CLS-11. การค้นคว้าอิสระ/สารนิพนธ์
URI ถาวรสำหรับคอลเล็กชันนี้
เรียกดู
กำลังเรียกดู CLS-11. การค้นคว้าอิสระ/สารนิพนธ์ โดย ชื่อ
ตอนนี้กำลังแสดง1 - 20 ของ 36
ผลลัพธ์ต่อหน้า
ตัวเลือกเรียงลำดับ
รายการ การจัดการเส้นทางโลจิสติกส์ท่องเที่ยวเพื่อเดินทางสู่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2563) วริศา ขาวสอาดการค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์ศึกษาปัญหาและอุปสรรคการเดินทางท่องเที่ยวเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ และเพื่อศึกษาการจัดการเส้นทางโลจิสติกส์ท่องเที่ยวเพื่อเดินทางสู่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในอำเภอเขาค้อและเจ้าหน้าที่จากสำนักส่งเสริมการท่องเที่ยว จังหวัดเพชรบูรณ์ อีกทั้งการศึกษาจากเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า 1. นักท่องเที่ยวมีปัญหาอุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยวเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยที่นักท่องเที่ยวไม่ทราบข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์โดยขนส่งสาธารณะ ได้แก่ การเดินทางโดยรถทัวร์โดยสาร และเครื่องบิน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับตารางเวลาเดินทาง ค่าใช้จ่าย และวิธีการเดินทาง เป็นต้น 2. การจัดการเส้นทางโลจิสติกส์ท่องเที่ยวเพื่อเดินทางสู่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์นักท่องเที่ยวสามารถมีทางเลือกในการเดินทางไปยังเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยขนส่งสาธารณะ ทั้งรถทัวร์โดยสาร และเครื่องบิน ซึ่งการเดินทางโดยรถทัวร์ขนส่งสาธารณะที่ใช้เวลาเดินทางถึง 8.48 ชั่วโมง และมีค่าใช้จ่ายเพียง 482 บาท และการเดินทางโดยเครื่องบินที่ใช้เวลาเดินทางเพียง 2.78 ชั่วโมง และมีค่าใช้จ่ายถึง 1,039 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถนำข้อมูลไปพิจารณาทางเลือกเพื่อใช้ในการวางแผนในการเดินทางท่องเที่ยวเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรายการ การจัดการโซ่อุปทานการท่องเที่ยวเกาะลันตา จังหวัดกระบี่(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2563) สุรเดช แก้วมรกตการศึกษาวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อองค์ประกอบของการจัดการโซ่อุปทานการท่องเที่ยวเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ และเพื่อเสนอแนวทางการจัดการโซ่อุปทาน เพื่อยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยวิธีการสำรวจ (Survey Research) แบบเก็บข้อมูลช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง (Cross - Sectional Study) ใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยให้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ตอบแบบสอบถามด้วยตัวเอง (Self - Administered Questionnaire) จำนวน 400 ตัวอย่างรายการ การตัดสินใจคัดเลือกซัพพลายเออร์ด้วยเทคนิควิธีการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้น กรณีศึกษา ร้านรักษณีย์นวดไทยและสปา(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) พัทชา มากสมบูรณ์การค้นคว้าอิสระฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ใช้ในการคัดเลือกซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมที่สุดของร้านรักษณีย์นวดไทยและสปาและเพื่อพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจคัดเลือกซัพพลายเออร์ของร้านรักษณีย์นวดไทยและสปา การดำเนินงานวิจัยครั้งนี้รวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากเจ้าของกิจการร้านรักษณีย์นวดไทยและสปาและนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าน้ำหนัก ความสำคัญของปัจจัยและทางเลือกโดยใช้เทคนิควิธีการวิเคราะห์เชิงลำดับชั้น (Analytic Hierarchy Process: AHP) และนำผลการวิเคราะห์ที่ได้มาพัฒนาระบบสนับสนุนการตัดสินใจ (Decision Support System: DSS) ด้วยโปรแกรม Microsoft Excel ในการสร้างฐานข้อมูลซัพพลายเออร์ในการวิเคราะห์หาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมของกิจการรายการ การนำเข้าหม้อไอน้ำสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร กรณีศึกษา : ผู้ผลิตอาหารแปรรูป(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2563) สวัสดิ์ชัย สุพลดีการวิจัยเรื่อง การนำเข้าหม้อไอน้ำสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร วัตถุประสงค์ 1.เพื่อวิเคราะห์มูลค่าเทียบเท่าปัจจุบัน 2.เพื่อวิเคราะห์การใช้งานในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร และ 3.เพื่อคัดเลือกหม้อไอน้ำที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต่ำที่สุด ในการลงทุนเลือกซื้อหม้อไอน้ำของโรงงานอุตสาหกรรมที่ประกอบธุรกิจในการผลิตและแปรรูปอาหาร หม้อไอน้ำที่ใช้กันในโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะเป็นขนาดเล็กประมาณ 1-2 ตัน ซึ่งเป็นหม้อไอน้ำชนิดท่อไฟ เป็นขนาดเล็กใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย การดูแลบำรุงรักษาง่าย และเชื้อเพลิงที่ใช้กันก็จะเป็น น้ำมันเตา แก๊สธรรมชาติ และแก๊สแอลพีจี ซึ่งก็หาได้ง่ายภายในประเทศ ดังนั้นการจะเลือกลงทุนซื้อหม้อไอน้ำควรทำการวิเคระห์มูลค่าเทียบเท่าปัจจุบัน เพื่อเปรียบเทียบดูหม้อไอน้ำว่าจะเลือกลงทุนหม้อไอน้ำ ขนาดเท่าไหร่เพื่อให้ได้หม้อไอน้ำที่มีประสิทธิภาพ และประหยัดเชื้อเพลิงเหมาะสำหรับใช้งานกับอุตสาหกรรมการผลิตอาหารรายการ การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดส่งเลือดสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2563) กมลวรรธน์ อโนมากุลการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งเลือดด่วนสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยลดระยะเวลาการจัดส่งเลือดด่วน โดยใช้แนวคิดลีน (LEAN) ร่วมกับ Flow Process Chart และการวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา (RCA : Root Cause Analysis) แล้วนำหลักการลดความสูญเสีย (ECRS) มาประยุกต์ใช้เพื่อสามารถนำส่งเลือดด่วนได้ทันเวลาที่กำหนด จากการวิเคราะห์สาเหตุของปัญหาพบปัญหาที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1) กระบวนการจัดส่งเลือดมีขั้นตอนซับซ้อนหลายขั้นตอน 2) การขาดการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ และ 3) โครงสร้างของอาคารสถานที่มีข้อจำกัด ทำให้กระบวนการจัดส่งเลือดมีความล่าช้า จากนั้นใช้แนวคิดลีน เข้ามาปรับปรุงกระบวนการโดยสามารถลดเวลาในการจัดส่งเลือดด่วนก่อนการปรับปรุงเฉลี่ย 129 นาที ระยะทางเฉลี่ย 403.57 เมตร โดยมีกระบวนการทั้งหมด 24 ขั้นตอน หลังปรับปรุงกระบวนการแล้วพบว่า ใช้เวลาในการจัดส่งเลือดด่วนเฉลี่ย 109 นาที สามารถลดเวลาในการจัดส่งเลือดด่วนได้ 20 นาที ใช้ระยะทางในการจัดส่งเลือดด่วนเฉลี่ย 403.57 เมตร สามารถลดระยะทางในการจัดส่งเลือดด่วนได้ 4 เมตร โดยมีกระบวนการลดลง 1 ขั้นตอน โดยทำให้ไม่มีขั้นตอนของการรอคอยในกระบวนการ ทั้งนี้เนื่องจากเมื่อปรับกระบวนการทำงานแล้วขั้นตอนการรอคอยถูกปรับปรุงเป็นขั้นตอนการทำงานในกระบวนการแทนรายการ การพยากรณ์ความต้องการแว่นตา กรณีศึกษา : ร้านรักแว่น(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) อนุสรณ์ บุญสง่าปัจจุบันธุรกิจร้านแว่นตามีการแข่งขันทางธุรกิจที่สูง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านค้าทั่วไป ที่มีหลากหลายยี่ห้อและหลายรูปแบบ ปัจจัยที่สำคัญของร้านแว่นตา คือการบริหารต้นทุนของสินค้า จึงจำเป็นจะต้องแก้ไขจุดอ่อนของธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน ซึ่งการค้นคว้าอิสระนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อพยากรณ์การสั่งซื้อสินค้าของร้านรักแว่น และหาแนวทางแก้ไขปัญหาสินค้าเคลื่อนไหวช้าและไม่มีการเคลื่อนไหว โดยเก็บรวบรวมข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2558 จนถึง เดือนธันวาคม พ.