GRA-09. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท
URI ถาวรสำหรับคอลเล็กชันนี้
เรียกดู
กำลังเรียกดู GRA-09. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท โดย วันที่ออก
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 20 ของ 53
ผลลัพธ์ต่อหน้า
ตัวเลือกเรียงลำดับ
รายการ ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเตรียมทหาร(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2552) อัญพัชร์ ปิยะวิชิตศักดิ์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนเตรียมทหาร และเพื่อสร้างสมการพยากรณ์ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 225 นาย เลือกแบบแบ่งชั้นภูมิ (Statified random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม จำนวน 143 ข้อ หาค่าความเชื่อมั่นใช้ a – Coefficient ของครอนบาค มีค่าทั้งฉบับ้ท่ากับ 0.892 และ ค่าความเที่ยงตรง (Validity) โดยหาค่า IOC มีค่าเท่ากับ 0.8973รายการ ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการทำงานของครูกลุ่มโรงเรียนในเครือไทย-เทค(2554) กอบแก้ว จันทาการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจัยจูงใจ ปัจจัยค่ำจุน และพฤติกรรมการทำงานของครู รวมทั้งหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยจูงใจ และปัจจัยค่ำจุนรายการ คุณลักษณะบางประการและปัจจัยที่สัมพันธ์ต่อการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต 1(2554) กรชวัล หุนตระณีการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ปัจจัยส่วนบุคคล ภาวะผู้นำการตัดสินใจและเทคนิคการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานที่มีความสัมพันธ์ต่อการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษารายการ การวางแผนการใช้งานระบบปรับอากาศสำหรับห้องบรรยายของมหาวิทยาลัยศรีปทุม กรณีศึกษา : อาคาร ดร.สุข พุคยาภรณ์(2555) ธิติวัฒน์ ศรุติรัตน์วรากุลการวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบการใช้พลังงานไฟฟ้าระหว่างการกำหนดบรรยายเป็นห้องควบคุม ซึ่งจะมีการใช้งานระบบปรับอากาศตามปกติและกำหนดเป็นห้องทดลองรายการ การศึกษาคุณภาพการบริการด้านโลจิสติกส์กับคุณภาพความสัมพันธ์ ระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์โดยบุคคลที่ 3 ด้านการขนส่ง กรณีศึกษา ผู้ส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย(Sripatum University, 2555) พัชชา วงศ์สวรรค์การศึกษาคุณภาพการบริการด้านโลจิสติกส์กับคุณภาพความสัมพันธ์ ระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์โดยบุคคลที่ 3 ด้านการขนส่ง กรณีศึกษา ผู้ส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและหาอิทธิพลของคุณภาพการบริการด้านโลจิสติกส์ กับคุณภาพความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์โดยบุคคลที่ 3 ด้านการขนส่ง โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการศึกษาวิจัยรายการ ความสัมพันธ์ของกิจกรรมแนวคิดลีนและปัจจัยความสำเร็จ : กรณีศึกษาอุตสาหกรรมยานยนต์(Sripatum University, 2556-06-15) อรอุมา แฝดกลางการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ของกิจกรรมแนวคิดลีนและปัจจัยความสำเร็จ : กรณีศึกษา อุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาหลักการแนวคิดลีนและกิจกรรมของแนวคิดลีน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการประยุกต์ใช้แนวคิดลีนในอุตสาหกรรมยานยนต์ และ 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของแนวคิดลีนและปัจจัยความสำเร็จในอุตสาหกรรมยานยนต์รายการ ตัวแปรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ e-Learning สำหรับนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน เครือไทย-เทค(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2557) รังษิณี คอทองการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพ e-Learning และ 2) เพื่อวิเคราะห์ตัวแปรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพ e-Learning ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนเครือ ไทย-เทค ประชากรของการศึกษา คือ นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนเครือ ไทย-เทค ปีการศึกษา 2558 กลุ่มตัวอย่างถูกเลือกแบบมีระบบจำนวน 313 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม ข้อมูลถูกวิเคราะห์และนำเสนอด้วยค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นต้นรายการ การศึกษาเหตุผลจูงใจและความคาดหวังของผุ้ปกครองในการส่งนักเรียนเข้าศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในเครือไทย-เทค(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2557) ศุภฤกษ์ ศรีชะฎาการศึกษาวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาเหตุจูงใจและความคาดหวังของผู้ปกครองในการส่งนักเรียนเข้าศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในเครือ ไทย-เทค และเพื่อนำเสนอแนวทางการบริหารจัดการในการส่งเสริมให้ผู้ปกครองส่งนักเรียนเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในเครือ ไทย-เทค กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ปกครองนักเรียนอาชีวศึกษาเอกชนในเครือ ไทย-เทค ปีการศึกษา 2558 จำนวน 320 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถามและวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ดปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปทางสถิติ โดยสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานรายการ การศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลตอการดำเนินงานของผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ในเขตพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2557) ชลธิชา สุภาพการศึกษาเรื่อง “การศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการดำเนินงานของผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิก ในเขตพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย” วัตถุประสงค์ของการวิจัยในครั้งนี้ เพื่อศึกษาผลการดำเนินงานของผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกในเขตพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย จำแนกตามลักษณะของสถานประกอบการ และเพื่อศีกษาปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์เซรามิกในเขตพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้วิธีสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) สำรวจข้อมูลโดยใช้วิธีการส่งไปรษณีย์ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ และด้วยตนเอง โดยใช้สถิติการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติอ้างอิง ได้แก่ One-Way ANOVA, Correlation Analysis และ Multiple Regression Analysisรายการ การศึกษาการบริหารงานวิชาการที่มุ่งเน้นคุณภาพของโรงเรียนประชานิเวศน์(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) นงค์นุช วงศ์เหง้าการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการบริหารงานวิชาการที่มุ่งเน้นคุณภาพของโรงเรียนประชานิเวศน์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร มีผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน (Ordinary National Education Test –ONET) ผ่านทั้ง 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ประจำปีการศึกษา 2558 มีจำนวนหนึ่งโรงเรียน คือ โรงเรียนประชานิเวศน์ เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร การดำเนินการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) วิธีการวิจัยใช้รูปแบบการศึกษาเฉพาะกรณี (Case study method) โดยการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง (Structural Interviewing Guidelines) ผู้ให้ข้อมูลในการวิจัย รวมทั้งสิ้น 7 คน คือ ผู้บริหารโรงเรียน รองผู้บริหารฝ่ายวิชาการ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย แบบสัมภาษณ์ การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ โดยนำมาวิเคราะห์เชิงเนื้อหา และนำเสนอผลการวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการบรรยายรายการ ผลของความรู้และเจตคติของบุคลากรที่มีต่อการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในเครือไทย-เทค(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) นงลักษณ์ ตระกูลวงศ์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาของบุคลากร (2) เพื่อศึกษาความรู้และเจตคติของบุคลากรเกี่ยวกับการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษา และ (3) เพื่อศึกษาความรู้และเจตคติของบุคลากรเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษาของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในเครือไทย-เทค การวิจัยนี้รวบรวมข้อมูลจากประชากร (Census) คือ ผู้บริหาร ครู และเจ้าหน้าที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนในเครือไทย-เทค ปีการศึกษา 2558 จำนวน 298 คน ด้วยแบบสอบถาม วิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลด้วยค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Regression Analysis)รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างการประกันคุณภาพและการขับเคลื่อนสถานศึกษาสู่ประชาคมอาเซียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) สุประวีณ์ ทิพย์โพธิ์การวิจัยครั้งนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการประกันคุณภาพกับการขับเคลื่อนสถานศึกษาสู่ประชาคมอาเซียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้มาโดยวิธีเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Selection) ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียนกลุ่มบริหารงานวิชาการ และหัวหน้างานประกันคุณภาพหรือครูผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพ ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 จำนวน 67 โรงเรียน รวมทั้งสิ้น 201 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม 2 แบบ ได้แก่ แบบสอบถามปลายปิด และแบบสอบถามปลายเปิด แบบมาตรวัดประเมินค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันรายการ เหตุจูงใจการเลือกศึกษาต่อระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของนักศึกษากลุ่มวิทยาลัยในเครือไทย-เทค(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) เอื้อมพร ชุ่มสีดาการศึกษาวิจัยเรื่อง เหตุจูงใจการเลือกศึกษาต่อระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงของนักศึกษากลุ่มวิทยาลัยในเครือไทย-เทค มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาเหตุจูงใจเลือกศึกษาต่อของนักศึกษากลุ่มวิทยาลัยในเครือไทย-เทค 2) เปรียบเทียบเหตุจูงใจการเลือกศึกษาต่อของนักศึกษากลุ่มวิทยาลัยในเครือไทย-เทค จำแนกตามข้อมูลพื้นฐาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักศึกษากลุ่มวิทยาลัยในเครือไทย-เทค ในเขตกรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา 