BUS-02. บทความวิชาการ/วิจัย (วารสารระดับชาติ)
URI ถาวรสำหรับคอลเล็กชันนี้
เรียกดู
การส่งล่าสุด
รายการ Innovative Strategies in the Marketing Mix to Enhance Health and Wellness Tourism Satisfaction: A Case Study of Thailand’s Digital Competitive Edge(Ramkhamhaeng International Journal of Science and Technology, 2025-04-14) Avirutha, AnupongThis study examines the correlation between the marketing mix (7Ps) and consumer satisfaction within the health and wellness tourism sector, with an emphasis on Thailand as a worldwide frontrunner. Furthmore, this study also explores innovative strategies such as digital health integration, AI-driven personalization, and sustainable wellness solutions to enhance Thailand’s competitive advantage in the health tourism industry. Data from 400 respondents indicate that People, Place, and Product are the most influential aspects, although Process and Physical Evidence also considerably affect satisfaction. Despite Price's limited impact, effective Promotion via digital media amplifies engagement. The regression model accounts for 67% of the variance in satisfaction (R² = 0.67, p < 0.001). The results underscore the necessity for superior service quality, cultural integration, and digital innovation to enhance Thailand's competitive advantage and foster sustainable growth in health tourism. Subsequent study ought to investigate the impact of demographic factors and technology innovations on customer choices.รายการ Innovative Service Design for Sustainability in the Tourism and Hospitality Industry: A Case Study of Small and Medium Hotels in Thailand(Ramkhamhaeng International Journal of Science and Technology, 2025-04-14) Aviruhta, AnupogIn the tourism and hospitality industry, innovative service design for sustainability plays a crucial role in balancing economic growth with environmental and social responsibility. This study investigates how policies, digital technology, and sustainability-driven service design impact small and medium-sized hotels in Thailand. Through quantitative research utilizing Structural Equation Modeling (SEM), the study examines the relationship between regulatory frameworks, digital readiness, and the adoption of sustainable service practices. The findings highlight the positive impact of policies, incentives, and compliance mechanisms on sustainability adoption. Furthermore, digital technologies—such as smart resource management systems, data-driven decision-making, and digital collaboration—significantly enhance sustainability efforts. The research confirms that well-implemented sustainable service design not only mitigates environmental impact but also enhances economic resilience and social well-being, fostering a more competitive tourism sector. The study underscores the need for continuous policy innovation, digital adaptation, and stakeholder collaboration to achieve long-term sustainability in Thailand’s tourism and hospitality industry.รายการ แนวทางการปรับตัวของ SMEs ไทยในอุตสาหกรรมอาหารในการเข้าสู่ตลาดส่งออกที่ยั่งยืน(วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, 2025-06-30) สุธินี มงคล และ ธรรมนูญ วิศิษฏ์ศักดิ์งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการส่งออกอย่างยั่งยืนของ SMEs ในอุตสาหกรรมอาหารของไทย ระดับความพร้อม แนวทางการปรับตัว และให้ข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ไทยในการเข้าสู่ตลาดส่งออกที่ยั่งยืน โดยอิงกรอบแนวคิด Export Readiness ร่วมกับหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เพื่อสะท้อนแนวโน้มของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานอาหาร การวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีแบบผสมผสาน (Mixed Methods) โดยเก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 150 ราย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร เชียงใหม่ และจังหวัดนครราชสีมา และข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์เชิงลึก 6 ราย ครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และภาควิชาการ ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการส่งออกอย่างยั่งยืน ได้แก่ ความพร้อมของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล การจัดการกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสื่อสารคุณค่า ESG และการสร้างเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ทั้งภายในประเทศและระดับสากล นอกจากนี้ งานวิจัยได้นำเสนอกรอบแนวคิด “3P Export Readiness Model” ประกอบด้วย Product Readiness (ความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์), Process Adaptation (การปรับกระบวนการ) และ Partnership & Platform (การสร้างเครือข่ายและแพลตฟอร์ม) ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการประเมินและพัฒนา SMEs อย่างเป็นระบบเพื่อเข้าสู่ตลาดส่งออกที่ยั่งยืนโดยมีข้อเสนอเชิงนโยบายที่สำคัญ ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์ความพร้อมด้านการส่งออกอาหาร การพัฒนาโครงการ Thai Food ESG Index และการขยาย “คลินิก ESG for SMEs” ในระดับภูมิภาค เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้อย่างมีความรับผิดชอบ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCGรายการ แนวทางการปรับตัวของ SMEs ไทยในอุตสาหกรรมอาหารในการเข้าสู่ตลาดส่งออกที่ยั่งยืน(วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, 2025-06-30) สุธินี มงคล และ ธรรมนูญ วิศิษฏ์ศักดิ์งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการส่งออกอย่างยั่งยืนของ SMEs ในอุตสาหกรรมอาหารของไทย ระดับความพร้อม แนวทางการปรับตัว และให้ข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ไทยในการเข้าสู่ตลาดส่งออกที่ยั่งยืน โดยอิงกรอบแนวคิด Export Readiness ร่วมกับหลัก ESG (Environmental, Social, and Governance) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เพื่อสะท้อนแนวโน้มของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในห่วงโซ่อุปทานอาหาร การวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีแบบผสมผสาน (Mixed Methods) โดยเก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 150 ราย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร เชียงใหม่ และจังหวัดนครราชสีมา และข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์เชิงลึก 6 ราย ครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และภาควิชาการ ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการส่งออกอย่างยั่งยืน ได้แก่ ความพร้อมของผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานสากล การจัดการกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสื่อสารคุณค่า ESG และการสร้างเครือข่ายเชิงกลยุทธ์ทั้งภายในประเทศและระดับสากล นอกจากนี้ งานวิจัยได้นำเสนอกรอบแนวคิด “3P Export Readiness Model” ประกอบด้วย Product Readiness (ความพร้อมด้านผลิตภัณฑ์), Process Adaptation (การปรับกระบวนการ) และ Partnership & Platform (การสร้างเครือข่ายและแพลตฟอร์ม) ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการประเมินและพัฒนา SMEs อย่างเป็นระบบเพื่อเข้าสู่ตลาดส่งออกที่ยั่งยืนโดยมีข้อเสนอเชิงนโยบายที่สำคัญ ได้แก่ การจัดตั้งศูนย์ความพร้อมด้านการส่งออกอาหาร การพัฒนาโครงการ Thai Food ESG Index และการขยาย “คลินิก ESG for SMEs” ในระดับภูมิภาค เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันในเวทีการค้าโลกได้อย่างมีความรับผิดชอบ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจ BCGรายการ บรรยากาศในการทำงานมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของพนักงานที่ปฏิบัติงานด้านธุรกิจโรงแรม เขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(วารสารราชภัฎเพชรบูรณ์สาร, 2567-12-01) กัลยารัตน์ ธีระธนชัยกุล; ศุภาสิณีย์ กาญจนโรจน์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับบรรยากาศในการทำงานและพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร ของพนักงานที่ปฏิบัติงานด้านธุรกิจโรงแรมเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และศึกษาบรรยากาศในการทำงานมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของพนักงานที่ปฏิบัติงานด้านธุรกิจโรงแรม เขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ คือ พนักงานที่ปฏิบัติงานด้านธุรกิจโรงแรมเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 375 คน ซึ่งในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย ดังนี้ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ สำหรับค่านัยสำคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ครั้งนี้กำหนดไว้ที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า ระดับบรรยากาศในการทำงานและพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร อยู่ในระดับปานกลาง ด้านการเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นที่มีต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กร จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกันมีพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์กรต่างกัน และบรรยากาศในการทำงานมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การรายการ บรรยากาศในการทำงานมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการเป็นสมาชิกที่ดีขององค์การของพนักงานที่ปฏิบัติงานด้านธุรกิจโรงแรม เขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์(วารสารราชภัฎเพชรบูรณ์สาร, 2567-12-01) กัลยารัตน์ ธีระธนชัยกุล; ศุภาสิณีย์ กาญจนโรจน์รายการ ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย(วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 2567-12-01) กัลยารัตน์ ธีระธนชัยกุล; ภาวิศา การัตน์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการดาเนินงานของธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มในประเทศไทย และศึกษาอิทธิพลของปัจจัยที่ส่งผลต่อผลการดาเนินงานของธุรกิจอาหารและ เครื่องดื่มในประเทศไทย ผู้วิจัยกาหนดกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารระดับหัวหน้าแผนกขึ้นไปที่ ปฏิบัติงานในองค์กรธุรกิจที่อยู่ในหมวดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทยเท่านั้น จานวน 300 คน ผู้วิจัยได้ทาการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการรวบรวมแบบสอบถามที่ได้รับทั้งหมด นามา วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใน การศึกษาครั้งนี้ มีดังนี้ ค่าความถี่ และค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์สมการถดถอย พหุคูณ สาหรับค่านัยสาคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์กาหนดไว้ที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า ระดับของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลการดาเนินงานของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มใน ประเทศไทย อยู่ในระดับมาก และปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ส่งผลต่อผลการดาเนินงานของธุรกิจ อาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยอยู่ในระดับมากรายการ The Impact of the European Green Deal on Thailand's Exports to the EU(วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, 2567-06) Suthinee Mongkol and Tammanoon WisitsakThis research investigates how the Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM) will impact Thailand's exports of steel and iron to the European Union (EU). The European Green Deal (EGD) is the European Commission's policy that aims to promote a green transition, along with the plan to make Europe the first continent to be climate neutral by 2050. This includes the sought-after Carbon Border Adjustment Mechanism (CBAM), which levies tariffs on carbon-importing goods to the EU. This research (1) evaluate how CBAM would affect Thailand's exports of steel and iron to the EU (2) explore the perceptions and preparedness of Thai export firms regarding CBAM (3) provide policy recommendations to mitigate adverse effects and leverage potential opportunities for Thailand. The study identifies concerns regarding cost rise and competitive loss based on semi-structured interviews with ten Thai export firms. The ten companies interviewed are located in various industrial regions of Thailand, including Bangkok, Samut Prakan, and Chonburi. It has also indicated that Thai manufacturers should embrace environmentally friendly production practices to manage these impacts effectively. The study also suggests that Thai policymakers should ensure that the CBAM legislation is accompanied by viable instrumental and technical support to reduce the initial cost borne by iron and steel traders in Thailand. Exporters must embrace innovations and improve their energy systems so that their products remain relevant in the EU region. Legal specifications and adequate communication systems with exporting entities and EU institutions are essential in managing CBAM provisions to sustain access to the market. The findings from the interviews revealed that Thai firms are concerned about the increased costs and potential competitive disadvantages. The companies expressed the need for technical assistance and clear communication to mitigate these impacts.