ศ. 2559 และนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์เปรียบเทียบวิธีหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ วิธีหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบถ่วงน้ำหนัก วิธีปรับเรียบแบบเอ็กซ์โพเนนเชียลแบบง่าย การวิเคราะห์สมการถดถอย การพยากรณ์นาอีฟ และวิธีแยกส่วนประกอบ เพื่อหาตัวแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการพยากรณ์และคำนวณหายอดสั่งซื้อแว่นสายตาที่ใกล้เคียงกับความต้องการจริง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้พบว่า การพยากรณ์วิธีแยกส่วนประกอบได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงมากกว่าการพยากรณ์รูปแบบอื่น โดยมีค่า MAD , MSE และ MAPE ต่ำสุด คือ Rayban เท่ากับร้อยละ 1.34, 2.34 และ 52.63 ตามลำดับ LEVI’S เท่ากับร้อยละ 2.15, 6.20 และ 33.70 ตามลำดับ และ Frank Custom เท่ากับร้อยละ 4.40, 27.47 และ 25.85 ตามลำดับ นอกจากการพยากรณ์ด้วยวิธีแยกส่วนประกอบ จะเหมาะสมกับการพยากรณ์ยอดขายยังสามารถใช้ในการวางแผนการบริหารสินค้าคงคลังในธุรกิจร้านแว่น รวมถึงธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ เช่นกันรายการ การพัฒนาระบบมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q-MARK) กรณีศึกษา : บริษัท ดาวตะวันออก จำกัด(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) กวิน พินสาราญการวิจัยเรื่อง การพัฒนาระบบมาตรฐานคุณภาพบริการขนส่งด้วยรถบรรทุก (Q-MARK) กรณีศึกษา บริษัท ดาวตะวันออก จำกัด ซึ่งเป็นการออกแบบและจัดทำระบบมาตรฐานฯ ตามข้อกำหนด โดยมีการเก็บรวบรวมข้อมูล จากการศึกษาความพร้อมเบื้องต้นตามข้อกำหนดมาตรฐานฯ ของบริษัทฯแล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาระบบฯ จากนั้นดำเนินการพัฒนาระบบฯ และนำมาสรุปผลการพัฒนาระบบฯ จากการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่ทำให้การพัฒนาระบบสำเร็จมาก คือ การที่ผู้บริหารให้ความสำคัญและสนับสนุนการพัฒนาระบบมาตรฐานคุณภาพเป็นอย่างมาก มีการจัดการคุณภาพที่เหมาะสม ส่วนผลที่ได้จากการพัฒนาระบบ คือ จากเดิมก่อนพัฒนาระบบฯบริษัทค่อนข้างมีจุดอ่อนในด้านองค์กร ด้านพนักงานและด้านพาหนะ ที่มีความพร้อมเพียงร้อยละ 25 ร้อยละ 8.3 และร้อยละ 33.3 ตามลำดับโดยภาพรวมความพร้อมทั้ง 5 ด้านมีอยู่เพียงร้อยละ 32 ซึ่งหลังการพัฒนาระบบฯส่งผลให้มีความพร้อมที่เพิ่มขึ้นในด้านองค์กร ที่ร้อยละ 87.5 ด้านพนักงานและด้านยานพาหนะที่มีความสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยภาพรวมความพร้อมทั้ง 5 ด้าน เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 97.5 ส่งผลให้ภาพพจน์ของบริษัทดีขึ้น ทาให้ความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้นและมีข้อได้เปรียบคู่แข่งเพิ่มขึ้นการทางานมีระบบระเบียบมากขึ้น พนักงานมีคุณภาพมากขึ้นและพนักงานได้รับการสนับสนุนให้มีการฝึกอบรมมากขึ้น จึงทำให้การทำงานของบริษัทฯมีประสิทธิภาพมากขึ้นรายการ การพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับการจัดการขนส่งสินค้า กรณีศึกษา : บริษัทผู้ให้บริการด้านธุรกิจขนส่งสินค้า(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) วัชรพล สิงหะเนติงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาวิเคราะห์ปัญหาการบริหารจัดการวางแผนการขนส่งสินค้า และพัฒนาระบบบริหารการจัดการขนส่ง (TMS) เพื่อลดระยะเวลาในการวางแผนการขนส่ง ลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็น และลดข้อผิดพลาดในการทำงานต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น โดยผู้วิจัยได้ทำการศึกษาในภาพรวมของการบริหารจัดการขนส่งสินค้า พร้อมทั้งเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของบริษัทกรณีศึกษา นำไปทำการวิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาระบบ TMS จากนั้นจึงนำผลที่ได้มาทำการเปรียบเทียบก่อนและหลังการนำระบบ TMS มาใช้ซึ่งผลการวิจัยพบว่าจากการปรับปรุงกระบวนการทำงาน และการนำระบบ TMS มาใช้สามารถลดกระบวนการทำงานที่ไม่จำเป็นออกได้ และทำการเพิ่มกระบวนการทำงานที่จำเป็นเข้าไปแทน โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงาน ซึ่งขั้นตอนในการทำงานแบบเดิมมีทั้งหมด 13 ขั้นตอน ส่วนขั้นตอนในการทำงานแบบปรับปรุงมีทั้งหมด 12 ขั้นตอน ลดลงมา 1 ขั้นตอน ในส่วนของระยะเวลาในการทำงาน การทำงานแบบเดิมใช้เวลาทั้งหมด 1025 นาที และการทำงานแบบปรับปรุงใช้เวลาทั้งหมด 965 นาที ลดระยะเวลาลงมา 