2558 ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงปีที่ 1 สุ่มตัวอย่างง่าย (Simple random sampling) ได้จำนวน 400 คน ระยะในการดำเนินการวิจัยตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2558-มิถุนายน 2559 เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละและการทดสอบค่า F-Testรายการ การศึกษาการประกันคุณภาพการศึกษา ของวิทยาลัยอาชีวศึกษา กลุ่มสถานศึกษาภาคกลาง ที่ผ่านการประเมินคุณภาพภายนอกในระดับดีมาก(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) สายพิณ จำเดิมการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการประกันคุณภาพการศึกษาของวิทยาลัยอาชีวศึกษา กลุ่มสถานศึกษาภาคกลาง ที่ผ่านการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามในระดับดีมาก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ผู้ให้ข้อมูลในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษา 5 คน และครูที่ทำหน้าที่หัวหน้างานประกันคุณภาพ 2 คน วิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรี และวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี ประจำปีการศึกษา 2558 ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจงเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) การสังเกต สนทนาพูดคุย ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา 1) มาตรฐานด้านผลการจัดการศึกษา 2) มาตรฐานการบริหารจัดการศึกษา 3) มาตรฐานการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4) มาตรฐานการประกันคุณภาพภายใน รวบรวมข้อมูลที่ได้นำมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา (Content analysis) และนำมาตีความหมาย หลังจากนั้นนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย การสรุป บรรยายรายการ ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำทางวิชาการกับการบริหารจัดการการเรียนการสอนภาษาจีนของโรงเรียนเอกชนที่เน้นการสอนภาษาจีนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) ดลทิตยา รัตนสาขาการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาภาวะผู้นำทางวิชาการและการบริหารจัดการโรงเรียนเอกชนที่เน้นการสอนภาษาจีน และ (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำทางวิชาการ กับการบริหารจัดการโรงเรียนเอกชนที่เน้นการสอนภาษาจีน กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหาร ครูสอนภาษาจีนและครูผู้สอน โรงเรียนเอกชนที่เน้นการสอนภาษาจีน จำนวน 170 คน โดยกำหนดกลุ่มตัวอย่างจากการเทียบตารางของ Krekcie and Morgan และการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย โดยใช้แบบสอบถามที่ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพด้านความตรงเชิงเนื้อหา การใช้ภาษา โดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีเกณฑ์ในการตัดสินเลือกเฉพาะข้อคำถามที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง ที่คำนวณได้เท่ากับ 0.87 และนำแบบสอบถามไปทดสอบใช้กับ ผู้บริหาร ครูสอนภาษาจีน และครูผู้สอน ในโรงเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง เพื่อหาความเชื่อมั่น โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปความเที่ยงของแบบสอบถามที่ยอมรับได้มีเท่ากับ 0.80รายการ การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นของบทบาทผู้บริหารโรงเรียนนำร่องตามนโยบาย "ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้" สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2558) สะนิ แกละมงคลการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 2 ข้อ (1) เพื่อศึกษาบทบาทผู้บริหารโรงเรียนนำร่องตามนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร และ (2) เพื่อวิเคราะห์ความต้องการจำเป็นในการบริหารโรงเรียนตามนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ของผู้บริหารโรงเรียนนำร่อง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร ประชากรในการวิจัย คือ ผู้บริหารโรงเรียนนำร่องที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 145 คน จาก 29 โรงเรียน ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตัวเอง การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติเชิงบรรยาย ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์แสดงความต้องการจำเป้นโดยใช้ Priority Needs Index (PNI) การวิเคราะหืข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหารายการ ความสัมพันธ์ของการบริหารคุณภาพโดยองค์รวมกับการจัดการภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยงานในศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร(หลักสูตร รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560) สุพัตรา คงแจงการวิจัยครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อ 1.ศึกษาการจัดการภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยราชการในศูนย์ราชการ จังหวัดชุมพร 2.ศึกษาการบริหารคุณภาพโดยองค์รวมของหน่วยราชการในศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร 3.เปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลากรหน่วยราชการในศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร ต่อการจัดการภาพลักษณ์ที่ดี 4.ศึกษาความสัมพันธ์ของการบริหารคุณภาพโดยองค์รวมกับการจัดการภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยงานในศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ พนักงานราชการที่ทำงานในศูนย์ราชการ จ.