School of Entrepreneurship
URI ถาวรสำหรับชุมชนนี้
เรียกดู
กำลังเรียกดู School of Entrepreneurship โดย วันที่ออก
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 20 ของ 76
ผลลัพธ์ต่อหน้า
ตัวเลือกเรียงลำดับ
รายการ การสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมสาหรับนักสื่อมวลชน(2562-07-01) ผุสดี กลิ่นเกษรการวิจัยเรื่อง “การสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมสำหรับนักสื่อมวลชน” มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมสำหรับนักสื่อมวลชน โดยมีการดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาความต้องการเรียนรู้สำหรับนักสื่อมวลชนเพื่อสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม และขั้นตอนที่ 2 การออกแบบและสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมสำหรับนักสื่อมวลชน ผลการวิจัยพบว่าการสร้างชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมสำหรับนักสื่อมวลชนมีขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3 ขั้นตอน ดังนี้ (1) ขั้นนำก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (2) ขั้นการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ 4 กิจกรรม คือ กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 การพัฒนาความรู้จริยธรรมสำหรับนักสื่อมวลชน กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2 การใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมเพื่อคนรอบข้าง กิจกรรมการเรียนรู้ที่ 3 การใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมเพื่อสังคม และกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 4 การสรุปสะท้อนคิด (3) ขั้นการประเมินหลังการดำเนินกิจกรรมการเรียนรู้รายการ ระบบการบริหารจัดการการผลิตครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด(วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด., 2562-08) ขอบฟ้า จันทร์เจริญ; สิรินธร สินจินดาวงศ์.การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของอาจารย์ประจำสูตร ครูพี่เลี้ยง นักศึกษาวิชาชีพครูต่อระบบการบริหารจัดการการผลิตครูของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ อาจารย์ประจำหลักสูตร ครูพี่เลี้ยง นักศึกษาวิชาชีพครู จำนวน 978 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม ความคิดเห็นที่มีต่อระบบการบริหารจัดการผลิตครู คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวน ผลการวิจัย พบว่าอาจารย์ประจำหลักสูตร ครูพี่เลี้ยงและนักศึกษาวิชาชีพครู มีความคิดเห็นต่อระบบการบริหาร จัดการการผลิตครู ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย= 4.24, S.D. = 0.44) เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าการบริหารจัดการการผลิตครูทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับมาก ซึ่งด้านผลผลิต มีความคิดเห็นสูงสุด (ค่าเฉลี่ย = 4.28, S.D. = 0.61) รองลงมา คือ ด้านปัจจัย (ค่าเฉลี่ย= 4.25, S.D. = 0.42) และด้านกระบวนการ (ค่าเฉลี่ย= 4.18, S.D. = 0.45) และพบว่า ความคิดเห็นของอาจารย์ประจำหลักสูตร ครูพี่เลี้ยง นักศึกษาวิชาชีพครูต่อระบบการบริหารจัดการการผลิตครู ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 โดยครูพี่เลี้ยง กับนักศึกษาวิชาชีพครู มีความคิดเห็นต่อระบบการบริหารจัดการการผลิตครูแตกต่างกันรายการ เรื่องการบริหารงานวิชาการในสถานศึกษาตามแนว OBJECTIVES & KEY RESULTS (OKRS)(วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 2562-09) ศิวาพัชญ์ บำรุงเศรษฐพงษ์, สวพร บุญญผลานันท์ และเกรียงไกร สัจจะหฤทัยการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษา หากน า OKRs มาใช้ในการบริหารงานด้านวิชาการจะช่วย ให้การบริหารงานนั้นส าเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีมากยิ่งขึ้นเพราะ OKRs เป็นการตั้งวัตถุประสงค์ตามที่ ผู้อ านวยการโรงเรียนต้องการแก้ไขหรือพัฒนาคุณภาพในการจัดการเรียนการสอนของครู รวมถึงการพัฒนา คุณภาพทางการศึกษาของนักเรียนในแต่ละด้าน โดยหาวิธีการพัฒนา แก้ไขให้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ หากท าส าเร็จย่อมจะสามารถพัฒนาหลักสูตรและกระบวนเรียนรู้ตลอดจนการวัดผล ประเมินผล รวมทั้งการวัด ปัจจัยเกื้อหนุนการพัฒนาคุณภาพนักเรียน ชุมชนและท้องถิ่นได้อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ โดยจะ ส่งผลดีโดยตรงต่อตัวผู้เรียนที่จะได้พัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้น รวมถึงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของครู และ สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารงานของผู้อ านวยการโรงเรียนอีกด้วยรายการ The development of modern classroom for undergraduate students of Kasem Bundit University, Thailand(The 43rd ASAIHL Thailand Conference: The Association of Southeast Asian Institutions