S_PAY-11. การค้นคว้าอิสระ/สารนิพนธ์

URI ถาวรสำหรับคอลเล็กชันนี้

เรียกดู

การส่งล่าสุด

ตอนนี้กำลังแสดง1 - 20 ของ 94
  • รายการ
    ผลกระทบต่อธุรกิจประกันวินาศภัยเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: ศึกษากรณีตัวแทน นายหน้าประกันประกันวินาศภัย=IMPACT INSURANCE BUSINESS WHEN THAILAND ENTERING INTO ASEAN ECONOMIC COMMUNITY : CASE STUDY OF AGENT AND BROKER OF CASUALTY INSURANCE
    (2558-02-17T09:51:24Z) กนกวรรณ บูรพาสมบูรณ์
    การศึกษาเกี่ยวกับข้อตกลง การเปิดเสรีการค้าบริการ ซึ่งในส่วนของประกันภัยสาขาย่อยบริการตัวแทน นายหน้าพบว่าประเทศไทยยังไม่มีข้อผูกพัน แต่ในอนาคตอาจมีการเรียกร้องให้เปิดเสรีฯในส่วนนี้ และตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจคนต่างด้าว พ.ศ.2542กำหนดไม่ให้คนต่างด้าวประกอบอาชีพนี้โดยได้สงวนไว้สำหรับคนไทย เพราะคนไทยยังไม่พร้อมที่จะแข่งขัน จึงอาจต้องมีการทำการศึกษา วิเคราะห์จากฎหมายของแก้ไขและได้ประเทศสิงคโปร์ ออสเตรเลีย อังกฤษ ที่กำกับดูแลตัวแทนและนายหน้าประกอบการหาแนวทางแก้ไข
  • รายการ
    ปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานองค์กรขนาดใหญ่ กรณีศึกษา: แผนกก่อสร้างโรงงานบางชัน
    (2557-11-19T08:18:37Z) โพชฌงค์ ทองน้อย
    การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานองค์กรขนาดใหญ่ กรณีศึกษา: แผนกก่อสร้างโรงงานบางชัน บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จำกัด (มหาชน) 1) เพื่อศึกษาความแตกต่างของปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของงาน ความพึงพอใจในการทำงานกับความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน 3) เพื่อเสนอแนะแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน วิธีการวิจัย โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเป็นพนักงาน จำนวน 59 คน โดยการใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) ประกอบด้วย ร้อยละ (Percentage) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และค่าเฉลี่ย (Mean) และสถิติอนุมาน (Inferential Statistics) เพื่อทดสอบสมมติฐานทางการศึกษา ประกอบด้วย ANOVA สถิติสหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านคุณลักษณะของงานในภาพรวมพนักงานมีความคิดเห็นในระดับแปลผลอยู่ในระดับมาก (มีความสำคัญมากต่อการสร้างคุณลักษณะของงานภายในองค์กร) ปัจจัยด้านความพึงพอใจในการทำงานในภาพรวมพนักงานมีความคิดเห็นในระดับแปลผลอยู่ในระดับมาก (มีความสำคัญมากต่อการสร้างความพึงพอใจในการทำงานภายในองค์กร) และปัจจัยด้านความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานในภาพรวมพนักงานมีความคิดเห็นในระดับแปลผลอยู่ในระดับปานกลาง (มีความสำคัญปานกลางต่อการสร้างความผูกพันภายในองค์กร) จากสถิติสหสัมพันธ์เพียร์สัน ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กร ได้แก่ ด้านการได้รับข้อมูลป้อนกลับของงาน และด้านรายได้และสวัสดิการมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความผูกพันต่อองค์กรในระดับต่ำ ด้านความหลากหลายของทักษะการทำงาน ด้านความสำคัญของงาน และด้านนโยบายและการบริหารมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความผูกพันต่อองค์กรในระดับปานกลาง ด้านโอกาสความก้าวหน้าของงาน และด้านการยอมรับนับถือมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความผูกพันต่อองค์กรในระดับสูง ด้านสถานภาพการทำงานมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความผูกพันต่อองค์กรในระดับสูงมาก ส่วนด้านความชัดเจนของงานมีความสัมพันธ์เชิงลบกับความผูกพันต่อองค์กรในระดับต่ำ และด้านความปลอดภัยในการทำงาน และด้านความอิสระในการทำงานมีความสัมพันธ์เชิงลบกับความผูกพันต่อองค์กรในระดับปานกลาง และจากการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณของปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ได้แก่ สถานภาพการทำงาน โอกาสความก้าวหน้าของงาน ความอิสระในการทำงาน การยอมรับนับถือ และความสำคัญของงาน ซึ่งมีอิทธิพลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานที่ระดับสูงมาก
  • รายการ
    การศึกษาปัญหาคุณภาพที่อาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้าราษฎร์บูรณะ 33
    (2557-11-18T07:38:04Z) ณัฐพงค์ มีแสง
    การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาคุณภาพงานสถาปัตยกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อความล่าช้า ต่อการส่งมอบพื้นที่ให้กับงานตกแต่งภายในเข้าดาเนินการ รวมถึงการพัฒนาคู่มือสาหรับตรวจสอบคุณภาพบ้านก่อนโอนกรรมสิทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของบ้านที่ไม่มีความรู้ในเรื่องการก่อสร้าง ควรจะศึกษารายละเอียดและวิธีการตรวจสอบคุณภาพ สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อ ความคุ้มค่าและเหมาะสมกับราคาที่ต้องจ่ายไป การตรวจสอบคุณภาพงานสร้างบ้านถือเป็นเรื่องสาคัญ การศึกษาปัญหาคุณภาพจากงานเอกสารสารข้อบกพร่องของโครงการและการสารวจจากหน้างานปัญหาข้อบกพร่องนั้นของงานสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือคุณภาพของแรงงานและปัญหาของวัสดุที่เลือกใช้ที่ทาให้เกิดปัญหาคุณภาพ และปัญหาการพิจารณาประเมินคุณภาพงานที่ไม่ตรงกันระหว่างผู้ตรวจงาน ผู้วิจัยจึงได้นาปัญหาคุณภาพของงานสถาปัตยกรรมเพื่อจัดทาคู่มือตรวจสอบคุณภาพ โดยแบ่งเป็นหมวดงาน 1.ตรวจสอบคุณภาพงานพื้น 2.ตรวจสอบคุณภาพงานผนัง 3.ตรวจสอบคุณภาพงานฝ้าเพดาน 4.ตรวจสอบคุณภาพงานประตู – หน้าต่างโดยจากการประเมินและตรวจสอบคู่มือจากผู้บริหารโครงการหรือผู้ควบคุมงานของโครงการแซปเตอร์วัน คอนโด โดยพบว่าคู่มือแต่ละหมวดงานมีค่าระดับความเชื่อมั่นสูงกว่า 0.5 ตามมาตรฐานของทฤษฎี IOC สามารถนาคู่มือไปใช้ในการตรวจสอบคุณภาพได้ จากการศึกษายังพบว่าปัญหาคุณภาพยังส่งผลกระทบต่อปัญหาความล่าช้าการส่งมอบพื้นที่ให้กับงานตกแต่งภายในเข้าดาเนินการ ซึ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบมากที่สุด 1.ปัญหาคุณภาพภาพงานติดตั้งกระจกอลูมิเนียมที่เกิดปัญหาน้ารั่ว เนื่องจากถ้าไม่สามารถติดตั้งงานกระจกอลูมิเนียมได้ ทาให้ส่งผลกระทบต่องานอื่นๆที่เป็นวัสดุไม้ จะไม่สามารถเข้าดาเนินการติดตั้งได้เนื่องจากต่างฝ่ายมีความกังวลว่าอาจทาให้เกิดความเสียหายได้ 2.ปัญหาคุณภาพวัสดุกันซึม ปัญหาวัสดุกันซึมจะส่งผลต่อความล่าช้าต่องานปูพื้นไม้ลามิเนตเป็นอันดับแรก และถ้าพื้นไม้ไม่สามารถติดตั้งได้ภายในระยะเวลาของแผนงานอาจส่งผลกระทบต่องานติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ในขั้นตอนต่อไป 3.ปัญหาคุณภาพพื้นไม้ลามิเนต จาเป็นต้องแก้ไขข้อบกพร่องของงานให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เพราะถ้าทาการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ไปแล้วพื้นไม้ที่มีปัญหายังไม่ได้ทาการแก้ไข อาจส่งผลให้ต้องรื้อเฟอร์นิเจอร์เพื่อแก้ไขพื้นไม้ให้เรียบเสมอ 4. ปัญหางานผนังล้มดิ่งไม่ได้ฉาก มากว่า 3 มิลลิเมตรส่งผลให้งานตกแต่งภายในยังไม่สามารถรับมอบห้องได้เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการติดตั้ง
  • รายการ
    การวางแผนธุรกิจ สาหรับหอพัก บนที่ดินติดรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้าเงิน) สถานีอิสรภาพ
    (2557-11-17T09:07:21Z) รฤก อ.อินทรวิชิต
    งานวิจัยนี วิเคราะห์ความเป็นไปได้และจัดทาแผนธุรกิจ อพาร์ตเม้นต์ เพื่อการศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดาเนินธุรกิจ ซึ่งได้แก่ปัจจัยทางด้านการตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภค เป็นต้น ผลการศึกษานี จะนาไปยื่นขออนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เพื่อการลงทุนประกอบหอพัก ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลทั งทุติยภูมิและปฐมภูมิ และลงพื นที่เพื่อสารวจรูปแบบของการทาธุรกิจรายอื่นๆ เพื่อการวางแผนได้อย่างถูกต้อง แนวคิดของการดาเนินกิจการคือ มุ่งเน้นความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับผู้พักอาศัย พร้อมด้วยสาธารณูปโภคครบครัน ผู้วิจัยได้ออกแบบอหอพักเป็นรูปแบบอาคารทรงสี่เหลี่ยมสูง 4 ชั น โดยมี 21 ห้องต่อชั น รวมเป็นจานวนห้องพักทั งสิ น 63 ห้อง ห้องพักขนาด 21 ตารางเมตร พร้อมเครื่องปรับอากาศ และเฟอร์นิเจอร์ พื นที่ชั นล่างเป็นที่จอดรถและร้านค้า กลยุทธ์การค้าคือการตั งราคาค่าเช่าใกล้เคียงกับคู่แข่ง แต่เมื่อจะดาเนินธุรกิจอาจมีการปรับเปลี่ยนและแก้ไขแผนงานที่วางไว้ให้มีความเหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ นจริง โครงการก่อสร้าง หอพัก ใช้การลงทุนทั งสิ นโดยประมาณ 17,946,800บาท โดยเป็นทุนของเจ้าของกิจการ 12,250,000 บาท และกู้ยืมเงินจากธนาคารทั งสิ น5,696,800 บาท เมื่อพิจารณาอัตราดอกเบี ยร้อยละ 6.5 ต่อปี และค่าชดเชยความเสี่ยงร้อยละ 3.5 ต่อปี โครงการนี สามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 10 ปี โดยมูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับ 486,895 บาท