รายการ ความพึงพอใจของกลุ่มผู้โดยสารชาวไทยที่เดินทางอยู่เป็นประจำในการรับบริการมื้ออาหารบนเครื่องบินโดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม(วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น, 2567-06) ธรรมนูญ วิศิษฏ์ศักดิ์ และสุธินี มงคลงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มผู้โดยสารที่มีการเดินทางอยู่เป็นประจำในประเด็นการรับบริการอาหารบนเครื่องบินโดยวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้โดยสารชาวไทยที่เป็นสมาชิกระดับสูงของสายการบิน มีการเดินทางในเส้นทางในประเทศและต่างประเทศรวมกันเกิน 50,000 ไมล์ต่อปีหรือเทียบเท่าตามเกณฑ์ของแต่ละสายการบิน งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากกลุ่มตัวอย่าง 20 ท่าน จากหลากหลายอาชีพ ผลการวิจัยพบว่าร้อยละ 70 ของกลุ่มตัวอย่างรู้สึกพึงพอใจโดยสามารถอภิปรายเหตุผลสนับสนุนออกมาได้เป็น 5 หัวข้อใหญ่ได้แก่ 1. มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม 2. เกิดความภาคภูมิใจในสายการบิน 3. มีความปลอดภัยมากกว่า 4. ไม่ได้มีความคาดหวังกับบริการอื่นนอกเหนือจากการขนส่ง 5. การลดต้นทุนของสายการบินซึ่งอาจนำไปสู่การลดราคาของบัตรโดยสารได้และร้อยละ 30 ของกลุ่มตัวอย่างรู้สึกไม่พึงพอใจโดยสามารถอภิปรายเหตุผลสนับสนุนออกมาได้เป็น 5 หัวข้อเช่นเดียวกัน ซึ่งได้แก่ 1. ขาดความสะดวกสบายในเรื่องของการใช้งาน 2. ไม่มั่นใจในเรื่องของความสะอาด 3. ไม่มั่นใจว่าจะเป็นการสร้างขยะเพิ่มหรือไม่ 4. เสียภาพลักษณ์ของสายการบิน 5. ไม่เชื่อมั่นในนโยบายการรักษาสิ่งแวดล้อมของสายการบิน ข้อเสนอแนะจากงานวิจัยได้แก่สายการบินควรพิจารณาเรื่องการสื่อสารและการให้ข้อมูลเพิ่มเติมในประเด็นนี้อย่างทั่วถึงแก่ผู้โดยสารเพื่อยกระดับความพึงพอใจให้มีมากขึ้นรายการ แรงสนับสนุนทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อความสุขของผู้สูงอายุเขตจังหวัดสมุทรปราการ(มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์, 2567-04) อรนิษฐ์ แสงทองสุข; ปิยะณัฐ เกียงประสิทธิ์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับแรงสนับสนุนทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อความสุขของผู้สูงอายุเขตจังหวัดสมุทรปราการ ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้สูงอายุสัญชาติไทย ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป เป็นสมาชิกสมาคมผู้สูงอายุเขตจังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 384 คน ซึ่งในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการรวบรวมแบบสอบถามที่ได้รับทั้งหมด นำมาวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย โดยกำหนดระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 ทั้งนี้สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ค่าความถี่ และ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัย พบว่า ระดับแรงสนับสนุนทางสังคม คือ ความรู้สึกนึกคิดหรือการรับรู้ของผู้สูงอายุต่อการได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนด้านต่าง ๆ การตอบสนองความต้องการ การได้รับกำลังใจและการส่งเสริมดูแลให้สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม ประกอบด้วย 1) การสนับสนุนด้านอารมณ์ หมายถึง การได้รับความรัก ความอบอุ่น การดูแลเอาใจใส่ มีความใกล้ชิดความผูกพัน และมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน 2) การสนับสนุนด้านแรงงาน สิ่งของ เงินทอง และบริการ หมายถึง การได้รับการช่วยเหลือด้านแรงงาน สิ่งของ เครื่องใช้ เงินทอง และความสะดวกในการรับบริการต่าง ๆ ในชุมชน และ 3) การสนับสนุนด้านข้อมูลข่าวสาร หมายถึง การได้รับข้อมูลข่าวสาร หรือ คำแนะนำ ต่าง ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ใน การดำเนินชีวิตประจำวันและสุขภาพจากบุคคลในสังคม อยู่ในระดับมาก ด้านความสุขของผู้สูงอายุ พบว่า ในภาพรวมความสุขของผู้สูงอายุ ตามความคิดเห็นของผู้สูงอายุ เขตจังหวัดสมุทรปราการ มีความสุขอยู่ในระดับน้อยกว่าคนทั่วไปรายการ ปัจจัยที่มีผลต่อผลการเรียนรู้ของนักศึกษา สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม(มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์, 2567-04) อรนิษฐ์ แสงทองสุข; รัชตา กาญจนโรจน์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อผลการเรียนรู้ของนักศึกษา สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักศึกษาสาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ชั้นปีที่ 1 รหัส 65 ทุกคน มีจำนวนทั้งสิ้น 120 คนที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา MGT ศาสตร์และศิลป์ในการสื่อสารทางธุรกิจเท่านั้น วิธีการที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ใช้สถิติการทดสอบค่าที (t - Test) แบบ Dependent และการทดสอบค่าที (t - Test) แบบ Independent ผลการวิจัย พบว่า การมีส่วนร่วมในชั้นเรียนของนักศึกษามีผลต่อผลการเรียนรู้ของนักศึกษา สาขาการบริหารและการจัดการสมัยใหม่ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม อยู่ในระดับมาก สาเหตุเป็นเพราะว่าการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนของนักศึกษา เป็นกระบวนการสร้างความรู้ เป็นการเรียนรู้ที่อาศัยประสบการณ์เดิมของนักศึกษา ก่อให้เกิดความรู้ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง ผู้เรียนสามารถกำหนดหลักการที่ได้จากการปฏิบัติและสามารถประยุกต์ใช้ทฤษฎีหรือหลักการได้อย่างถูกต้องเป็นการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมการทำงานเป็นกลุ่ม มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับนักศึกษา และมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาด้วยรายการ Marketing Mix and International Tourists' Consumer Behavior Towards Thai Street Food in Thailand After Post-COVID 19 Era(Sripatum University, 2566-12) อนุพงศ์ อวิรุทธา; รวิภา อัครจินดานนท์This study attempts to explore the factors that influence their preferences, decision-making, and overall satisfaction in order to gain insights into the role street food plays in shaping their cultural experience during their visit to Thailand. The respondents in this study were international tourists in Bangkok. The numbers of respondents are 200 respondents. The participants in this study are voluntary and anonymity. Descriptive, frequency, percentage distributions, Xs are used to describe and report the information collected affecting to individual variables and demographic information. The regression equation provided represents a statistical model that examines the relationship between the independent variables (product, price, place, and promotion) and the dependent variable (street food experience). It reveals that all four independent variables have positive coefficients, suggesting that improvements in product quality, reasonable pricing, attractive place (location), and effective promotions can enhance the overall street food experience.รายการ Driving Sustainable and Inclusive Growth in the Wellness Industry in Thailand(Sripatum University, 2567-04) รวิภา อัครจินดานนท์; อนุพงศ์ อวิรุทธาThe Thai wellness industry. Employing qualitative research methods, it analyzes the challenges and opportunities for driving sustainable and inclusive growth in the Thai wellness sector. The findings suggest that while sustainability practices are gaining traction, the industry must do more to enhance inclusivity in wellness services, ensuring accessibility and affordability to a broader segment of the population. This article underscores the importance of aligning the wellness industry in Thailand with sustainability and inclusivity goals to promote both individual well-being and the well-being of the broader community.รายการ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของหลักทรัพย์ : กรณีศึกษากลุ่มหลักทรัพย์การท่องเที่ยวและสันทนาการ(มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตอุบลราชธานี, 2567-04-30) รศ.ปัทมา โกเมนท์จำรัส และ ผศ.