กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/3607
ชื่อเรื่อง: | ปัญหาและอุปสรรคการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | วรรณฉัตร พวยพุ้ง |
คำสำคัญ: | เด็ก การคุ้มครอง |
วันที่เผยแพร่: | 14-มิถุนายน-2555 |
บทคัดย่อ: | ปัญหาการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชน เป็นปัญหาที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ เพราะเด็กเป็น ทรัพยากรที่สำคัญของโลก ที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งนับวันปัญหาของเด็กและเยาวชนยิ่งทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งแต่เดิมกฎหมายที่เข้ามาปกป้องคุ้มครองเด็กคือ บทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา และประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 132 และฉบับที่ 294 แต่เนื้อหาสาระของกฎหมายดังกล่าว มุ่งเน้นไปในทางลงโทษผู้ที่กระทำความผิด ไม่มีแนวทางในการที่จะมุ่งบำบัดฟื้นฟู หรือให้การดูแลเด็ก รวมถึงเด็กที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เช่น เด็กที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม หรือเสี่ยงต่อการกระทำความผิด จึงได้มีการตรากฎหมายออกมา ชื่อ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 หลังจากที่พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีผลใช้บังคับ เมื่อศึกษาพบว่ากฎหมายฉบับนี้มีบทบัญญัติที่เป็นปัญหาในการบังคับใช้อยู่หลายประการ คือ ปัญหาศาลที่มีอำนาจในการพิจารณาพิพากษาความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ตามมาตรา 5 พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ได้กำหนดให้ศาลที่มีอำนาจในการพิจารณาพิพากษาความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กคือ ศาลยาวชนและครอบครัว ซึ่งไม่ว่าผู้กระทำความผิดจะมีอายุน้อยกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือ มากกว่า 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ถ้าได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กต้องนำความผิดดังกล่าวขึ้นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งอัตราโทษตาพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กนั้น ตามมาตรา 78 ถึง มาตรา 86 เป็นอัตราโทษที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลแขวง จึงสมควรที่มีการแยกความรับผิดระหว่างผู้กระทำความผิดที่เป็นเด็กอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ และผู้กระทำความผิดที่มีอายุมากกว่า 18 ปีแยกออกจากกัน เพื่อความสะดวก และเป็นสัดส่วนในการพิจารณาคดี อีกทั้งยังมีปัญหาการตีความกฎกระทรวงกำหนดเด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิด ที่ยังไม่ชัดเจน แน่นอน ส่งผลให้เกิดปัญหาในการบังคับใช้ ปัญหาการแจ้งการคุ้มครองเด็กที่ไม่ได้มีการกำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม ปัญหาคณะกรรมการคุ้มครองเด็กที่มีเพียงแต่ตัวแทนจากภาครัฐและภาคเอกชนไม่มีปัญหาการนำเด็กเข้าสู่กระบวนการสงเคราะห์ ที่ยังขาดมาตรการเยียวยาและติดตามผล จากปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวข้างต้น ผู้ศึกษาจึงเสนอแนะให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กในเรื่องอำนาจศาลที่มีอำนาจในการพิจารณาความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก ในกรณีของผู้กระทำความผิดที่มีอายุมากกว่า 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไปเมื่ออัตราโทษอยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลแขวง จึงควรให้ศาลแขวงมีอำนาจในการพิจารณาพิพากษา และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ควรมีการแก้ไขตัวบทกฎหมายให้มีความครอบคลุมกับปัญหาเด็กและเยาวชน ที่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม รวมถึงมาตรการทางกฎหมายในการที่มุ่ง ฟื้นฟู เยียวยาเด็กที่พึงจะได้รับการสงเคราะห์ที่ควรมีการติดตามผลหลังได้รับการสงเคราะห์ ตลอดจนพัฒนาในการมีส่วนร่วมของบุคคลในทุกภาคส่วน เพื่อให้กฎหมายมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดในการนำไปบังคับใช้ เพื่อให้บรรลุถึงวัตถุประสงค์ของกฎหมาย |
URI: | http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/3607 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | S_CHO-09. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
1title.pdf | 65.33 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
2abstract.pdf | 144.13 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
3acknow.pdf | 95.92 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
4content.pdf | 155.44 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
5chap1.pdf | 221.71 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
6chap2.pdf | 563.71 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
7chap3.pdf | 741.35 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
8chap4.pdf | 443.2 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
9chap5.pdf | 309.38 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
10bib.pdf | 169.79 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
12profile.pdf | 94.96 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
11appen.pdf | 165.22 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น