  • รายการ
    แนวทางการปรับปรุงระบบป้องกันและรองรับเหตุฉุกเฉินจากอัคคีภัยในอาคารสูง กรณีศึกษา : อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
    (2557-11-17T08:30:46Z) สุรินทร์ แก้วระย้า
    การค้นคว้าอิสระนี้เป็นการศึกษาเรื่อง แนวทางการปรับปรุงระบบป้องกันและรองรับเหตุฉุกเฉินจากอัคคีภัยในอาคารสูง กรณีศึกษา : อาคารสำนักงานใหญ่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ซึ่งเป็นอาคารสูง 24 ชั้น ประเภทอาคารใหญ่พิเศษ มีลักษณะเป็นอาคารสำนักงาน เริ่มก่อสร้างเมื่อ ปี พ.ศ. 2551 แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2556 และได้เปิดใช้อาคารอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2556 ปัจจุบันได้มีพนักงานโยกย้ายมาปฏิบัติงาน จำนวนพนักงานประมาณ 1,500 คน อาคารเป็นอาคารใหม่ทำให้การจัดการบริหารด้านป้องกันอัคคีภัยอยู่ในระหว่างการดำเนินงานของธนาคาร การตรวจสอบและประเมินด้านความเสี่ยงด้านอัคคีภัย จึงควรดำเนินการจัดทำแผนรับมือ การวางมาตรการรองรับ การซักซ้อมอพยพผู้ใช้อาคาร และประเมินวิเคราะห์ความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้อาคาร การตรวจสอบและประเมินระบบป้องกันอัคคีภัย กรณีศึกษาอาคารสำนักงานใหญ่ ธ.ก.ส. บางเขน โดยอ้างอิงมาตรฐานความปลอดภัยอาคาร พ.ศ. 2555 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาคารแห่งนี้มีระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย และระบบดับเพลิง ครบถ้วนเป็นไปตามมาตรฐานกำหนด และมีการจัดการอบรม ซักซ้อมผู้อพยพ และกำหนดเส้นทางหนีไฟจุดรวมพล เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด การตรวจสอบ และประเมิน นำมาซึ่งพบข้อบกพร่องบางประการอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการสื่อสารผิดพลาดขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ รวมถึงเส้นทางหนีไฟมีบางจุดที่ยังไม่ถูกต้องตามมาตรฐานที่กำหนด จากการศึกษาสามารถสรุปได้ว่าอาคารสำนักงานใหญ่ ธ.ก.ส.บางเขน มีความปลอดภัยด้านอัคคีภัยเป็นไปตามมาตรฐานและกฎหมายกำหนด ทั้งนี้ได้พบข้อบกพร่องในการตรวจสอบ ผู้ศึกษาได้เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงและพัฒนา หรือเพิ่มเติม เพื่อนำเสนอผู้มีอำนาจพิจารณาต่อไป
  • รายการ
    ความพึงพอใจของผู้รับบริการภายในต่อการให้บริการของพนักงาน แผนกซ่อมบารุงกรณีศึกษา อาคารกลาสเฮ้าส์ รัชดา
    (2557-11-17T08:05:51Z) เสริมศักดิ์ แสงสว่าง
    การศึกษาความพึงพอใจของผู้รับบริการภายในต่อการให้บริการของพนักงานแผนกซ่อมบารุง ศึกษาเฉพาะกรณี อาคาร กลาสเฮ้าส์ รัชดา มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้รับบริการภายในที่มีต่อการบริการของพนักงานแผนกซ่อมบารุง ประชากรที่ศึกษาได้แก่ ผู้เช่าภายในอาคาร กลาสเฮ้าส์ รัชดา จานวน 240 คน เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถามที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน สาหรับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและสถิติเชิงอนุมาน ซึ่งใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ผลการศึกษาพบว่าระดับความพึงพอใจของผู้รับบริการภายในต่อการให้บริการของพนักงานแผนกซ่อมบารุง อาคาร กลาสเฮ้าส์ รัชดา ภาพรวมพบว่า ผู้รับบริการภายในมีความพึงพอใจด้านการให้บริการของเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการด้าน กระบวนการ ขั้นตอนการให้บริการ ด้านคุณภาพการให้บริการในระดับที่น้อยทุกส่วน และเมื่อเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้รับบริการภายในต่อการให้บริการของพนักงานแผนกซ่อมบารุง อาคารกลาสเฮ้าส์ รัชดา พบว่า เพศ อายุ และระดับการศึกษา มีผลต่อความพึงพอใจของผู้รับบริการภายใน ในการให้บริการของพนักงาน สาหรับตาแหน่งที่มีผลต่อความพึงพอใจของผู้รับบริการในการให้บริการของพนักงานอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05
  • รายการ
    การจัดการพื้นที่สาหรับธุรกิจประเภทห้างสรรพสินค้าเฉพาะกลุ่มลูกค้า(ลูกค้าทัวร์ต่างประเทศ)กรณีศึกษาห้างสรรพสินค้า PT GALLERIASPACE MANAGEMENT FOR NICHE RETAILCASE STUDY : PT GALLERIA