ชุมพร จำนวน 302 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติในการวิเคราะห์ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติ t-test ค่า F-test และค่าสัมประสิทธ์สหสัมพันธ์ในการทดสอบสมมติฐานรายการ สภาพปัจจุบันและความต้องการฝึกอบรมของข้าราชการประเภทวิชาการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีภายใต้บริบทของประชาคมอาเซียน(หลักสูตร รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560) อัชณัฐ หมวกน่วมการวิจัยเรื่อง สภาพปัจจุบันและความต้องการฝึกอบรมของข้าราชการประเภทวิชาการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี : ภายใต้บริบทของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาลักษณะการฝึกอบรมของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 2. เปรียบเทียบสภาพปัจจุบันและความต้องการฝึกอบรมของข้าราชการประเภทวิชาการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 3. เปรียบเทียบความต้องการฝึกอบรมของข้าราชการประเภทวิชาการจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 4. เสนอแนวทางการฝึกอบรมให้กับข้าราชการประเภทวิชาการของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ ผู้เชี่ยวชาญและทรงคุณวุฒิ ระดับชำนาญการพิเศษ ระดับชำนาญการ ระดับปฏิบัติการ จำนวน 127 รายรายการ ปัจจัยคุณภาพชีวิตการทำงาน บรรยากาศองค์การ และความผูกพันต่อองค์การ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การ ของบุคลากรในบริษัท เมืองโบราณ จำกัด(หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560) ธีรวีร์ รุจพงษ์จันทร์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ อายุงาน สถานภาพสมรส รายได้ ระดับการศึกษา และตำแหน่งงาน ที่ส่งผลการต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์การของบุคลากรบริษัท เมืองโบราณ จำกัด 2) เพื่อศึกษาคุณภาพชีวิตการทำงาน บรรยากาศองค์การ และความผูกพันต่อองค์การ ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์การของบุคลากร บริษัท เมืองโบราณ จำกัด ใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่บุคลากรของบริษัท เมืองโบราณ จำกัด จำนวน 677 คน คำนวณหาขนาดของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของ Yamane ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่างจำนวน 251 คน สถิติที่ใช้ได้แก่ สถิติเชิงพรรณนา ค่าร้อยละ การแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติวิเคราะห์เชิงอนุมาน t- test , F-test และสมการถดถอยชนิดตัวแปรหลายตัว ผลการศึกษาพบว่า 1) ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ อายุงาน สถานภาพ รายได้ ระดับการศึกษา และตำแหน่งงานไม่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีของบุคลากร บริษัท เมืองโบราณ จำกัด 2) ปัจจัยคุณภาพชีวิตการทำงาน บรรยากาศองค์การ และความผูกพันต่อองค์การ ส่งผลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีของบุคลากร บริษัท เมืองโบราณ จำกัด อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 The objectives of this research were 1) to investigate the personal characteristics affecting organizational citizenship behavior of the employees in Ancient City company limited 2) to investigate the quality of work life, organizational climate and organizational commitment affecting organizational citizenship behavior of the employees in Ancient City company limited. The populations were 677 employees from operation to executive level. The samples were 251 employees using Yamane the calculation of the 95 percent confidence level. Statistics for data analysis were percentage, frequency, mean, standard division, independent sample t-test, F-test, and multiple regression analysis. The research results revealed that 1) The personal characteristics including gender, age, years of employment, marriage status, income, educational level, and job position has no different influence on organizational citizenship behavior of the employees in Ancient City company limited at the 0.05 level. 2) The quality of work life, organizational climate, and organizational commitment significantly influence on the organizational citizenship behavior of the employees in Ancient City company limited at the level of 0.05.รายการ ธรรมาภิบาล วัฒนธรรมองค์การ กับประสิทธิผลองค์การ ของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(หลักสูตร ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2560) ศรีสกุล เจริญศรีการศึกษาวิจัยเรื่อง “ธรรมาภิบาล วัฒนธรรมองค์การ กับประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับปัจจัย ธรรมาภิบาล ระดับปัจจัยวัฒนธรรมองค์การ และระดับประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยธรรมาภิบาล ปัจจัยวัฒนธรรมองค์การ และปัจจัยประสิทธิผลองค์การ ของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ศึกษาปัจจัยธรรมาภิบาล และปัจจัยวัฒนธรรมองค์การที่ร่วมกันทำนายประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะที่ส่งผลต่อประสิทธิผลองค์การของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
- «
- 1 (current)
- 2
- 3
- »