ดร. อนุพงศ์ อวิรุทธางานวิจัยนี้ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยพื้นฐานและอัตราผลตอบแทนหลักทรัพย์ในกลุ่ม การท่องเที่ยวและสันทนาการ ตามความแตกต่างสถานการณ์ตลาด การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่ส่งผลต่อผลตอบแทนหลักทรัพย์ในอุตสาหกรรมบริการหมวด ท่องเที่ยวและสันทนาการในสถานการณ์ของตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง ช่วงเวลา มกราคม 2561 ถึง ธันวาคม 2565 โดยใช้แบบจำลองสมการถดถอยเชิงพหุคูณในการทดสอบ ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยอัตราผลตอบแทนของตลาดจะส่งผลต่อผลตอบแทนหลักทรัพย์ในและสภาวะตลาดขาขึ้นและ ตลาดขาลงรายการ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของหลักทรัพย์ :กรณีศึกษาหลักทรัพย์กลุ่มธุรกิจการแพทย์(มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2567-04-30) รศ.ปัทมา โกเมนท์จำรัส; ผศ.สุภาวดี ฮะมะณีงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มีผลต่ออัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจการแพทย์ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในสถานการณ์ของตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง ช่วงเวลา มกราคม 2561 ถึง ธันวาคม 2565 โดยใช้แบบจาลองสมการถดถอยเชิงพหุคูณในการทดสอบ ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยอัตราผลตอบแทนของตลาดจะส่งผลต่อผลตอบแทนหลักทรัพย์ทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและตลาดขาลงรายการ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของหลักทรัพย์ : กรณีศึกษากลุ่มหลักทรัพย์การท่องเที่ยวและสันทนาการ(วารสารพุทธศาสตร์ มจร. อุบลราชธานี, 2567-01) ปัทมา โกเมนท์จารัส; อนุพงศ์ อวิรุทธางานวิจัยนี้ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยพื้นฐานและอัตราผลตอบแทนหลักทรัพย์ในกลุ่ม การท่องเที่ยวและสันทนาการ ตามความแตกต่างสถานการณ์ตลาด การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่ส่งผลต่อผลตอบแทนหลักทรัพย์ในอุตสาหกรรมบริการหมวดท่องเที่ยวและสันทนาการในสถานการณ์ของตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง ช่วงเวลา มกราคม 2561 ถึง ธันวาคม 2565 โดยใช้แบบจาลองสมการถดถอยเชิงพหุคูณในการทดสอบ ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยอัตราผลตอบแทนของตลาดจะส่งผลต่อผลตอบแทนหลักทรัพย์ในและสภาวะตลาดขาขึ้นและตลาดขาลงรายการ อิทธิพลของระดับคุณภาพชีวิตที่ส่งผลต่อความสุขของผู้สูงอายุ เขตกรุงเทพมหานคร(วารสารราชภัฏเพชรบูรณ์สาร, 2567-01) กิ่งแก้ว พรอภิรักษสกุล; ประเสริฐ สิทธิจิรพัฒน์The objectives of this study were to study the level of Quality of Life of the elderly. Bangkok area and to compare the level of happiness of senior citizens in Bangkok area as well as to study the influence of the level of Quality of Life that has an effect on the happiness level of the elderly Bangkok area. The sample group is the Elderly Thai nationality aged 60 years and over who are members of the Bangkok Elderly Association, totaling 384 people. From the sample schedule, the research instrument was a happiness assessment. Data analysis and processing by collecting all happiness assessments received. Used to process and analyze data. Using statistical packages for research Statistics used in data analysis in this study include frequency, percentage, mean, standard deviation, and ANOVA. The statistical significance used in the analysis was set at the 0.05 level. The results of the research found that the quality of life of the elderly Bangkok area at a high level in terms of overall happiness of the elderly, it was found that the elderly were less happy than the general population according to the Thai Happiness Index. In terms of happiness of the elderly, it was found that the level of happiness of the elderly people. In comparing the level of happiness of the elderly in Bangkok classified by personal factors, it was found that the personal factors are different and the elderly have different happiness levels.