    (2557-11-16T07:11:29Z) พงศธร เธียรอุกฤษฏ์
    การค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้ 1. เพื่อศึกษาเส้นทางการเดินชมสินค้าของผู้เข้าใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้า PT GALLERIA 2.เพื่อศึกษาการจัดการพื้นที่สาหรับห้าง สรรพสินค้า PT GALLERIA 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการใช้บริการของลูกค้า ที่เข้ามาใช้บริการห้างสรรพสินค้า PT GALLERIA เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าคือ การสารวจ การสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และการศึกษาข้อมูลเอกสาร ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า ห้างสรรพสินค้า PT GALLERIA ยังมีปัญหาที่ในส่วนเส้นทางการเดินชมสินค้าทาให้ลูกค้าไม่ผ่านสินค้าหลายประเภทภายในห้าง ผู้เข้าใช้บริการในห้างเป็นหญิงมากกว่าชาย ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 45 ปี โดยมากมีเป็นผู้เข้าใช้บริการเป็นครั้งแรก ส่วนน้อยที่เข้ามาจับจ่ายสินค้าเป็นครั้งที่ 2-3 ในด้านความพึงพอใจ พบว่า ความพึงพอใจของลูกค้าทัวร์ด้านการให้บริการของพนักงาน ด้านสถานที่และสิ่งอานวยความสะดวกภายในห้าง มีความพึงพอใจอยู่ที่ระดับปานกลาง ส่วนความพึงพอใจของลูกค้าทัวร์ด้านสถานที่ และสิ่งอานวยความสะดวกภายนอกห้าง พบว่ามีความพึงพอใจอยู่ที่ระดับน้อย จากการศึกษาครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะที่น่าจะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาสถานที่และบริการ เพื่อให้มีการเข้าใช้บริการและสร้างความพึงพอใจต่อลูกค้าให้มากขึ้น เกี่ยวกับเส้นทางการเข้าชมสินค้าภายในห้างให้เข้าถึงสินค้าได้ทุกประเภท โดยการจัดวางตู้ เพื่อกาหนดเป็นเส้นทางให้ลูกค้าเดินได้ และเพิ่มจานวนห้องน้าและสถานที่สูบบุหรี่ให้เพียงพอต่อลูกค้า ตลอดจนความปลอดภัยด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านอัคคีภัยและสุขภาพจากการเข้ามาใช้บริการ
  • รายการ
    โครงการ การ์เด้น ออฟ เลิฟ : กรณีศึกษาการพัฒนาพื้นที่นอกอาคารสาหรับจัดงานแต่งงาน โรงแรมริชมอนด์
    (2557-11-16T06:22:42Z) ธิดารัตน์ แก้วภิรา
    การศึกษาการค้นคว้าอิสระนี้เกี่ยวกับโครงการพัฒนาพื้นที่ ชั้น 5 บริเวณนอกอาคาร ที่ได้มีการดาเนินการพัฒนาแล้วเมื่อปี 2552 แล้วไม่ประสบผลสาเร็จ จึงทาให้ต้องนาข้อมูลต่างๆนี้มาวิเคราะห์ เพื่อเป็นการพัฒนาพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจะปรับปรุงให้เป็นสถานที่ที่ใช้สาหรับจัดงานแต่งงานภายใต้ชื่อโครงการ Garden of love จากปัญหาดังกล่าว จึงส่งผลทาให้เกิดโครงการพัฒนาพื้นที่ ชั้น 5 บริเวณนอกอาคารขึ้น ซึ่งการศึกษาการค้นคว้าอิสระนี้ได้ดาเนินการวิเคราะห์พื้นที่เพื่อหาค่าของการรองรับน้าหนักรวมของผู้เข้ามาใช้บริการและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ภายในงาน พร้อมกับดาเนินการจัดเก็บข้อมูลแบบสอบถามจากกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในงาน Wedding fair เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2556 จานวน 100 ท่าน เพื่อให้ทราบถึงความต้องการของลูกค้าที่ต้องการจัดงานแต่งงานแบบ Outdoor และต้องการสิ่งอานวยความสะดวกต่อพื้นที่จัดงานแต่งงาน รวมทั้งยังได้ดาเนินการวิเคาระห์เส้นทางสัญจรในการขนส่งสิ่งอานวยความสะดวกต่างๆเพื่อใช้ในการจัดงานแต่งงาน ประกอบกับเส้นทางสัญจรที่เหมาะสมกับโครงการ Garden of Love และสุดท้ายได้มีการกาหนดแผนการดาเนินการต่างๆ พร้อมเป้าหมาย เพื่อให้โครงการ Garden of Love ประสบความสาเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กาหนด ดังนั้นการศึกษาโครงการพัฒนาพื้นที่ ชั้น 5 บริเวณนอกอาคาร ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆนี้ มีแนวโน้มที่สามารถพัฒนาให้เป็นโครงการ Garden of Love ได้ รวมทั้งโครงการฯ นี้ยังสามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริหารกลุ่มโรงแรมริชมอนด์ เพื่อพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ชั้น 5 บริเวณนอกอาคารได้ ซึ่งหากโครงการฯ นี้แล้วเสร็จ จะมีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวและลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาใช้บริการในอนาคตอย่างแน่นอน
  • รายการ