of Higher Learning On Wednesday 2nd October 2019, 2562-10-02) Gong Lei, Sirinthorn SinjindawongThis research discusses the importance of classroom environment. Goal of this study is to contribute teacher’s knowledge how classroom environments impact students’ learning. Three objectives of this research are to: 1) study Chinese language learning in both traditional classroom and modern classroom, 2) study students’ learning attendance from traditional classroom and modern classroom, 3) compare students’ achievement from Chinese language learning in traditional classroom and modern classroom. Population are 45 Kasem Bundit University students, sample are 8 students which randomly chosen by sample random sampling. Instruments were used by: paper-based exam, pre-test and post-test. In order to compare the different learning outcome result analyzed by mean and Standard Deviation. The results of the study indicate that students do perceive significant differences between traditional classroom and modern classrooms. Students who study at modern classroom have 16% higher average score than students who study at traditional classroom.รายการ Using Game-Based Learning in Teaching Chinese for Thai Students with Basic Chinese Level: Research of Primary School Students in Thailand(The 43rd ASAIHL Thailand Conference: The Association of Southeast Asian Institutions of Higher Learning On Wednesday 2nd October 2019, 2562-10-02) Yan Simi; Kriangkrai SatjaharuthaiThis research study examined game based learning in Chinese vocabulary learning. The research objectives included: (1) To study students’ interest in learning Chinese vocabulary through game based learning. ( 2) To investigate the effectiveness of game- based learning. A pre- test and post- test and a questionnaire were employed with. This paper takes 400 students for population and take 76 students. The research finding revealed that: ( 1) Students had a significant interest in learning Chinese vocabulary through the use of game- based learning; (2) Students performed better after using game based learning in learning Chinese vocabulary. Finally, the paper discuss and recommendation for teaching and learning. After learners adopt the game teaching method, their learning results will be better than before, so teachers or researchers should conduct the comparison of game teaching and research. It is also found in the research that teaching games are a complicated teaching method of design, creation and application.รายการ The research of using mobile application for teaching Chinese vocabulary in Thailand high school(The 43rd ASAIHL Thailand Conference: The Association of Southeast Asian Institutions of Higher Learning On Wednesday 2nd October 2019, 2562-10-02) Wu Haopeng; Kriangkrai SatjaharuthaiThis thematic paper examined the use of the mobile phone Application in Chinese vocabulary learning. The research objectives included: (1) To study the overall attitude of students in Chinese learning; (2) To study results of Chinese vocabulary learning attitude; ( 3) To study the Chinese achievement between before and after using mobile application learning. To research the three objectives, analysis was done across the data collection methods. This paper uses quantitative research, including lesson plans, pre- test, post- test, questionnaires. This paper takes 130 grade 9 students for population and take 100 students. The research finding revealed that: (1) Students think Chinese is important but difficult to learn; ( 2) Students think Chinese vocabulary is the most significant in Chinese learning and need to learn firstly; (3) Students perform better after using mobile Application in learning Chinese. Finally, the paper discuss and recommendation for teaching and learning.