รายการ อิทธิพลของระดับคุณภาพชีวิตที่ส่งผลต่อความสุขของผู้สูงอายุ เขตกรุงเทพมหานคร(ราชภัฏเพชรบูรณ์สาร, 2567-01) กิ่งแก้ว พรอภิรักษสกุล; ประเสริฐ สิทธิจิรพัฒน์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับคุณภาพชีวิตและระดับความสุขของผู้สูงอายุ เขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อเปรียบเทียบระดับความสุขของผู้สูงเขตกรุงเทพมหานครจาแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ตลอดจนเพื่อศึกษาอิทธิพลของระดับคุณภาพชีวิตที่มีต่อระดับความสุขของผู้สูงอายุ เขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สูงอายุสัญชาติไทย ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่เป็นสมาชิกสมาคมผู้สูงอายุเขตกรุงเทพมหานคร จานวน 384 คน จากตารางกาหนดหนดกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบประเมินความสุข การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลโดยการรวบรวมแบบประเมินความสุขที่รับมาทั้งหมด นามาประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ ANOVA สาหรับค่านัยสาคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์กาหนดไว้ ที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า ระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เขตกรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับมาก ด้านความสุข ของผู้สูงอายุในภาพรวม พบว่า ผู้สูงอายุ มีความสุขอยู่ในระดับน้อยกว่าคนทั่วไปตามดัชนีชี้วัดความสุขคนไทย ด้านการเปรียบเทียบระดับความสุขของผู้สูงเขตกรุงเทพมหานครจาแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกันผู้สูงอายุมีความสุขต่างกันรายการ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมของธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคบริการ ประเภทด้านที่พักแรม ของประเทศไทย(วารสารวิชาการเทคโนโลยีการจัดการ, 2567-01-01) รศ.ดร.กัลยารัตน์ ธีระธนชัยกุล และ ดร. ชัยนรินท์ ธีรไชยพัฒน์บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมของธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคบริการ ประเภทด้านที่พักแรม ของประเทศไทย ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ คือ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยเลือกศึกษาเฉพาะ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคบริการประเภทด้านที่พักแรม ที่เป็นสมาชิกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย จำนวน 400 คน ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการรวบรวมแบบสอบถามที่ได้รับทั้งหมด นำมาวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย โดยกำหนดระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ มีดังนี้ ค่าความถี่ และค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ สำหรับค่านัยสำคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์กําหนดไว้ที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยด้านการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ส่งผลต่อการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมของธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคบริการ ประเภทด้านที่พักแรม ของประเทศไทยอยู่ในระดับมากรายการ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคการค้าประเภท การขายส่ง-การขายปลีก ของประเทศไทย(วารสารวิชาการเทคโนโลยีการจัดการ, 2566-12-31) รศ.ดร.กัลยารัตน์ ธีระธนชัยกุล และ ผศ.ดร. อมรรักษ์ สวนชูผลการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคการค้าประเภท การขายส่ง-การขายปลีก ของประเทศไทย ผู้วิจัยกำหนดกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคการค้าประเภท การขายส่ง-การขายปลีก ที่เป็นสมาชิกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย เท่านั้น ขนาดของกลุ่มตัวอย่างมี จำนวน 527 คน ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยการรวบรวมแบบสอบถามที่ได้รับทั้งหมด นำมาวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัย โดยกำหนดระดับความมีนัยสำคัญ 0.05 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ และค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ สำหรับค่านัยสำคัญทางสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์กําหนดไว้ที่ระดับ 0.05 ผลการวิจัย พบว่า ความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและเครือข่ายทางธุรกิจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขัน การที่ธุรกิจสามารถปรับตัวและนำเทคโนโลยีและเครือข่ายทางธุรกิจมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและสามารถตอบสนองต่อเปลี่ยนแปลงในตลาดได้ดีขึ้น ดังนั้น เทคโนโลยีและเครือข่ายทางธุรกิจจึงมีผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคการค้าประเภท การขายส่ง-การขายปลีก ของประเทศไทย อยู่ในระดับสูง
- «
- 1 (current)
- 2
- 3
- »