    แนวทางการจัดส่วนรับประทานอาหารของโรงอาหารประจำอาคารให้สามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่ กรณีศึกษา อาคาร รสา ทาวเวอร์
    (2557-11-16T06:12:47Z) ทิพวรรณ อาจเลิศ
    การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ การบริหารจัดการพื้นที่ห้องอาหารแคนทีน ในส่วนรับประทานอาหาร และ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด กรณีศึกษา อาคาร รสา ทาวเวอร์ เป็นการศึกษาปัญหาของการมีที่นั่งรับประทานอาหารไม่เพียงพอ ต่อปริมาณผู้ใช้อาคาร ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ส่งผลให้ผู้ใช้อาคารต้องหาสถานที่รับประทานอาหารใหม่ รวมถึงการจำหน่ายสินค้าได้จำกัดตามจำนวนที่นั่ง จึงเสนอแนวทางในการจัดการพื้นที่รับประทานอาหาร โดยการเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางที่นั่งรับประทานอาหารใหม่ และเพิ่มชุดโต๊ะและเก้าอี๊บางส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของชุดโต๊ะและเก้าอี๊
  • รายการ
    การประเมินค่ากรณีการปรับปรุงอาคาร เพื่อประกอบการดำเนินธุรกิจ กรณีศึกษา : บริษัท อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด
    (2557-11-16T06:01:52Z) ทัดดาว สีนวลจันทร์
    การวิจัยครั้งนี้เป็นประเมินค่า กรณีปรับปรุงอาคาร เพื่อประกอบการดำเนินธุรกิจ บริษัท อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด เพื่อการปรับปรุงสภาพอาคารพาณิชย์ให้เป็นอาคารสำนักงาน ผู้วิจัยใช้วิธีการวิจัยทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพนักงาน ผลการวิจัยพบว่า 1. การปรับปรุงสภาพอาคารพาณิชย์ให้เป็นอาคารสำนักงานบริษัท อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด มีลักษณะการจัดพื้นที่สำนักงานแบบเปิดโล่ง พื้นที่ทำงานของหัวหน้างานกับพนักงานจะอยู่ในพื้นที่เดียวกันโดยไม่มีการจัดลำดับที่นั่งตามตำแหน่งหน้าที่ พนักงานของทุกหน่วยงานนั่งทำงานร่วมกันโดยไม่มีการแบ่งแยกแผนก โต๊ะทำงานซึ่งได้รับการออกแบบให้มีขนาดเพียงพอต่อการวางคอมพิวเตอร์พกพา ซึ่งถือเป็นสมบัติส่วนรวม และมีการนำระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ด้านคอมพิวเตอร์และการสื่อสารเข้ามาใช้ เช่น ระบบการจัดเก็บเอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-document) การเชื่อมโยงระบบ LAN Network และ Wi-Fi ภายในสำนักงาน เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกพื้นที่ภายในสำนักงาน 2. ปัจจัยด้านสภาพแวดล้อมภายใน ที่ส่งผลการทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ การวางระบบเทคโนโลยีเชื่อมต่อเครื่องมือการทำงานในทุกพื้นที่สำนักงาน รองลงมา ได้แก่ การใช้บริการพื้นที่พักผ่อน เช่น มุมเครื่องดื่ม เพื่อคลายเครียดจากงานได้ตลอดเวลา เครื่องมือการทำงานและอุปกรณ์ส่วนกลางมีความทันสมัย ระบบรักษาความปลอดภัยในการทำงานมีความเหมาะสม และสภาพแวดล้อมภายในสำนักงานปลอดโปร่ง และเป็นระเบียบเรียบร้อย
  • รายการ
    การปรับผังพื้นที่สำนักงานใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดเก็บเอกสารของแผนกบัญชี-การเงินกรณีศึกษา : บริษัท ฮิวแลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด
    (2557-11-16T05:51:08Z) ดวงใจ เพ็ชรประพันธ์กุล
    การศึกษาค้นคว้านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหาแนวทางในการออกแบบผังพื้นที่สำนักงานของแผนกบัญชี-การเงิน ของบริษัท ฮิวแลตต์-แพคการ์ด(ประเทศไทย)จำกัดซึ่งในปัจจุบันนี้พื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาในเรื่องของพื้นที่การจัดเก็บเอกสารไม่เพียงพอ และอีกเหตุผลหนึ่งในการทำการศึกษานี้คือ หากทางบริษัทฯ มีนโยบายในการปรับปรุงพื้นที่ใหม่ จะต้องใช้โต๊ะทำงานในรูปแบบใหม่เท่านั้น ดังนั้นทางผู้จัดทำจึงได้นำปัญหาของพื้นที่สำนักงานดังกล่าวมาเป็นกรณีศึกษาในครั้งนี้ จากการศึกษาทำให้พบว่า หากต้องทำการปรับปรุงผังพื้นที่ใหม่แล้วนั้น การออกแบบผังพื้นที่ใหม่จะสามารถเพิ่มจำนวนที่นั่งของพนักงานได้ สามารถออกแบบให้ระยะห่างของทางเดินต่างๆได้ตามแนวคิดและทฤษฏี และได้ตามข้อกำหนดของกฎหมายและมาตรฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บเอกสารของพนักงานแผนกบัญชี-การเงินได้มากขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้จะสามารถออกแบบผังพื้นที่ใหม่ให้ตอบสนองต่อความต้องการได้ แต่ก็ยังมีบางประเด็นที่ทางผู้จัดทำได้ให้ข้อเสนอแนะไว้เพื่อจะได้ช่วยควบคุมปริมาณเอกสารไม่ให้เกินความจำเป็น
