Please use this identifier to cite or link to this item: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/5405
Title: ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการอุทธรณ์หรือฟ้องคดีของ ข้าราชการพลเรือนต่อคำวินิจฉัยชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
Other Titles: LEGAL PROBLEMS RELATED TO APPEAL OR FILE A LAWSUIT OF CIVIL OFFICER AGAINST THE NATIONAL COUNTER CORRUPTION COMMISSION IN GOVERNMENT SECTOR EXPRESSING PRIMA FACIE CASE
Authors: นุสรา น่วมดำริห์
Keywords: การอุทธรณ์หรือฟ้องคดี
ข้าราชการพลเรือน
คำวินิจฉัยชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
Issue Date: 2560
Publisher: มหาวิทยาลัยศรีปทุม
Citation: นุสรา น่วมดำริห์. 2560. "ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการอุทธรณ์หรือฟ้องคดีของ ข้าราชการพลเรือนต่อคำวินิจฉัยชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ." สารนิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มวิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
Series/Report no.: SPU_นุสรา_2560
Abstract: สารนิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษาถึงการอุทธรณ์หรือฟ้องคดีของข้าราชการพลเรือน ต่อคำวินิจฉัยชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. เพื่อศึกษาแนวทางในการตรวจสอบหรือถ่วงดุลคำวินิจฉัยชี้มูลความผิด ของคณะกรรมการ ป.ป.ท. ตามพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 เพื่อเป็นหลักประกันความเป็นธรรมให้แก่ข้าราชการพลเรือนต่อไป จากการศึกษาพบว่า สิทธิในการอุทธรณ์หรือฟ้องคดีของข้าราชการพลเรือนต่อคำวินิจฉัยชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ท. ยังไม่ได้รับความคุ้มครองอย่างเพียงพอ เนื่องจากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 กำหนดให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาที่ถูกลงโทษ โดยมติชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ท. ให้มีสิทธิอุทธรณ์ดุลพินิจในการกำหนดโทษของผู้บังคับบัญชาเท่านั้น แต่องค์กรผู้มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ไม่อาจเปลี่ยนแปลงฐานความผิดตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ท. ชี้มูลความผิดได้ และศาลปกครองไม่อาจตรวจสอบมติชี้มูลความผิดทางวินัยของคณะกรรมการ ป.ป.ท.ในขั้นตอนก่อนที่ผู้บังคับบัญชา ออกคำสั่งลงโทษทางวินัยได้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีมติคณะรัฐมนตรีที่จำกัดอำนาจดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ได้ 2 กรณี คือ 1. ความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และ 2. ความผิดฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกัน เป็นเวลาเกิน 15 วันโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และไม่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยกำหนดที่ให้ต้องลงโทษไล่ออกสถานเดียวสำหรับความผิดสองฐานนี้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ที่บัญญัติ ให้ผู้บังคับบัญชามีอำนาจดุลพินิจที่จะลงโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการก็ได้ ตามความร้ายแรง แล้วแต่กรณี
Description: นุสรา น่วมดำริห์. ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการอุทธรณ์หรือฟ้องคดีของ ข้าราชการพลเรือนต่อคำวินิจฉัยชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ. สารนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มวิชากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม พ.ศ. 2560.
URI: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/5405
Appears in Collections:LAW-11. การค้นคว้าอิสระ/สารนิพนธ์



Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.