60 นาที คิดเป็นร้อยละ 5.85รายการ การพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับการจัดการคลังสินค้าแบบ REAL TIME กรณีศึกษา : ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) อัศนีย์ หมอยาการวิจัยนี่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับการจัดการคลังสินค้าแบบ Real time และนำระบบระบบสารสนเทศฯ ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในกรณีศึกษาธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ โดยปรับปรุงกระบวนการให้ข้อมูลการเติมสินค้า และสามารถแจ้งวันจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า จากโรงงานผู้ผลิตไปยังฝ่ายขาย โดยการนำหลักการ ECRS มาช่วยในการวิเคราะห์ลดความสูญเปล่า และการพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับการจัดการคลังสินค้าแบบ Real time จากการศึกษาพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก สองสาเหตุคือ ลูกค้าไม่ทราบวันที่จะได้รับสินค้าที่แน่นอน และลูกค้าไม่ทราบแผนการเติมสินค้าในอนาคตเพื่อทำการสั่งซื้อซ้ำ จากการปรับปรุงด้วยเทคนิค ECRS และการพัฒนาระบบสารสนเทศสำหรับการจัดการคลังสินค้าแบบ Real time ที่สามารถรวบรวมข้อมูล จากส่วนงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ แผนการขายรายเดือนรายผลิตภัณฑ์ จำนวนสินค้าจริงคงเหลือรายผลิตภัณฑ์ แผนการเติมเต็มสินค้าจากปัจจุบันถึงสิ้นเดือนหรืออย่างน้อย 15 วัน มาทำการแสดงผลให้กับฝ่ายขายและทุกหน่วยงานให้สามารถดำเนินการกับคำสั่งซื้อของลูกค้า และให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการเติมสินค้ากับลูกค้าได้ถูกต้องแม่นยำ และน่าเชื่อถือ จากผลการดำเนินการดังกล่าวสามารถลดขั้นตอนการทำงานได้ 3 ขั้นตอน เป็นเวลา 4,410 นาที Iรายการ การพัฒนาสมรรถนะของพนักงานขับรถขนส่ง ตามหลัก 7R กรณีศึกษา: กลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้า(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2563) สุพพัต อิสราศิวกุลการศึกษาค้นคว้าอิสระเล่มนี้เกิดจากการหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการปัญหาได้รับข้อร้องเรียนจากลูกค้าอันเนื่องจากการตรวจเช็ครับงานผิดพลาดทั้งงานรับงานมาไม่ครบ การปฏิบัติงานที่ไม่ปลอดภัย งานเสียหาย อุบัติเหตุในการทำงาน และการขับรถ รวมไปถึงเรื่องการส่งมอบผลิตภัณฑ์ไม่ตรงตามเวลาที่ลูกค้ากำหนด มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยเพื่อศึกษาและประเมินระดับความสามารถของพนักงานขับรถขนส่งใน Fleet บริษัท ABC จำกัด จัดกลุ่มระดับความยากง่ายในการทำงานของแต่ละ Customer ของลูกค้า และเพื่อจัดพนักงานขับรถขนส่งสินค้าให้ได้ทำงานกับ Customer ที่ถูกจัดกลุ่มไว้แล้ว ตามระดับความสามารถ โดยผู้วิจัยได้เลือกวิธีการประเมินระดับความสามารถของพนักงานขับรถขนส่งตามหลักการของ 7R Logistic เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการเลือกงานที่เหมาะสมกับระดับความสามารถนั้น โดยในส่วนของงานแต่ละ Customer นั้นจะใช้วิธีการประเมินจัดกลุ่มระดับความยากง่ายของแต่ละงาน เพื่อทำการจัดกลุ่มระหว่างของความสามารถของพนักงานขับรถขนส่งกับระดับความยากง่ายของงาน ด้วยวิธีการจัดลำดับ (Ranking) ซึ่งจากการศึกษาจัดกลุ่มและได้นำผลจากการจัดกลุ่มไปใช้จริง โดยได้จัดพนักงานขับรถขนส่งอยู่ในลำดับต่างๆ ไปปฏิบัติงานกับลูกค้าตามกลุ่มที่จัดเอาไว้ ผลที่ได้รับพบว่า ในปี 2562 มีข้อร้องเรียกจากลูกค้าลดน้อยลงจากเดิม 4 เดือน (มกราคม – เมษายน) 81 เคส หรือโดยเฉลี่ยเดือนละ 20 เคส โดยหลังปรับปรุงในเดือนกรกฎาคม 2562 เหลือเพียง 3 เคส เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2562 ซึ่งเป็นเดือนล่าสุดที่เก็บข้อมูลพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วทั้งหมด 7 ลูกค้าลดลงร้อยละ 83 และเมื่อเทียบจากค่าเฉลี่ยใบเคลมของทั้ง 4 เดือนที่เก็บข้อมูล (มกราคม – เมษายน) ของลูกค้าทั้ง 7 ราย ลดลงร้อยละ 85รายการ การพัฒนาส่วนต่อขยายระบบรางในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2563) พัชรปรัตถ์ ขาวสอาดการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนาส่วนต่อขยายระบบรางในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ใช้แบบสัมภาษณ์ เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และ เจ้าหน้าที่จากสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรจังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งการศึกษาจากแอกสารและงาน วิจัยที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า 1. จังหวัดเชียงใหม่มีปัญหาเกี่ยวกับการจราจรหนาแน่น ก่อให้เกิดการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่จึงผุดโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด ในจุดที่มีการจราจรหนาแน่น ซึ่งประกอบด้วยโครงการรถไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ สายสีแดง สายสีเขียว และสายสีน้ำเงิน แต่ยังพบปัญหาเกี่ยวกับจุดเชื่อมต่อของสถานีรถไฟฟ้าไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น อำเภอสันกำแพง 2. แนวทางการพัฒนาส่วนต่อขยายระบบรางในจังหวัดเชียงใหม่ระหว่างจุดเชื่อมต่อห้าง สรรพสินค้าพรอมเมดา – อำเภอสันกำแพง ระยะทาง 10.9 กิโลเมตร และตั้งชื่อโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูประกอบด้วย 7 สถานี เริ่มต้นจากจุดเชื่อมต่อสถานีห้างสรรพสินค้าพรอมเมดา สถานีโรงแรมดาราเทวี สถานีบ้านศิลาดล สถานี M Sport Club สถานีอุตสาหกรรมทำมือบ่อสร้าง สถานีสวนน้ำ Water Park และสถานีช่วงสันกำแพงและพบจุดเชื่อมต่อสายสีเขียวสถานีท่าอากาศยานเชียงใหม่รายการ การลดความเสียหายจากกระบวนการขนส่งสินค้าปลาทะเลแช่แข็ง กรณีศึกษา ห้องเย็น ส.ทรัพย์สมุทร สาขา บุรีรัมย์(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) คุณานนท์ จงทองการศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่อง การลดความเสียหายจากกระบวนการขนส่งสินค้าปลาทะเลแช่แข็ง กรณีศึกษา ห้องเย็น ส.ทรัพย์สมุทร สาขา บุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการลดความเสียหายจากการขนส่งปลาทะเลแช่แข็ง จากการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยแผนผังก้างปลา พบสาเหตุสำคัญของความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการขนส่งที่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพสินค้า จากระยะเวลาในการศึกษารวบรวมข้อมูลในระยะเวลา 6 เดือน พบมูลค่าความเสียหายเป็นมูลค่า 171,650 บาท ดังนั้นผู้วิจัยจึงศึกษาหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ผลการวิเคราะห์หาแนวทางผู้วิจัยจึงเปรียบเทียบ 2 วิธีคือ การเสริมผนังกันความร้อนและการติดตั้งแอร์ ซึ่งทั้ง 2 วิธี ช่วยลดความเสียหายของสินค้าได้ 100% แต่การเสริมผนังกันความร้อนมีต้นทุนที่ต่ำกว่า ทำให้มีระยะเวลาในการคืนทุนที่เร็วกว่าอยู่ที่ 3 เดือน 24 ซึ่งคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจะคืนทุนอยู่ที่ 24-36 เดือน ดังนั้นการลงทุนในการปรับปรุงรถขนส่งครั้งนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพในการคืนทุนที่ดีมากเพราะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือน 24 วันรายการ การลดปัญหาสินค้าขาดมือด้วยเทคนิคการวางแผน การพยากรณ์และเติมเต็มสินค้าร่วมกัน กรณีศึกษา บริษัทนำเข้าและส่งออกอุปกรณ์ลำเลียงสินค้าอากาศยาน(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) ปณิดา เรือนนิลการลดปัญหาสินค้าขาดมือด้วยเทคนิคการวางแผนการพยากรณ์ และการเติมเต็มสินค้าร่วมกันของบริษัทกรณีศึกษา บริษัทนำเข้าและส่งออกอุปกรณ์ขนถ่ายสินค้าอากาศยานนั้น เป็นการศึกษาและนำเทคนิคดังกล่าวมาใช้เพื่อลดปัญหาสินค้าขาดมือ และเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการพยากรณ์ความต้องการสินค้าล่วงหน้า ให้มีแนวทางเพื่อสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันระหว่างบริษัทและซัพพลายเออร์ ทำให้เพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น จากการศึกษา ได้ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลการสั่งซื้อของลูกค้า เพื่อมาคำนวนหาค่าพยากรณ์ปริมาณการสั่งซื้อ โดยใช้การคำนวนโดยวิธีการหาค่าเฉลี่ยแบบ Moving Average และทำการเพิ่มค่า Safety Stock จำนวน 15% เพื่อนำค่าปริมาณการสั่งซื้อที่ได้นั้น นำมาใช้ในการวางแผน การพยากรณ์ และการเติมเต็มสินค้าร่วมกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการแบ่งปันข้อมูลต่างๆร่วมกัน ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด และทำให้เกิดการวางแผนการสั่งซื้อสินค้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดค่าเสียโอกาสในการขายสินค้า และในส่วนของลูกค้านั้น ทำให้บริษัทสามารถจัดส่งสินค้าได้ทันตามเวลา ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในบริษัทมากขึ้น และสามารถขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคตรายการ การลดระยะเวลาการเติมสินค้าหน้าชั้นวางโดยใช้ระบบคัมบัง กรณีศึกษา ธุรกิจค้าปลีก(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2565) กุสุมา ไชยโชติการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงกระบวนการเติมสินค้าบนชั้นวางของหาแนวทางการลดระยะเวลาเติมสินค้าบนชั้นวางสำหรับธุรกิจค้าปลีกโดยชะระบบคัมบัง โดยการนำหลักการ ECRS ช่วยในการวิเคราะห์ลดความสูญเปล่าและนำระบบคัมบัง มาช่วยในการเบิกสินค้าแบบทันเวลาพอดี จากการศึกษาพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากสองสาเหตุคือกระบวนการทำงานและโครงสร้างของอาคาร ผลที่ได้จากการปรับปรุงด้วยเทคนิค ECRS สามารถลดระยะเวลาการทำงานได้โดยเฉลี่ย 8.29 นาที โดยการเบิกสินค้ารอบบ่าย รอบเย็น รอบพิเศษ ก่อนปรับปรุงด้วยเทคนิค ECRS มีขั้นตอน 30 ขั้นตอน หลังปรับปรุงเหลือ 26 ขั้นตอน ระยะทางการเคลื่อนย้ายลดลงจาก 397.6 เมตร เป็น 397.4 เมตร รอบด่วนก่อนลูกค้าปรับปรุงมีขั้นตอน 23 ขั้นตอน หลังปรับปรุงพบว่าเหลือ 20 ขั้นตอน ระยะการเคลื่อนย้ายลดลงจาก 355.5 เมตร เป็น 352 เมตร กระบวนการทำงานที่ปรับปรุงโดยระบบคัมบัง สามารถลดระยะเวลาการทำงานได้โดยเฉลี่ย 42.04 นาที กิจกรรมการเบิกสินค้านอกระบบรอบบ่าย รอบเย็น รอบพิเศษ ก่อนปรับปรุงมี ขั้นตอน 30 ขั้นตอน หลังปรับปรุงด้วยระบบคัมบัง Kanban พบว่าเหลือ 12 ขั้นตอน ระยะทางการเคลื่อนย้ายเพิ่มขึ้นจาก 397.6 เมตร เป็น 449.7 เมตร รอบด่วนก่อนลูกค้าก่อนปรับปรุงมีขั้นตอน 23 ขั้นตอน หลังปรับปรุงพบว่าเหลือ 12 ขั้นตอน แต่ระยะทางการเคลื่อนย้ายเพิ่มขึ้นจาก 355.5 เมตร เป็น 449.7 เมตร เนื่องจากพนักงานหน้าร้านต้องเดินขึ้นลงลิฟต์มากขึ้นรายการ การวางผังคลังสินค้าสำเร็จรูปด้วยเทคนิค ABC ANALYSIS กรณีศึกษา บริษัท AAA จำกัด(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2562) วรรณวิภา ชื่นเพ็ชรงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาการประยุกต์ใช้เทคนิค ABC Analysis ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า บริษัทกรณีศึกษา บริษัท AAA จำกัด (2) เพื่อศึกษาการลดระยะเวลาในการหยิบสินค้า โดยผู้วิจัยประยุกต์ใช้การจัดเรียงสินค้าABC Analysis โดยการออกแบบและวางผังคลังสินค้า ซึ่งในการดำเนินงานวิจัย ผลการศึกษาพบว่า นี้ พบว่าปัญหาที่เกิดจากการใช้เวลาในการเดินทางหยิบสินค้าซึ่งเกิดจากการขาดประสิทธิภาพในระบบการจัดเก็บสินค้าจึงทำให้ใช้เวลามากในการเดินทางหยิบสินค้า การจัดเรียงสินค้าด้วยเทคนิค ABC ทำให้พนักงานใช้เวลาในการเดินทางหยิบสินค้าน้อยลงโดยใช้ค่าเฉลี่ยของพนักงานจำนวน 5 คน ก่อนที่จะนำเทคนิค ABC เข้ามาช่วยในการจัดเรียงสินค้า พนักงานจำนวน 5 คน ใช้เลาในการเดินทางหยิบสินค้าเฉลี่ย 9.45 นาที และหลังจากที่มีการจัดเรียงสินค้าแบบ ABC พนักงานชุดเดิมจำนวน 5 คน ใช้เวลาในการเดินทางหยิบสินค้าเฉลี่ย 6.41 ลดลง 3.04 นาที จะเห็นได้ว่าพนักงานใช้เวลาในการหยิบสินค้าลดลง โดยการจัดเรียงสินค้าที่มียอดขายสินค้าสูงสุด (หน่วย : ลัง) ไว้ใกล้ประตูทางออก และสินค้าที่มียอดขายปานกลางหรือเคลื่อนไหวปานกลางและยอดขายสินค้าต่ำ หรือเคลื่อนไหวช้าไว้ตามลำดับ เพื่อเป็นการลดระยะเวลาและระยะทางในการเดินหยิบสินค้าได้อย่างเหมาะสมรายการ การวางผังคลังสินค้าสำเร็จรูปโดยหลักการ FAST-SLOW MOVING กรณีศึกษา : บริษัท เครือเจริญ แมชชีนเนอรี่ จำกัด(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2563) สุมิตรา เครือวัลย์การวางผังคลังสินค้าสำเร็จรูปโดยหลักการ Fast-Slow Moving กรณีศึกษา บริษัท เครือเจริญ แมชชีนเนอรี่ จำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ปรับปรุงการจัดวางรูปแบบแผนผังคลังสินค้าเป็นรูปแบบ Fixed Location System เพื่อลดปัญหาไม่ทราบตำแหน่งสินค้า และจัดการพื้นที่คลังสินค้าให้เป็นระเบียบ (2) แยกประเภทสินค้าสำเร็จรูปโดยหลักการ Fast-Slow Moving เพื่อลดระยะเวลาการหยิบสินค้า ดังนั้นผู้วิจัยได้จัดทำแผนผังคลังสินค้าใหม่และแยกประเภทโซนสินค้าที่มีปริมาณการส่งสูงสุดจัดไว้ด้านหน้าใกล้ที่จัดเตรียมสินค้ามากที่สุด และสินค้าที่มีปริมาณการส่งปานกลางและส่งน้อยจัดไว้ถัดออกมาตามลำดับ ซึ่งในการดำเนินงานวิจัยนี้พบว่าก่อนที่จะดำเนินงานวิจัยพนักงานส่งของประสบปัญหาการหาสินค้าไม่พบและใช้เวลาหยิบสินค้าเฉลี่ย 8.21 นาที ขนาดพื้นที่จัดเก็บสินค้ามีขนาด 109.96 ตารางเมตร หลังจากจัดทำคลังสินค้าใหม่และนำหลักการ Fast-Slow Moving มาจัดแยกประเภทสินค้าพบว่า ไม่เกิดข้อผิดพลาดของพนักงานในการหาสินค้าไม่พบ และใช้เวลาในการหาสินค้าเพียง 4.55 นาทีซึ่งลดลงจากเดิม 3.66 นาทีหรือร้อยละ 44.57และยังสามารถจัดทำพื้นที่คลังสินค้าใหม่ขนาด 37.15 ตารางเมตร ลดลงจากเดิมร้อยละ 66.21 จะเห็นได้ว่าพนักงานใช้เวลาในการหาสินค้าลดลงและไม่เกิดข้อผิดพลาดจากการหาสินค้าไม่พบ และยังสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดรายการ การวางผังคลังสินค้าห้องเย็น กรณีศึกษา ห้องเย็น ส.ทรัพย์สมุทร(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) อนิรุต ทรัพย์สุคนธ์ปัจจุบันธุรกิจห้องเย็นขายปลาทะเลแช่แข็งมีการแข่งขันสูง จึงต้องมีวิธีการจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพมาช่วย ปัจจัยที่สำคัญของห้องเย็น ส.ทรัพย์สมุทร คือ การลดความผิดพลาดในการหยิบสินค้า โดยการจัดวางผังสินค้าห้องเย็นใหม่ เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของธุรกิจให้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวธุรกิจ จากการศึกษาค้นคว้านี้ มีวัตถุประสงค์หลัก คือ ลดข้อผิดพลาดในการหยิบสินค้าผิดและวางแผนการจัดการเรียงสินค้าในคลังให้มีประสิทธิภาพโดยลดเวลาและระยะทางลง จึงได้นำเทคนิคการจัดเรียงสินค้าแบบ ABC (ABC ANALYSIS) เข้ามาช่วย อีกทั้งยังดึงวิธีการ First In First Out: FIFO มาช่วยจัดการเพื่อให้สินค้าที่มีอยู่ในห้องเย็น ที่เข้ามาก่อน ออกก่อน ป้องกันของเสียที่เกิดจากการเก็บสินค้าไว้นาน วิธี ABC เหมาะสมที่จะนำมาใช้เพราะ สินค้าไหนที่มียอดขายที่สูงจะต้องอยู่ใกล้กับทางเข้า เพื่อสามารถหยิบได้สะดวก ลดระยะเวลาในการเดินหยิบสินค้าเพราะ เป็นสินค้าที่มีการเคลื่อนย้ายบ่อย ทำให้สามารถลดระยะเวลาในการเดินหยิบสินค้าลงได้ครึ่งหนึ่งรายการ การศึกษารูปแบบโซ่อุปทานของร้านแว่นตารายย่อย(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) อนุกูล แป้นแก้วการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษารูปแบบโซ่อุปทานของร้านแว่นตารายย่อยโดยใช้ โซ่อุปทานการใช้ระบบของหน่วยงานคนเทคโนโลยีกิจกรรมข้อมูลข่าวสาร และทรัพยากรประยุกต์เข้าด้วยกันเพื่อการเคลื่อนย้ายสินค้าหรือบริการจากผู้จัดหาไปยังลูกค้ากิจกรรมของห่วงโซ่อุปทานจะแปรสภาพทรัพยากรธรรมชาติวัตถุดิบและวัสดุอื่นๆให้กลายเป็นสินค้าสำเร็จแล้วส่งไปจนถึงลูกค้าคนสุดท้าย (ผู้บริโภคหรือ End Customer) ในเชิงปรัชญาของโซ่อุปทานนั้นวัสดุที่ถูกใช้แล้วอาจจะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ที่จุดไหนของห่วงโซ่อุปทานก็ได้ถ้าวัสดุนั้นเป็นวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Recyclable Materials)โซ่อุปทานมีความเกี่ยวข้องกับห่วงโซ่คุณค่าเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของตนเองและร่วมกันศึกษารูปแบบสิ่งที่แสดงโครงสร้างของความเกี่ยวข้องระหว่างชุดของปัจจัยหรือตัวแปรต่างๆ หรือองค์ประกอบที่สำคัญในเชิงความสัมพันธ์หรือเหตุผลซึ่งกันและกันการจัดการโซ่คุณค่ามีองค์ประกอบสองอย่างที่มีบทบาทที่สำคัญได้แก่การจัดการห่วงโซ่อุปทาน(Supply chain management หรือ SCM) และการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer relationship management หรือ CRM)โดยห่วงโซ่อุปทานจะช่วยในเรื่องต่างๆอาทิเช่นการตัดสินใจว่าทรัพยากรหรือวัตถุดิบใดที่ควรจะสั่งเข้ามาในโซ่คุณค่าสั่งเข้ามาด้วยปริมาณเท่าใดทรัพยากรหรือวัตถุดิบเหล่านั้นจะถูกจัดการหรือบริหารอย่างไรเพื่อแปลงให้เป็นสินค้าหรือบริการได้ตามที่ลูกค้าต้องการและจะส่งสินค้าไปให้ลูกค้าได้อย่างไรมีกำหนดการการส่งเป็นอย่างไรการตรวจติดตามและควบคุมการส่งสินค้ารายการ การศึกษาสมรรถนะของบุคลากรด้านโลจิสติกส์ 4.0 ด้วยเทคนิคการแปลงหน้าที่เชิงคุณภาพ (QFD)(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) ภคพล พิงพิทยากุลการศึกษาสมรรถนะของบุคลากรด้านโลจิสติกส์ 4.0 นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎีของสมรรถนะที่จำเป็นของบุคลากรด้านโลจิสติกส์ และเพื่อกำหนดรายการสมรรถนะที่จำเป็นของบุคลากรด้านโลจิสติกส์ เพื่อรองรับแนวคิดโลจิสติกส์ 4.0 ผลการวิจัย พบว่า การวิเคราะห์สมรรถนะที่มีความสำคัญและจำเป็นของบุคลากรด้านโลจิสติกส์ในยุคโลจิติกส์ 4.0 ผู้ตอบแบบสอบถามบุคลากรส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารระดับกลาง (เช่น ผู้อำนวยการ ผู้จัดการ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้าศูนย์) ประเภทหน่วยงานเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ ประเภทธุรกิจตามกลุ่มสินค้าที่หน่วยงานของบุคลากรเป็นประเภทธุรกิจยานยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ยนต์และประเภทธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ตามลำดับ ผลการวิเคราะห์สมรรถนะของบุคลากรด้านความรู้ ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลปัญหาเบื้องต้น ด้านคุณธรรมจริยธรรม ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ด้านภาวะผู้นำ ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรมีทักษะการรับสินค้า ด้านภาวะผู้นำ ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรมีการรับรู้ความต้องการเป้าหมายขององค์กร ตามลำดับ และผลการวิเคราะห์ความเห็นเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์บุคลากรด้านโลจิสติกส์ ส่วนใหญ่บุคลากรมีความคิดเห็นในเรื่องของศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของบุคลากรส่วนใหญ่มีความสามารถปรับตัวได้ทันกับเทคโนโลยีในการทำงานและวิธีการจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรส่วนใหญ่เป็นการไปศึกษาดูงานรายการ การหาทำเลที่ตั้งคลังสินค้าด้วยเทคนิควิธีศูนย์กลางโน้มถ่วงและวิธีการประเมินระดับความสำคัญของปัจจัย กรณีศึกษา : ธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบอาหาร(มหาวิทยาลัยศรีปทุม, 2561) พนารัตน์ เหล่าพงศ์เจริญการค้นคว้าอิสระฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกทำเลที่ตั้งคลังสินค้า และ เพื่อเลือกทำเลที่ตั้งคลังสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น โดยใช้วิธีวิเคราะห์จุดศูนย์กลางแรงโน้มถ่วง (Center of Gravity Method) เพื่อหาทำเลที่เหมาะสม จุดที่หาได้ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งได้ที่ 146/26 บางแวก แขวงบางไพร เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่มีคลังสินค้าให้เช่า หรือ ไม่มีระบบโครงสร้างพื้นฐานใด ๆ เลย จึงได้ทำการขยายขอบเขตของการหาพื้นที่ออกไปในรัศมี 30 กิโลเมตร จากนั้นใช้วิธีประเมินระดับความสำคัญของปัจจัย (Factor Rating Method) กำหนดตัวแปรที่มีความสำคัญต่อการตัดสินใจจากการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้เสียแล้ว สามารถสรุปปัจจัยและ น้ำหนักที่จะนำมาพิจารณาเลือกทำเลที่ตั้งคลังสินค้าของบริษัทกรณีศึกษาได้ดังนี้ 1.ต้นทุนค่าขนส่ง 18% 2.โครงสร้างพื้นฐาน/ สภาพแวดล้อม 18% 3.ต้นทุนการดำเนินการ 17% 4.ต้นทุนด้านคลังสินค้า 16% 5.ภูมิศาสตร์/ การเข้าถึงลูกค้า 16% 6.การดำเนินธุรกิจ/ กฏระเบียบ 15% ใส่คะแนนให้ปัจจัยต่าง ๆ ในแต่ละสถานที่ตั้ง คำนวนค่าคะแนนกับค่าน้ำหนักของแต่ละปัจจัย แล้วรวมคะแนนทั้งหมดของแต่ละทางเลือก โดยคลังที่ได้คะแนนสูงที่สุด คือ บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน)