชากรเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556 จำนวน 62 บริษัท ผู้วิจัยใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลจากงบการเงิน แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1) และรายงานประจำปีระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีปี พ.ศ.2554 - พ.ศ.2556 รวมระยะเวลา 3 ปี การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ โดยแสดงในรูปตารางแจกแจงความถี่และค่าเฉลี่ย และสถิติเชิงอนุมานเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต้นกับตัวแปรตามโดยการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ ณ ระดับนัยสำคัญที่ 0.05 A study of the relationship between a performance and a disclosure of social and environmental information of Thai listed companies in property and construction section was conducted with the objective 1)to study a disclosure of social and environmental information of Thai listed companies in property and construction section 2) to study a relationship between a performance and a disclosure of social and environmental information of Thai listed companies in property and construction section. The population was 62 Thai listed companies in property and construction section, a data on December 31, 2013. The data was collected from Financial Statements, 56-1 Report and Annual report for 3 years (between year 2011- 2013). The descriptive and inferential statistics used in this research comprised frequency, percentage, standard deviation and multiple regression analysisรายการ อิทธิพลของระดับการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีต่อความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจ(คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560) อุปพันธ์ ทวีผลการศึกษาอิทธิพลของระดับการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีต่อความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มทรัพยากร และเพื่อศึกษาอิทธิพลของระดับการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อมของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีต่อความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจและ วิธีวิจัยดำเนินการโดยรวบรวมข้อมูลจากแบบ 56-1 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 2 กลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อจัดระดับการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อม โดยจะไม่มีการใช้ทฤษฏีความน่าจะเป็นในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง เนื่องจากจะศึกษาการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อมของบริษัททั้งหมดใน 2 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมจำนวน 82 บริษัท และกลุ่มทรัพยากรจำนวน 32 บริษัท รวมทั้งสิ้น 114 บริษัท แบ่งการวิเคราะห์เป็นข้อมูลอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้วัดความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจ และการวิเคราะห์เนื้อหาสาระจากแบบ 56-1 เพื่อจัดระดับการเปิดเผยข้อมูลสิ่งแวดล้อม เมื่อได้ข้อมูลทั้งสองส่วนแล้ว จึงใช้วิธีการทางสถิติ Multiple Regression เพื่อวิเคราะห์อิทธิพลของระดับการเปิดเผยสิ่งแวดล้อมของที่มีต่อความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจรายการ ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงินและการตัดสินใจลงทุน ในหลักทรัพย์ของธุรกิจอุตสาหกรรมทางการเงิน ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(Sripatum University, 2560-10) ชัยสรรค์ รังคะภูติการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงินที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ในกลุ่มหลักทรัพย์ของธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเพื่อเป็นแนวทางให้กับนักลงทุนในการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์กลุ่มหลักทรัพย์ของธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วยข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ธุรกิจการเงินทั้งของ SET และ MAI บริษัทเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินจำนวน 65 แห่ง ประกอบด้วย อัตราส่วนผลตอบแทนจากกำไรสุทธิ อัตราส่วนตอบแทนจากสินทรัพย์รวม อัตราส่วนผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตราหมุนเวียนปริมาณการซื้อขายซึ่งได้มาจากข้อมูลงบการเงินของ พ .ศ.2555 - พ.ศ.2559 และข้อมูลการจัดทำรายงาน Corporate Governance Report of Thai Listed Companies (CGR) ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ย้อนหลังเป็นระยะเวลา 5 ปี ผลการวิจัยพบว่า ผลการศึกษานี้สามารถไปใช้เพื่อเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาถึงอัตราส่วนทางการเงิน ซึ่งประกอบด้วยอัตราผลตอบแทนกำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวมอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น อัตราหนี้สินส่วนของผู้ถือหุ้น อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น อัตราการหมุนเวียนปริมาณซื้อขาย ต่อราคาหุ้น การจ่ายเงินปันผล และการกำกับดูแลกิจการที่ดี นักลงทุนสามารถนำอัตราการเงิน ของธุรกิจการเงินไปใช้ในการพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์ ในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคตเพื่อทำการตัดสินใจลงทุนในระยะยาว ในอนาคตเป็นไปได้อย่างถูกต้องและมีประโยชน์สูงสุดแก่นักลงทุนรายการ ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในยุคไทยแลนด์ 4.0(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561-05) กนกศักดิ์ สุขวัฒนาสินิทธิ์การศึกษาเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพของผู้สอบบัญชีในยุคไทยแลนด์ 4.0 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอกและปัจจัยที่เกิดจากบริษัทผู้สอบบัญชีที่มีอิทธิพลต่อการสอบบัญชีให้ได้คุณภาพของผู้สอบบัญชี 2) เพื่อศึกษาคุณภาพของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตในยุคไทยแลนด์ 4.0 และ 3) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการสอบบัญชีให้ได้คุณภาพของผู้สอบบัญชี จำแนกตามปัจจัยลักษณะส่วนบุคคล ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการศึกษาเชิงสารวจรวบรวมข้อมูลที่ได้รับจากแบบสอบถาม ใช้กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและผู้ช่วยผู้สอบบัญชี จำนวน 400 กลุ่มตัวอย่าง สถิติในการวิเคราะห์ผลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณทดสอบความแตกต่างโดยใช้สถิติแบบ t – test , F – Test และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ วิธีการทดสอบ Least Significant Difference (LSD) test ทดสอบความสัมพันธ์ใช้สถิติทดสอบแบบ Pearson's Correlation Coefficient ใช้วิธีการหาถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ทำการเลือกตัวแปรโดยวิธีนำตัวแปรเข้าทั้งหมด (Enter)รายการ ผลของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนต่อมูลค่ากิจการผ่านผลการดำเนินงานของ บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561-10) รองเอก วรรณพฤกษ์การวิจัยเรื่องนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเส้นทางความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนผ่านผลการดำเนินงานที่ส่งผลต่อมูลค่ากิจการ ประชากรเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดแห่งประเทศไทย (SET 100) จำนวน 100 บริษัท ผู้วิจัยใช้การเก็บรวบรวมข้อมูลสินทรัพย์ไม่มีตัวตนที่ระบุได้ ค่าความนิยม อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม มูลค่ากิจการ จากงบการเงินระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีปี พ.ศ. 2556 – 2560 รวมระยะเวลา 5 ปี การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ โดยแสดงในรูปตารางแจกแจงความถี่และค่าเฉลี่ย และสถิติเชิงอนุมานโดยวิเคราะห์เส้นทางความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ (Path Analysis) ของสินทรัพย์ไม่มีตัวตนต่อมูลค่ากิจการผ่านผลการดำเนินงานของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ ระดับนัยสำคัญที่ 0.01