  • รายการ
    การหาจำนวนที่จอดรถที่เหมาะสมขององค์กร และการจัดเพิ่มที่จอดภายในอาคารเดิมกรณีศึกษา : ธ.ก.ส. อาคารสำนักงานใหญ่ บางเขน
    (2557-11-16T04:44:08Z) เกรียงศักดิ์ โพธะ
    การค้นคว้าอิสระในครั้งนี้ เป็นการศึกษาเพื่อแก้ปัญหา(Problem solving research)ด้านความเพียงพอของจำนวนที่จอดรถยนต์ประจำอาคารสำนักงานใหญ่ ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เลขที่ 2346 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จากผลการศึกษาพบว่า จำนวนที่จอดรถยนต์ประจำอาคารสำนักงานใหญ่ บางเขนที่ ธ.ก.ส.ได้ออกแบบและประมาณการที่จอดรถไว้เดิมเมื่อปี พ.ศ. 2542 ไม่สามารถรองรับกับความต้องการจำนวนที่จอดรถของผู้ใช้บริการในปัจจุบันได้ เนื่องจากในช่วงระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ธ.ก.ส.มีการปรับโครงสร้างองค์กร (Re-structuring) โดยเพิ่มส่วนงานในสำนักงานใหญ่เพื่อรองรับการขยายธุรกิจธนาคาร ทำให้จำนวนผู้บริหารและพนักงาน ธ.ก.ส. ประจำอาคารสำนักงานใหญ่มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจำนวนผู้บริหารและพนักงานถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเพียงพอของจำนวนที่จอดรถยนต์ประจำอาคารสำนักงานใหญ่ของ ธ.ก.ส. ดังนั้น ผู้ศึกษาจึงต้องดำเนินการสำรวจข้อมูลเชิงปริมาณเกี่ยวกับจำนวนการใช้ที่จอดรถยนต์สูงสุดในแต่ละวันของผู้ใช้บริการ ในแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้รถยนต์ส่วนกลางของธนาคารในการปฏิบัติงานนอกสำนักงานและจอดประจำการเพื่อสำรองใช้งานธนาคาร ตลอดจนข้อมูลแผนแม่บทหรือนโยบายการเพิ่มอัตรากำลังพนักงานธนาคารในช่วงระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2556 ถึง พ.ศ.2560อันจะนำมาซึ่งแนวทางหรือกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาที่จอดรถยนต์ไม่เพียงพออย่างยั่งยืน ดังนี้ 1) ลดปริมาณความต้องการที่จอดรถ ด้วยการจัดหารถตู้บริการรับ-ส่ง พนักงาน 2) เพิ่มจำนวนที่จอดรถแนวขวางบนอาคาร Car Park 3) ย้ายสถานที่จอดรถยนต์ส่วนกลางธนาคารที่ไม่ได้ปฏิบัติงานเป็นประจำไปจอดที่ อาคารสำนักงานใหญ่เดิม(อาคารนางเลิ้ง)และอาคารศูนย์เอกสาร ธ.ก.ส.(อาคารประชาชื่น)เพื่อลดจำนวนการใช้ที่จอดรถยนต์ธนาคาร 4) เพิ่มจำนวนที่จอดรถแนวขวางบริเวณริมรั้วโดยรอบอาคารบางเขน จากแนวทางการแก้ปัญหาข้างต้น คาดว่าจะ ธ.ก.ส.จะสามารถบริหารจัดการจำนวนที่จอดรถยนต์ ประจำอาคารสำนักงานใหญ่ให้เพียงพอกับความต้องการที่จอดรถยนต์ของผู้ใช้บริการได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี
  • รายการ
    การหาจำนวนที่จอดรถที่เหมาะสมขององค์กร และการจัดเพิ่มที่จอดภายในอาคารเดิม กรณีศึกษา : ธ.ก.ส. อาคารสำนักงานใหญ่ บางเขน = FINDING PROPER DEMAND AND ADDING MORE PARKING SPACE TO THE EXISTING BUILDING A CASE STUDY : BANK FOR AGRICULTURE AND AGRICULTURAL COOPERATIVES HEADQUARTER BANG KHEN
    (2557-10-15T10:04:17Z) เกรียงศักดิ์ โพธะ
    การค้นคว้าอิสระในครั้งนี้ เป็นการศึกษาเพื่อแก้ปัญหา (Problem solving research) ด้านความเพียงพอของจำนวนที่จอดรถยนต์ประจำอาคารสำนักงานใหญ่ ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เลขที่ 2346 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร จากผลการศึกษาพบว่า จำนวนที่จอดรถยนต์ประจำอาคารสำนักงานใหญ่ บางเขนที่ ธ.ก.ส.ได้ออกแบบและประมาณการที่จอดรถไว้เดิมเมื่อปี พ.ศ.2542ไม่สามารถรองรับกับความต้องการจำนวนที่จอดรถของผู้ใช้บริการในปัจจุบันได้ เนื่องจากในช่วงระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ธ.ก.ส.มีการปรับโครงสร้างองค์กร(Re-structuring) โดยเพิ่มส่วนงานในสำนักงานใหญ่เพื่อรองรับการขยายธุรกิจธนาคาร ทำให้จำนวนผู้บริหารและพนักงาน ธ.ก.ส. ประจำอาคารสำนักงานใหญ่มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจำนวนผู้บริหารและพนักงานถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเพียงพอของจำนวนที่จอดรถยนต์ประจำอาคารสำนักงานใหญ่ของ ธ.ก.ส. ดังนั้น ผู้ศึกษาจึงต้องดำเนินการสำรวจข้อมูลเชิงปริมาณเกี่ยวกับจำนวนการใช้ที่จอดรถยนต์สูงสุดในแต่ละวันของผู้ใช้บริการในแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งศึกษาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้รถยนต์ส่วนกลางของธนาคารในการปฏิบัติงานนอกสำนักงานและจอดประจำการเพื่อสำรองใช้งานธนาคาร ตลอดจนข้อมูลแผนแม่บทหรือนโยบายการเพิ่มอัตรากำลังพนักงานธนาคารในช่วงระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2556 ถึง พ.