รายการ The effectiveness of Chinese camp to encourage Chinese speaking skills of students at primary schools in Thailand(2562-10-02) Da Li, Sirinthorn SinjindawongThe aim of this study was to find out how the effectiveness of Chinese camp for Chinese learning encourage of intercultural teaching at Thai primary school, and How is the perspective of primary students in intercultural teaching of Chinese speaking skills after Chinese camp. The research was a quantitative research; the participants were primary School grade three students at one of the private primary schools in Thailand. Three teachers were interviewed for preliminary data collection to design the questionnaire.The data gathered then were statistically analyzed by using frequency percentage mean and standard deviation and t-test independent. Results of this research found that significance the effectiveness of Chinese camp for Chinese learning encourage of intercultural teaching at Thai primary school. The findings how Chinese camp to effective students Chinese learning achievement. Significantly affected students’ learning achievement. Therefore, the findings suggested the school consider the curriculum setting and the way to improve Chinese teaching activitiesรายการ การพัฒนากิจกรรมเรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาผ่านวีดีทัศน์บันทึกกิจกรรมชีวิต โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว(การประชุมวิชาการ “การวิจัยระบบการศึกษาไทย” ครั้งที่ 4 วันที่ 28 – 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 2562-11-28) พระครูใบฎีกากฤษดา ไกรยะถา; วราภรณ์ ไทยมาการวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้หลักธรรม ทางพระพุทธศาสนาผ่านวีดี ทัศน์บันทึกกิจกรรมชีวิต โดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว 2) เพื่อศึกษาความคิดเห็นที่มีต่อการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาผ่านวีดีทัศน์บันทึกกิจกรรมชีวิตโดยการมีส่วนร่วมของครอบครัว กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน การวิจัยคือครอบครัวนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 โรงเรียนวัดพุทธบูชา กรุงเทพมหานครจำนวน 12 ครอบครัวโดย ใช้การเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นอาสาสมัครที่ผ่านจากการจัดกิจกรรมทั้ง 3 มาแล้ว ผลวิจัย พบว่า 1) สมาชิกภายในครอบครัวได้มีการบันทึกกิจกรรมต่างๆ ผ่านวีดีทัศน์บันทึกกิจกรรมชีวิตและสมุดบันทึก ความสุข ในการทำกิจกรรมร่วมกันทำให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีและได้แสดงออกถึงความรักความอบอุ่น ได้แลกเปลี่ยน การเรียนรู้ร่วมกันทั้งความคิดและอารมณ์ความรู้สึกอย่างเหมาะสม สมาชิกในครอบครัวได้เรียนรู้หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนาและนำไปปรับใช้ให้เป็นครอบครัวแห่งความสุขคู่คุณธรรมและได้ใช้ เวลาว่างอยู่ร่วมกัน สมาชิก ภายในครอบครัวได้บันทึกความสุขของตนเองในแต่ละสัปดาห์และถ่ายทอดผ่านโปรแกรมเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น application Line Group, Facebook Group ให้ครอบครัวอื่นได้เห็นเป็นตัวอย่างในการสร้างกิจกรรมความสุขของ สมาชิกภายในครอบครัว 2) สมาชิกภายในครอบครัวคิดเห็นว่าเป็นกิจกรรมการเรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สมัยใหม่ที่เข้าใจง่ายและสอดคล้องกับสังคมในยุคปัจจุบันเป็นการสร้างสรรค์การเรียนรู้ร่วมกันของสมาชิกภายใน ครอบครัวทำให้เข้าใจในเนื้อหาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้นและได้นำมาประพฤติปฏิบัติพัฒนาครอบครัว ของตนเอง ผลจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองต่อการจัดกิจกรรมอยู่ใน ระดับมากรายการ การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การสร้างคำด้วยวิธีการสมาสแบบมีสนธิ โดยใช้เกมเป็นฐาน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(การประชุมวิชาการ “การวิจัยระบบการศึกษาไทย” ครั้งที่ 4 วันที่ 28 – 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 2562-11-29) คิดลึก สังข์สาลี; สิรินธร สินจินดาวงศ์การวิจัยนี้เป็นรูปแบบการวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา ภาษาไทย เรื่อง การสร้างคำด้วยวิธีการสมาสแบบมีสนธิ โดยใช้เกมเป็นฐาน 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การสร้างคำด้วยวิธีการสมาสแบบมีสนธิ โดยใช้เกมเป็นฐาน ระหว่างก่อนและหลังการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/3 โรงเรียนท่าตูมประชาเสริมวิทย์ จังหวัดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำนวน 32 คน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test dependent) ผลการวิจัยพบว่า 1) ได้พัฒนา กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย เรื่อง การสร้างคำด้วยวิธีการสมาสแบบมีสนธิ โดยใช้เกมเป็นฐาน ชื่อชุดเกมว่า “หมากฮอสชวนคิด พิชิตสนธิ” ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อด้านบรรยากาศ ในการเรียนรู้ ด้านการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ และด้านประโยชน์ที่ได้รับ ทุกด้านล้วนมีความเหมาะสมและเห็นด้วยอยู่ในระดับ มากที่สุด 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภาษาไทย เรื่อง การสร้างคำด้วยวิธีการสมาสแบบมีสนธิ หลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01รายการ การพัฒนาระบบการฝึกอบรมผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อส่งเสริมทักษะการสื่อสารในครอบครัว(การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ มหาวิทยาลัยศรีปทุม คร้ังที่ 14 ประจําปี 2562 วันที่ 19 ธันวาคม 2562, 2562-12-19) สุรเสกข์ ยุทธิวัฒน์; สิรินธร สินจินดาวงศ์การวิจัยคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์ (1) เพ่ือพัฒนาระบบการฝึ กอบรมผ่านเครือข่ายออนไลน์ในการเพ่ิม ศักยภาพการส่ือสารของผู้ปกครองครอบครัวท่ีมีลูกหลานวัยรุ่น และ (2) เพ่ือสร้างข้อเสนอแนะในการนําระบบ ฝึ กอบรมออนไลน์ไปใช้เพื่อขยายเครือข่ายที่รองรับกับความต้องการของผู้ปกครองกลุ่มเป้าหมาย โดยต้องการ ทดลองเพื่อหาระบบการฝึ กอบรมท่ีมีประสิทธิภาพในการพัฒนาศักยภาพด้านการส่ือสารของผู้ปกครอง ให้ ผู้ปกครองกลุ่มเป้าหมายได้ตระหนักรับรู้ถึงปัญหาการสื่อสารภายในครอบครัว รู้วิธีการในการจัดการปัญหาที่ เกิดข้ึนภายในครอบครัวของตนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยงานวิจัยน้ีเป็ นงานวิจัยแบบผสมผสาน โดยใช้การวิจัยเชิง คุณภาพนําเชิงปริมาณ มีกลุ่มตัวอย่างคือผู้ปกครองที่มีลูกหลานวัยรุ่น มีเคร่ืองมือในการวิจัยคือแบบประเมิน สัมพันธภาพและการส่ือสารของผู้ปกครอง การสัมภาษณ์ผู้ปกครองท่ีผ่านเกณฑ์ และแผนการฝึ กอบรม การ วิเคราะห์ข้อมูลจากการวิเคราะห์เน้ือหา การวิเคราะห์ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนจากการตอบแบบประเมินและการทํา การทดสอบ โดยใช้สถิติ การแจกแจงความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ผลการศึกษาวิจัย พบว่า (1) สามารถพัฒนาระบบท่ี ใช้ในการฝึ กอบรมผ่านเครือข่ายออนไลน์ในการเพิ่มศักยภาพการส่ือสารของผู้ปกครองในครอบครัวท่ีมีลูกหลาน วัยรุ่น โดยมีอัตราการเรียนจบอยู่ที่ 82% และ (2) พบว่าการจัดการอบรมออนไลน์น้ัน จะต้องคํานึงถึง 3 ปัจจัย หลัก ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้เรียน ปัจจัยด้านผู้นํากระบวนการและอาสา ปัจจัยด้านสารสนเทศรายการ การเรียนรู้ตลอดชีวิตกับการพัฒนาทักษะชีวิต(การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ มหาวิทยาลัยศรีปทุม คร้ังที่ 14 ประจําปี 2562 วันที่ 19 ธันวาคม 2562, 2562-12-19) ผุสดี กลิ่นเกษรการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ท้ังหมดของแต่ละบุคคลที่เกิดข้ึน ต้ังแต่แรกเกิดจนถึงตาย โดยเกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษา ตามอัธยาศัยที่มีรูปแบบหลากหลายและมีความต่อเนื่องในชีวิต โดยการเรียนรู้ตลอดชีวิตยึดจาก 4 เสาหลักที่เป็น รากฐาน ได้แก่ การเรี ยนเพื่อรู้ (Learning to know) การเรี ยนรู้เพื่อปฏิบัติได้จริ ง (Learning to do) การเรี ยนรู้ เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันและการเรี ยนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่น (Learning to Live Together) และการเรี ยนรู้เพื่อชีวิต (Learning to Be) เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคคลให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะชีวิตซ่ึงเป็ นความสามารถข้ัน พื้นฐานของบุคคลในการปรับตัวและเลือกทางเดินชีวิตท่ีเหมาะสมในการดํารงชีวิต เพื่อสามารถเผชิญปัญหาต่างๆ ที่อยู่รอบตัวในสภาพสังคมปัจจุบันและเตรี ยมพร้อมสําหรับอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับ สภาพแวดล้อมที่มีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังน้ันการเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงช่วยพัฒนาทักษะชีวิตให้บุคคล สามารถดํารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงต่างๆ ในยุคปัจจุบันน้ีรายการ การศึกษาการมีส่วนร่วมในกิจกรรมภาษาต่างประเทศโดยใช้กิจกรรมเป็ นฐาน สําหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุม(การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติ มหาวิทยาลัยศรีปทุม คร้ังที่ 14 ประจําปี 2562 วันที่ 19 ธันวาคม 2562, 2562-12-19) ภีมพัฒน์ วรโชติธีรวัชร์; สิรินธร สินจินดาวงศ์การวิจัยคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์ เพ่ือ 1) ศึกษาการจัดการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศโดยใช้กิจกรรมเป็ นฐาน และ 2) ศึกษาประโยชน์ของการจัดกิจกรรม SPU’s Got Talent 2019 สําหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยศรี ปทุม กลุ่มเป้าหมายที่เลือกใช้ คือ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์และนักศึกษาวิทยาลัยนานาชาติศรีปทุม จํานวน 50 คน ที่เข้าร่วมประกวดแข่งขันกิจกรรม SPU’s Got Talent 2019 เคร่ืองมือวิจัยเป็ นแบบสอบถามออนไลน์ การวิเคราะห์ ข้อมูล ใช้ความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉล่ีย และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1.การจัดการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศโดยใช้กิจกรรมเป็ นฐาน ประกอบไปด้วย 4 ข้ันตอน ได้แก่ 1) การกระตุ้นและให้ประสบการณ์ 2) การให้ความรู้และลงมือปฏิบัติ 3) ผลสะท้อนกลับ และ4) การประเมินผล 2.ส่วนประโยชน์ของการจัดกิจกรรม SPU’s Got Talent 2019 ภาพรวมค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.20 (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.52) เม่ือพิจารณารายด้านพบว่า ประโยชน์ของการเข้าร่วม มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุดเท่ากับ 4.32 (ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.52) รองลงมากิจกรรมน้ีช่วยพัฒนาทักษะภาษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.18 (ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.59) และกิจกรรมน้ีช่วยให้เรียนรู้ด้านภาษา มีค่าต่ําที่สุด เท่ากับ 4.08 (ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.62)รายการ Exploring the sefulness of Mobile Assisted Language Learning in enhancing English Vocabulary acquisition of first-Year Students at Sripatum University(The 14th National and International Sripatum University Conference (SPUCON2019), 2562-12-19) Nika Karina SarmientoThis study is aimed at Exploring the usefulness of Mobile Assisted Language Learning in enhancing English vocabulary acquisition of First-year students at Sripatum University as a 21st Century learning tool in the classroom. The main objectives are (1) to investigate how first-year students use their mobile devices as tools in English vocabulary learning, (2) to identify the Mobile devices applications that the students use in English vocabulary acquisition; and finally (3) to compare students’ vocabulary knowledge after using MALL through Pre-test and Post-test. Data for this study were collected by means of various research instruments: Survey questionnaire, face to face interview/assessment, and Pre and Post-test. The primary findings of this research are that MALL has positively influenced students attitude and scores when it comes to English vocabulary acquisition. Mall approach has not only improved their vocabulary knowledge but also motivated students in language learning. In addition to this, the analysis reveals that mobile learning is considered by the participants as a useful way of learning as it is convenient, portable and effective. However, there were also some challenges faced in this study. Nevertheless, mobile devices which are popular among students are motivational tools to be used in education as well as various learning activities in the future.รายการ The Development of Student’s Chinese Speaking Skill Using Collaborative Activities in Satriwithaya High School(The 5th Regional Conference on Graduate Research Theme “Sustainable Business Growth, Challenges, Measures and Solutions in Global Scenario”, 2563-01-18) Ouyang Tianting; Kanyarat SriwisathiyakunCollaborative learning is a new teaching method, which is student-centered. It is also a new teaching model to apply it in teaching Chinese as a foreign language class. This research will be conducted in the Chinese class of Satriwithaya high school. The purpose of this study is twofold: to study the collaborative activities in Chinese speaking class, and to evaluate students ‘Chinese speaking skill after using collaborative activities in the Chinese speaking class. In teaching experiments, this teaching experiment is based on a review of the literature. This paper selected three collaborative activities for teaching experiments, namely outdoor practice (Chinese interview), business talk (role play) and Chinese tongue twister. Using the results of teaching experiments and classroom observation methods, students' vocabulary learning, grammar learning, and oral expression are used to evaluate whether collaborative activities can help students improve their oral skills in the Chinese as a foreign language. In the discussion section, the paper will also analyze the results of the experiment and the results of classroom observations, and put forward corresponding suggestions for the application of collaborative activities in the classroom of Chinese as a foreign language.