กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/6358
ชื่อเรื่อง: มาตรการทางกฎหมายในการกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความและ ที่ปรึกษากฎหมายมีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542
ชื่อเรื่องอื่นๆ: LEGAL MEASURE OF REQUIRING ATTORNEY-AT-LAW AND LEGAL COUNSEL TO REPORT TRANSACTION INVOLVED UNDER ANTI-MONEY LAUNDERING ACT B.E. 2542
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: พรรษวุฒิ โพธิ์ทอง
คำสำคัญ: ทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย
การรายงานธุรกรรม
กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
วันที่เผยแพร่: 2562
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยศรีปทุม
แหล่งอ้างอิง: พรรษวุฒิ โพธิ์ทอง. 2562. "มาตรการทางกฎหมายในการกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความและ ที่ปรึกษากฎหมายมีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542." สารนิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มกฎหมายธุรกิจ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
หมายเลขชุด/รายงาน: SPU_พรรษวุฒิ โพธิ์ทอง_T184032
บทคัดย่อ: สารนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงการรายงานการทำธุรกรรมตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และศึกษาถึงลักษณะของการประกอบวิชาชีพของทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย โดยศึกษาจากกฎหมายของประเทศไทยเปรียบเทียบกับมาตรการสากลตามข้อแนะนำของ FATF กฎหมายประเทศสิงคโปร์ สหราชอาณาจักรและประเทศนิวซีแลนด์ ที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว เพื่อนำมาแก้ไขเพิ่มเติมผู้มีหน้าที่ในการรายงานการทำธุรกรรมตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เพื่อให้กฎหมายดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากการศึกษาพบว่าในปัจจุบัน การประกอบวิชาชีพของทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย มีลักษณะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สินของลูกความ ในการเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ การให้บริการในการจัดตั้งองค์กรทางธุรกิจ หรือการให้บริการให้คำปรึกษาในการทำนิติกรรมหรือสัญญา เป็นต้น โดยในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวของผู้ประกอบวิชาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมายมีการเข้าไปเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินหรือทุนทรัพย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้กระทำความผิดที่กำหนดไว้เป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 สามารถใช้บริการจากผู้ประกอบวิชาชีพดังกล่าวได้ แต่พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ยังไม่มีมาตรการทางกฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมายมีหน้าที่ต้องรายงานการทำธุรกรรม ในธุรกรรมบางประเภท ดังเช่นมาตรฐานสากลหรือกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของประเทศสิงคโปร์ สหราชอาณาจักรและประเทศนิวซีแลนด์ จึงทำให้ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความและที่ปรึกษากฎหมายของไทยตกอยู่ในความเสี่ยงที่อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกเงินหรือเข้าไปมีส่วนร่วมในการฟอกเงินได้
รายละเอียด: พรรษวุฒิ โพธิ์ทอง. มาตรการทางกฎหมายในการกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความและ ที่ปรึกษากฎหมายมีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542. สารนิพนธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต กลุ่มกฎหมายธุรกิจ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม พ.ศ.2562
URI: http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/6358
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:LAW-11. การค้นคว้าอิสระ/สารนิพนธ์



รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น