ศ.2560)อันจะนำมาซึ่งแนวทางหรือกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาที่จอดรถยนต์ไม่เพียงพออย่างยั่งยืน ดังนี้ 1) ลดปริมาณความต้องการที่จอดรถ ด้วยการจัดหารถตู้บริการรับ-ส่ง พนักงาน 2) เพิ่มจำนวนที่จอดรถแนวขวางบนอาคาร Car Park 3) ย้ายสถานที่จอดรถยนต์ส่วนกลางธนาคารที่ไม่ได้ปฏิบัติงานเป็นประจำไปจอดที่อาคารสำนักงานใหญ่เดิม (อาคารนางเลิ้ง) และอาคารศูนย์เอกสาร ธ.ก.ส.(อาคารประชาชื่น)เพื่อลดจำนวนการใช้ที่จอดรถยนต์ธนาคาร 4) เพิ่มจำนวนที่จอดรถแนวขวางบริเวณริมรั้วโดยรอบอาคารบางเขน จากแนวทางการแก้ปัญหาข้างต้น คาดว่าจะ ธ.ก.ส.จะสามารถบริหารจัดการจำนวนที่จอดรถยนต์ ประจำอาคารสำนักงานใหญ่ให้เพียงพอกับความต้องการที่จอดรถยนต์ของผู้ใช้บริการได้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี
  • รายการ
    ปัญหาการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย: ศึกษากรณีการให้ความคุ้มครองแก่ผู้เสียหายในเรื่องค่าเสียหาย
    (2556-09-28T08:56:24Z) ชวิต กันติพัส
    ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมโดยรวมนั้นนับวันปัญหา สิ่งแวดล้อมนี้ยังมีการขยายออกไปอย่างกว้างขวางทำให้เกิดปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายเพราะความคุ้มครองสิทธิทางด้านสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะปัญหาในด้านการเยียวยาผู้เสียหายในเรื่องค่าเสียหายยังไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องด้วยไม่มีกฎหมายวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมเป็นการเฉพาะ หากแต่ได้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม กรณีจึงไม่สามารถที่จะรองรับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นที่กำลังเกิดความเสียหายที่ขยายวงกว้างและมีความซับซ้อนได้ อันทำให้กระบวนการพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยยังไม่สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริงซึ่งเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขและหากเนิ่นช้ากว่านี้ความเสียหายจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เพื่อการเยียวยาปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ดีและเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความสงบเรียบร้อยในสังคม กฎหมายดังกล่าวจึงควรที่จะมีการบัญญัติกฎหมายในส่วนวิธีพิจารณาคดีสิ่งแวดล้อมเป็นการเฉพาะเพื่อใช้บังคับกับคดีสิ่งแวดล้อมโดยตรง
  • รายการ
    มาตรการทางกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค : ศึกษากรณีทัวร์ศัลยกรรมที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี
    (2556-09-28T08:18:34Z) พรสวรรค์ กาญจนจันทร์
    ศึกษาวิเคราะห์ถึงลักษณะปัญหาที่เกี่ยวกับการใช้บริการธุรกิจแพ็คเกจทัวร์ศัลยกรรม พร้อมกับเสนอแนะแนวแนวทางในการแก้ปัญหาที่หากเกิดความเสียหายขึ้นจากการใช้บริการแพ็คเกจทัวร์ศัลยกรรม ด้วยการกำหนดแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 ให้เพิ่มคำนิยามคำว่า “การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์” และกำหนดให้สัญญานำเที่ยวแบบแพ็คเกจทัวร์จะต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้งให้นำหลักความรับผิดโดยเคร่งครัด (Strict Liability) มาปรับใช้เพื่อกำหนดความรับผิดของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำนักท่องเที่ยวไปศัลยกรรมที่ต่างประเทศ หากเกิดความเสียหายใดๆกับผู้ใช้บริการแพ็คเกจทัวร์ศัลยกรรม ประการสุดท้ายควรกำหนดมาตรการของผู้ที่จะประกอบธุรกิจแพ็คเกจทัวร์ศัลยกรรมให้มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทยสภา คอยดูแลและให้คำปรึกษาที่ถูกต้องตามจรรยาบรรณวิชาชีพแพทย์เช่นเดียวกับการเปิดคลีนิกศัลยกรรมในประเทศไทย พร้อมทั้งกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจแพคเกจทัวร์ศัลยกรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ต้องจัดให้มีการทำประกันการเดินทางเพื่อการรักษาพยาบาลให้กับนักท่องเที่ยวก่อนออกเดินทางเพื่อเป็นหลักประกันกรณีเกิดความเสียหายขึ้นจากการเดินทางไปท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของนักท่องเที่ยว