รายการ การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้สูงวัย(การประชุมวิชาการ และเผยแพร่ผลงานวิจัยคัดสรร สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ระดับชาติ หัวข้อ การศึกษายุค “Digital Disruption in Education” ในวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2563 ณ โรงแรมชาโต เดอ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา, 2563-02-02) สิรินธร สินจินดาวงศ์; ผุสดี กลิ่นเกษรการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งหมดของแต่ละบุคคล ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงตายที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีรูปแบบหลากหลายและมีความต่อเนื่องในชีวิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากลุ่มบุคคลผู้สูงวัยให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะชีวิตในการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน พร้อมที่จะดำรงชีวิต ประกอบอาชีพ และปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้สูงวัยจึงเป็นการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้สูงอายุมีชีวิตอย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้นานที่สุดและสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม โดยมีการนำหลักการเรียนรู้สำหรับวัยผู้ใหญ่ (Adult learning) มาเป็นศาสตร์และศิลป์ในการช่วยให้ผู้สูงวัยได้เรียนรู้ โดยผู้ใหญ่จะมีการเรียนรู้ที่ต่างจากเด็ก 4 ประการ ได้แก่ 1) ความเข้าใจต่อตนเอง (Self-concept) 2) ประสบการณ์ (Experience) 3) ความพร้อมที่จะเรียนรู้ (Readiness to Learn) และ 4) เป้าหมายในการเรียนรู้ (Goal to Learning) เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงวัยมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และพัฒนาไปสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืนรายการ การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้สูงวัย(2563-02-02) สิรินธร สินจินดาวงศ์; ผุสดี กลิ่นเกษรการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life Long Learning) เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งหมดของแต่ละบุคคล ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงตายที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีรูปแบบหลากหลายและมีความต่อเนื่องในชีวิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากลุ่มบุคคลผู้สูงวัยให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะชีวิตในการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืน พร้อมที่จะดำรงชีวิต ประกอบอาชีพ และปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับผู้สูงวัยจึงเป็นการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้สูงอายุมีชีวิตอย่างมีคุณค่า มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถพึ่งตนเองได้นานที่สุดและสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม โดยมีการนำหลักการเรียนรู้สำหรับวัยผู้ใหญ่ (Adult learning) มาเป็นศาสตร์และศิลป์ในการช่วยให้ผู้สูงวัยได้เรียนรู้ โดยผู้ใหญ่จะมีการเรียนรู้ที่ต่างจากเด็ก 4 ประการ ได้แก่ 1) ความเข้าใจต่อตนเอง (Self-concept) 2) ประสบการณ์ (Experience) 3) ความพร้อมที่จะเรียนรู้ (Readiness to Learn) และ 4) เป้าหมายในการเรียนรู้ (Goal to Learning) เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงวัยมีการเรียนรู้ตลอดชีวิตและพัฒนาไปสู่การเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างยั่งยืนรายการ ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารความขัดแย้งกับประสิทธิผลของสถานศึกษา เครือข่ายการศึกษาสุนทรภู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต2(วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฎร้อยเอ็ด., 2563-08) ปนัดดา จันตุ่ย; สิรินธร สินจินดาวงศ์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการบริหารความขัดแย้งของสถานศึกษาเครือข่ายการศึกษาสุนทรภู่ 2) ระดับประสิทธิผลของสถานศึกษาเครือข่ายการศึกษาสุนทรภู่ และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารความขัดแย้ง กับประสิทธิผลของสถานศึกษาเครือข่ายการศึกษาสุนทรภู่ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสถานศึกษา เครือข่ายการศึกษาสุนทรภู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2 ปีการศึกษา 2560 จ านวน 131 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า 1) การบริหารความขัดแย้ง ในสถานศึกษาเครือข่ายการศึกษาสุนทรภู่ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( ค่าเฉลี่ย=3.38 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ,= 0.88) 2) ประสิทธิผลของสถานศึกษา เครือข่ายการศึกษาสุนทรภู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( ค่าเฉลี่ย=4.12 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน =0.52) 3) ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารความขัดแย้งกับประสิทธิผลของสถานศึกษาเครือข่ายการศึกษาสุนทรภู่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาระยอง เขต 2 โดยรวมมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อยู่ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01รายการ การพัฒนาสถานศึกษาสู่องค์กรนวัตกรรม กรณีศึกษา: โรงเรียนในสหวิทยาเขตวิภาวดี(การประชุมนำเสนอผลงานวิจัยบัณฑิตศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 15 ปีการศึกษา 2563, 2563-08-13) จักภัทสรัณย์ ไตรรัตน์; สิรินธร สินจินดาวงศ์การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวโน้ม ทิศทางในการพัฒนาสถานศึกษาในสหวิทยาเขตวิภาวดีสู่ องค์กรนวัตกรรม เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผู้ให้ข้อมูลคือผู้อํานวยการ และรองผู้อํานวยการ โรงเรียนในสหวิทยาเขตวิภาวดี สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต2 ได้แก่ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบํารุง โรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา และโรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) และ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ๒ โรงเรียนละ ๒ คน รวมจํานวน 10 คน ด้วยวิธีการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-Structure Interview) ผลการวิจัย พบว่า องค์กรของผู้ให้ข้อมูลมีแนวโน้ม ทิศทางในการพัฒนาสถานศึกษาในสหวิทยาเขตวิภาวดี สู่องค์กรนวัตกรรม ดังนี้ โดยผู้บริหารกําหนดวิสัยทัศน์ขององค์กรในด้านนวัตกรรม สนับสนุนในการสร้างนวัตกรรม อย่างจริงจัง ปลูกฝังให้บุคลากรทุกคนมีทัศนคติที่ดีต่อนวัตกรรม สร้างทีมงานที่มีความคิดสร้างสรรค์ แสวงหาความรู้ ใหม่ ๆ อยู่เสมอ รักการทํางานเป็นทีมและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกัน นําไปสู่การนํานวัตกรรมมาใช้ในการ ปรับปรุงจุดด้อยและพัฒนาจุดเด่นขององค์กร และผู้บริหารควรจูงใจให้บุคลากรดําเนินงานด้านนวัตกรรม โดยให้ รางวัลหรือยกย่องผู้ที่ปฏิบัติสําเร็จรายการ A Study of Students’ Achievement in Teaching Chinese Vocabulary for Thai Students Using Teaching Media(2563-08-23) Xuelian Gong; Waraporn ThaimaThe research is mainly conducted for two aspects :1) to study the students’ activities in teaching Chinese vocabulary, and 2)to compare the students' achievement before and after teaching Chinese vocabulary.The teaching media is used in this paper mainly refers to YouTube videos. The data were collected from 20 students in the Thanompitvittaya primary school. The students’ achievement based on the scores of pre-test and post-test of students.The statistics was used the mean, standard deviation, and P-value was used to compare the students’ achievement before and after teaching Chinese vocabulary. The results of the study found that: 1) the students' activities in Chinese vocabulary teaching are as follows: use Chinese flashcards, play game, sing a song by using music, and watch the video, and 2)the comparison results scores of Chinese vocabulary from students between pre-test and post-test, scores of post-test are higher than pre-test and statistical significant at a level of .01 (t= 6.608).รายการ The Suggestions for the Anxiety of College Students during Covid-19(2563-08-23) Hao Yu; Waraporn ThaimaThe purposes of this study were to: 1) to study the anxiety of college students during COVID-19, and 2) to give suggestions to alleviate the anxiety of students during COVID-19. The sample in this study was forty-three students from China Liuzhou Vocational and Technical School to learn about college students’ learning and living conditions and emotional reactions during COVID-19 through a questionnaire. This research was used frequency, percentage, reliability to obtain the corresponding data analysis results The results of this study found that: 1) whether the student has been diagnosed with COVID-19, and whether the student has been in contact with COVID-19 patients, will not cause anxiety. The longer the students study at home, the more likely they are to cause anxiety. The younger the student, the more likely to cause anxiety, and 2) the results of this study reveal that real events have little effect on anxiety, and the importance of correct cognition and relaxation training to mental health, and also this study understands the anxiety of college students during COVID-19, and gives effective suggestions from the World Health Organization (WHO) according to each situation.