  • รายการ
    ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ กับพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีของพนักงานในองค์กร : กรณีศึกษา บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และกลุ่มบริษัทในเครือ
    (2556-08-17T05:13:35Z) พิชชา ศุภเสถียร
    การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาระดับภาวะผู้นำกับพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดี ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีผลต่อพฤติกรรมเป็นสมาชิกที่ดี ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำกับพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีของพนักงานในองค์กร :กรณีศึกษาบริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่งจำกัด และกลุ่มบริษัทในเครือ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ พนักงานระดับปฎิบัติการของบริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และกลุ่มบริษัทในเครือ จำนวน 171 คน
  • รายการ
    ปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันองค์กรของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร
    (2556-08-17T05:01:43Z) กอบศักดิ์ ขาวปลอด
    การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความผูกพันองค์กรของพนักงานองค์กรมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร จานวน 266 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้สถิติต่างๆ ได้แก่ ร้อยละ ความถี่ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแตกต่างโดยการทดสอบค่า T-test การวิเคราะห์ค่าความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน
  • รายการ
    ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการทางานกับความผูกพันต่อองค์การ ของบุคลากรฝ่ายสนับสนุน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย : THE RELATIONSHIP BETWEEN WORKING MOTIVATION AND ORGANIZATION COMMITMENT OF CHULALONGKORNMEMORIAL HOSPITAL THAI RED CROSS SOCIETY STAFFS
    (2556-07-01T10:59:44Z) กชรัตน์ เอมมิน้อม
    ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการทางานกับ ความผูกพันต่อองค์การของบุคลากรฝ่ายสนับสนุน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นบุคลากรฝ่ายสนับสนุน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จำนวนทั้งสิ้น 217 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยจูงใจ สถิตที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบด้วย ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบียงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธ์ สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน
  • รายการ
    ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยองค์การกับความผูกพันของพนักงาน กรณีศึกษา : บริษัท ดราฟท์เอฟซีบี (ประเทศไทย) จำกัด : THE RELATIONSHIP BETWEEN ORANIZATIONAL FACTORS ANDEMPLOYEE ENGAGEMENT A CASE STUDY : DRAFTFCB (THAILAND) LIMITED
    (2556-07-01T10:47:18Z) สุทัสสา วิไลเจริญตระกูล
    มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความผูกพันของพนักงาน บริษัท ดราฟท์เอฟซีบี(ประเทศไทย)จำกัดเพื่อศึกษาลักษณะส่วนบุคคลที่มีผลต่อความผูกพันของพนักงาน บริษัท ดราฟท์เอฟซีบี(ประเทศไทย)จำกัด
  • รายการ
    แรงจูงใจของข้าราชการกรมฝ่ายเสนาธิการกองทัพบก ในการเข้าร่วม โครงการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากาลังของส่วนราชการ(โครงการ เกษียณอายุราชการก่อนกาหนด) ประจาปีงบประมาณ 2555
    (2556-07-01T10:02:35Z) จุลภพ ศรีวลัย
    การศึกษาเรื่อง แรงจูงใจของข้าราชการกรมฝ่ายเสนาธิการ กองทัพบก ในการเข้าร่วมโครงการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากาลังของส่วนราชการ(โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกาหนด) ประจำปีงบประมาณ 2555 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจที่มีผลต่อเข้าร่วมโครงการฯและศึกษาเปรียบเทียบแรงจูงใจในการเข้าร่วมโครงการฯ จาแนกตามตัวแปร อายุ ระดับชั้นยศ อัตราเงินเดือน ระดับการศึกษาและอายุราชการ ตลอดจนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับแรงจูงใจในการข้าร่วมโครงการฯ